เจ้าฟ้า “บุคคลสำคัญโลก” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…?

เปลว สีเงิน

เกิดเป็นชาติเชื้อเนื้อกษัตริย์ ใครก็อย่านึกว่าสบาย?
ผมเป็นคนในรัชกาลที่ ๘ แต่โตรู้ความในรัชกาล ที่ ๙
สมัยนั้น มีหนังสือพิมพ์ “เพลินจิตต์” รายวัน
ยังไม่ชอบอ่านข่าว แต่ชอบดูรูปภาพในหน้าหนังสือพิมพ์
ภาพที่เห็นประจำคือ ภาพในหลวงและพระราชินี “รัชกาลที่ ๙” เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรตามต่างจังหวัด
โตขึ้นมาหน่อย จากที่ชอบดูแต่ภาพ เริ่มอ่านข่าวประกอบ ก็รู้ว่า ที่เสด็จฯ ไปบ่อยๆ คือ “ภาคอีสาน”

“อีสาน” คู่กับคำว่า “แล้ง” ยุคนั้น!
เพราะแห้งแล้ง ทุรกันดารจริงๆ ขนาดชาวบ้านต้องยกเป็นขบวนคาราวานออกเรี่ยไร “ข้ามภาค-ข้ามถิ่น”

ถนนหนทางก็ไม่มีเหมือนทุกวันนี้ มีแต่ทางเกวียนไปตามทุ่ง ตามป่า
ด้วยทุรกันดาร แห้งแล้ง นั่นแหละ แต่เมื่อมีพสกนิกรของพระองค์อาศัยอยู่ในถิ่นฐานนั้นๆ

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯพระบรมราชินีนาถ” ทรงดั้นด้นไปทรงเยี่ยมเยียนถึงที่นั้น โดยมิย่อท้อ

ผมเห็นรูปภาพและข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวัน ตอนนั้น ยังเป็นเด็ก ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่พอโตขึ้น บางจังหวะชีวิต “ภาพฝังจำ” ในอดีต มันผุดขึ้นในห้วงคิด เมื่อคิด…คิด…ก็เกิด “สะท้อนคิด”

ใครว่า “เป็นเจ้าฟ้า-เจ้าแผ่นดิน” สุขสบาย?
คำว่า “พระเจ้าแผ่นดิน” ไม่ใช่พระผู้อยู่เหนือแผ่นดิน

หากแต่ “พระเจ้าแผ่นดิน” คือ…….
พระผู้ทรง “แบกแผ่นดิน” และทรงแบก “สุข-ทุกข์” พสกนิกร อันเป็นอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ “ทั้งแผ่นดิน” ตะหาก

ยิ่งโต-ยิ่งเห็น ยิ่งตรอง ยิ่งเข้าใจ
เมื่อได้ฟัง “พระบรมราโชวาท” ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ปี พศ.๒๕๐๖ ว่า

“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็น ก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้ว คนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่า “ไม่มีใครเห็น”

แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้”

ทบทวนคิดอยู่หลายปี คิด..จนมีความรู้สึก “เฉพาะตัว” เกิดขึ้น คือ
ชาติหน้าฉันใด ถ้าเลือกเกิดได้
ผมขอเกิดเป็น “ลูกชาวบ้าน” ทุกชาติไป!

เพราะยากดีมีจนขนาดไหนก็แบกแค่ “ชีวิตเดียว” คือตัวเรา
ต่างกับเกิดมาเป็น “หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์”

ในความเป็นผู้มี “บุญวาสนาบารมีสูงส่ง” นั้น…..
เป็นความสูงส่งที่ต้องสละ “ทั้งสุข-ทั้งทุกข์” แม้กระทั่ง “พระชนม์ชีพ” ของพระองค์ เพื่อแผ่นดิน เพื่ออาณาประชาราษฎร์ทั้งมวล

นี่คือ คน “ชาติเชื้อเนื้อกษัตริย์” พระผู้แบกแผ่นดิน!

ประกายคิดสู่ประเด็นนี้ หลังทราบว่า วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ คือวันนี้
เป็นวาระ “ครบ ๑๐๐ ปี” วันคล้ายวันประสูติ
“สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”

ซึ่งประสูติ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๖ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ในฐานะ “พี่สาว” ของพระเจ้าแผ่นดินถึง ๒ พระองค์

ทั้งเป็นพี่คนโต ต้องช่วยงานแม่ คือ “สมเด็จย่า”
ทั้งแบ่งเบาราชภาระกิจ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เพื่อยังประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมาตลอดพระชนม์ชีพ

งานอุทิศประโยชน์ตน เพื่อประโยชน์คนในชาติสู่อนาคต
ทุกคนรู้ แต่ก็ “แค่” รู้

นี้คือ “กุญแจไข” คำว่า “ปิดทองหลังพระ” เป็นดั่งนี้นี่เอง
แต่ทองหลังพระนั้น ในที่สุด ทะลักล้นออกมาข้างหน้าให้ชาวโลกได้เห็น

และนำมาสู่วันนี้ คือ…….
“องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ” หรือ “องค์การยูเนสโก” (UNESCO)
ได้มีมติประกาศยกย่องให้

“สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”
ทรงเป็น “บุคคลสำคัญของโลก”

ด้วยพระกรณียกิจด้าน “การศึกษา, วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม”

จึงมีการเฉลิมฉลองทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ ดังคำประกาศ
งานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี

วันประสูติ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”
และวโรกาสที่ทรงได้รับการยกย่องพระเกียรติคุณ
ในฐานะ “บุคคลสำคัญของโลก”

โดยองค์การ UNESCO แห่งสประชาชาติ
………………….

“สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”ทรงเป็นพระธิดาพระองค์แรกแห่ง “ราชสกุลมหิดล”
ใน “สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก” และ “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี”

ทรงเป็น “สมเด็จพระเชษฐภคินี” ใน “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล” พระอัฐมรามาธิบดินทร และ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร”

และทรงเป็นพระราชปิตุจฉาใน “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

“สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”
ประสูติ เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๖๖ และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๑

ดังนั้น ปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ จึงเป็นวาระมหามงคลครบรอบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ

ในการเฉลิมฉลองวาระมหามงคลนี้ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดงานเฉลิมฉลองและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ
รับการจัดงานเฉลิมฉลองนี้ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์

รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง

“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ทรงเป็นประธานที่ปรึกษาจัดงานฯ
ในระดับนานาชาติ

การเฉลิมฉลองของประชาชนชาวไทยในครั้งนี้
ดำเนินการร่วมกับองค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)

โดยการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ ๔๑ พุทธศักราช ๒๕๖๔ที่ประชุม มีมติรับรอง การร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปี
วันประสูติ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”

และยกย่องพระเกียรติคุณ ในฐานะ “บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์” ด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและคณิตศาสตร์ และด้านวัฒนธรรม

ด้วยการสนับสนุนของประเทศสมาชิกองค์การยูเนสโก ๖ ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรโมร็อกโก, สมาพันธรัฐสวิส, สหพันธรัฐรัสเซีย, สาธารณรัฐประชาชนจีน, สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

ตลอดพระชนม์ชีพ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์”
ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจมากมายแก่ประเทศชาติและปวงชนชาวไทย เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระ

“พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร” และ “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี”

พระกรณียกิจมากมาย ที่ทรงได้รับยกย่องจากองค์การ UNESCO ได้แก่ การสร้างการศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึง
การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต, การส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและคุณภาพของบุคลากรครูผู้สอนภาษา

การส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาเยาวชนให้เป็นทรัพยากรบุคคลในการขับเคลื่อนประเทศ

รวมทั้งการส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างวัฒนธรรม โดยผ่านการก่อตั้งและทรงรับอุปถัมภ์สมาคม มูลนิธิต่าง ๆ รวมกว่า ๗๐ แห่ง

ต่างเป็นพระกรณียกิจที่สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์ต่อสาธารณชนและพสกนิกรชาวไทยและระดับนานาชาติ
…………………………

ครับ ก็นำมาคุย ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ

บ้านเมืองวันนี้ “รุ่นใหม่-รุ่นเก่า” อย่าว่าแต่ทองหน้าพระก็ไม่ปิดเลย ยังแย่งกัน “ลอกทอง” ด้วยซ้ำ!
“พระ” คือ “ประเทศ”

ที่คิดจะปิดทองหลังพระ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่ “งามบริบูรณ์”
ดั่ง “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ทรงเพียรกระทำ นั้น

“โลก” เห็น…….
แล้วเรา “คนไทย” ล่ะ เห็นกันหรือยัง?

เปลว สีเงิน

๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก ฤๅ ด้วยรักและภักดี

Written By
More from plew
“ขายเพื่อน” ใครจะคบ? – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” สมแล้ว ที่มีคนเรียก “เทพโจ๊ก” บ้าง “มารโจ๊ก” บ้าง “แมวเก้าชีวิต” บ้าง...
Read More
0 replies on “เจ้าฟ้า “บุคคลสำคัญโลก” – เปลว สีเงิน”