สันต์ สะตอแมน
ปลดล็อกเซ็กซ์ทอย!
นี่..เป็นอีกหนึ่งนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ยุคผลัดใบ ที่คุณรัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหาร ได้พยายามอธิบาย-โน้มน้าวว่า..
ปัจจุบัน ประเทศไทยกำหนดให้เซ็กซ์ทอย (Sex Toy) หรืออุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ เป็นสินค้าต้องห้าม เป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเข้าข่ายลามกอนาจาร เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม
รวมถึงถูกตีความเป็นวัตถุผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 และถูกจัดให้เป็นวัตถุที่เป็นของต้องห้ามตามความหมายในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560….
ที่จริง เซ็กซ์ทอยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด หรือใช้ในการกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ที่มีปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
รวมถึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน โดยเซ็กซ์ทอยมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามวิธีการใช้งาน อาทิ ไวเบรเตอร์ ตุ๊กตายาง ดิลโด
นอกจากนี้ เซ็กซ์ทอยยังมีประโยชน์ด้านสังคม เพราะสินค้าประเภทนี้จะสามารถลดการค้าบริการ และปัญหาการหย่าร้างจากความต้องการทางเพศที่ไม่สมดุล
ที่สำคัญจะมีส่วนช่วยลดอัตราการก่ออาชญากรรมทางเพศ…ในแง่เศรษฐกิจ จากรายงานของบริษัทวิจัย เทคนาวิโอ ของประเทศอังกฤษ
ได้คาดการณ์การเติบโตของตลาดเซ็กซ์ทอย ช่วงปี 2562-2566 ว่าจะเติบโตต่อเนื่องปีละ 7 เปอร์เซ็นต์ สร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 3 แสนกว่าล้านบาท..
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์..เราสนับสนุนให้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเซ็กซ์ทอย..แยกสินค้าเซ็กซ์ทอยออกจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287
แล้วกำหนดเป็นสินค้าควบคุมพิเศษภายใต้การกำกับของหน่วยงานของรัฐ และต้องกำหนดหลักเกณฑ์ผู้ซื้อเซ็กซ์ทอยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี”
ครับ..เห็นด้วยก็ช่วยกาเบอร์ประชาธิปัตย์สนับสนุน แต่รุ่นผมมี-ไม่มีเซ็กซ์ทอย ชีวิตก็สุขสบายดีแล้ว!
ส่วนนั่น..ไม่ได้บอกให้กาพรรคไหน ผมหมายถึงหนุ่มปักษ์ใต้ใครก็ไม่รู้ จะเป็นผู้สมัครส.ส.รึเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ดูทรง-ดูลีลา ถ้าจะเอาดีในอาชีพนักการเมืองรับรองว่าเป็น “ดาวสภา” ได้สบาย
คือ..เขาได้ทำคลิปพูดสำเนียงปักษ์ใต้คล้ายกำลังหาเสียงบนเวที (ผมขออนุญาตแปลเป็นกลาง) ว่าอย่างนี้..
“เขาเอาเงินมาให้เธอหนึ่งพันบาท ถ้าเธอรับไว้แล้วเธอก็กาให้เขา เหมือนเขาสั่งไว้เลยว่าต้องกาให้เขา
เธอรู้ไหม หนึ่งพันนี้ เขาให้เธอมาทันทีปุ๊บ พอเขาได้ไปเป็นส.ส. เธอหารด้วย 365 วัน ตกวันหนึ่งสองบาทเจ็ดสิบสตางค์
เธอดูมูลค่าของเธอนะ “วันละสองบาทเจ็ดสิบสตางค์” ให้เขาซื้อได้ นี่หารแค่ 365 วันนะ ยังไม่ได้หารสี่ปีที่เขาอยู่ หารสี่ปี ตกวันหนึ่ง “หกสิบแปดสตางค์” คิดดู
มันเจ็บปวดใจ กูปล่อยให้มันซื้อไปได้อย่างไร หกสิบแปดสตางค์ พอหลังจากนั้นเขาหายไป 4 ปี พี่น้องพยายามเรียกร้องว่า ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ คนในชุมชนเจ็บไข้ไม่สบายทำไมไม่มาดูแล
เธออย่าไปเรียกร้องเลย ศูนย์จุดหกสิบแปดสตางค์ เขาซื้อเธอไปแล้ว เธอจะเอาอะไรไปเรียกร้องเขาล่ะ เพราะว่าเธอคิดดู คนๆหนึ่งลงทุนไป 50 ล้าน
พอทันทีที่เขาประกาศว่าเขาชนะการเลือกตั้ง เขาใส่สูทเข้าสภา เขาไม่มีกะจิตกะใจอะไรที่จะมาคิดถึงเธอแล้วนะ เพราะเขาจะคิดแต่เรื่อง 50 ล้านที่เขาลงทุน เขาจะเอาคืนอย่างไร
เขาจะคิดว่าทำอย่างไรๆ ถ้ายุบสภาใน 4 เดือนนี้ ขาดทุนยับเยิน รีบก่อนรีบ”!
เอ้า..ใครจะตีราคาตัวเอง “หกสิบแปดสตางค์” เชิญไม่ว่ากัน..
ประชาธิปไตยไทยๆ ก็พรรค์นี้แหละ!