23 เมษายน 2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหาร และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ตลาดเช้าศิริเกษม หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค กทม. ร่วมกับ นายเอกชัย ผ่องจิตร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตการเลือกตั้งที่ 29 (บางแค-หนองแขม) หมายเลข 7 เพื่อพบปะประชาชน พร้อมชูนโยบายพัฒนาพื้นที่และแก้ไขการจราจร
นายสกลธีกล่าวว่า บริเวณจุดนี้เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ในเขตบางแค เป็นหมู่บ้านยุคเก่าที่ปัญหาส่วนใหญ่คือบางจุดยังเป็นที่ของเอกชน ไม่ได้ยกให้เป็นที่สาธารณะ ทำให้ทาง กทม.ไม่สามารถเข้ามาพัฒนาดูแลในส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งท่อระบายน้ำยังมีขนาดเล็ก
ซึ่งในส่วนนี้ทางพรรค พปชร.จะใช้งบประมาณส่วนกลางเข้ามาดูแลในจุดนี้ อีกปัญหาคือการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางไปสถานีรถไฟฟ้า ปัจจุบันส่วนใหญ่ยังใช้รถส่วนตัวกันอยู่ ทำให้การจราจรติดขัด ในส่วนนี้ต้องมีขนส่งสายรอง (Feeder) ที่สอดคล้องกับสภาพของพื้นที่ เพื่อรับส่งประชาชนในอยู่บ้านย่านนี้กว่าหมื่นครัวเรือน เชื่อมระบบขนส่งสาธารณะ ไปยังสถานีรถไฟฟ้า
นายสกลธีกล่าวต่อว่า ในส่วนของสาธารณสุข ในพื้นที่นี้มีโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ของ กทม.อยู่ แต่ไม่มีรถเมล์รถสาธารณะผ่านทั้งที่เป็นโรงพยาบาลใหญ่รับผิดชอบดูแลพี่น้องถึง 5 เขต จึงจำเป็นต้องปรับเส้นทางรถ ขสมก.ให้สอดคล้องกับความจำเป็นของประชาชนมากขึ้น
“การลงพื้นที่วันนี้ได้รับการแสการตอบรับของประชาชนเป็นอย่างดี เพราะคุณเอกชัย ผ่องจิตร์ ผู้สมัครของเราลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยมาตลอด ทั้งนี้ทางพรรคมั่นใจในคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคนที่พรรคเลือกมาว่าจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีทุกคน”
ในส่วนที่มีกลุ่มคนมาป่วนเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ และไปช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงนั้น นายสกลธีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ย้อนแย้ง เพราะคนบางกลุ่มอยากให้มีประชาธิปไตยแต่ไปรบกวนการหาเสียงของพรรคการเมืองอื่น ตนมองมองว่าวันนี้ประเทศเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเต็มที่ ทุกคนลงเลือกตั้งด้วยกติกาเดียวกันก็ควรแข่งกันตามกติกา หมดเวลาปั่นวาทกรรมพรรคทหาร ฝ่ายเผด็จการแล้ว ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่าว่าอยากให้ใครเข้ามาดูแลมากกว่ากัน
จากนั้นนายสกลธีได้เดินทางไปตลาดเช้าวัดหนองแขม เพื่อช่วย นายมานพ มารุ่งเรือง ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 28 (จอมทอง บางบอน หนองแขม) หมายเลข 1 โดยนายสกลธีกล่าวว่า ในเขตนี้ตนมั่นใจเต็มที่เพราะนายมานพเป็น ส.ข.มา 2 สมัย ดูแลพื้นที่เป็นอย่างดี เกาะติดปัญหา ใกล้ชิดประชาชน ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย บอกว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ 2 ป.นั้นก็เป็นสิทธิของเขา ซึ่งต้องถามด้วยว่าเราจะอยากร่วมด้วยหรือเปล่า
“จุดยืนของพรรคพลังประชารัฐคืออยากก้าวข้ามความขัดแย้ง เราอยากเปิดโอกาสให้กับทุกฝ่าย อยากให้การหาเสียงของแต่ละพรรคเป็นไปด้วยดี ไม่มีการปะทะกันระหว่างพี่น้องประชาชน ให้ทุกคนรักกันเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไปรวมกับใครก็ได้ เราก็มีจุดยืนเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าพรรคไหนแนวทางไม่ตรงกัน ก็รวมกันไม่ได้ และพรรคที่มีนโยบายทำลายเศรษฐกิจ เราก็รวมด้วยไม่ได้เช่นกัน”