พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัยย่อยโซนธนบุรีใต้ “พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ” ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางมด โดยมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ , ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม., นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และนายอุตตม สาวนายน
โดยนายชัยวุฒิ กล่าวปราศรัยว่า สถานการณ์ในขณะนี้ราคาพลังงานสูงมากซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชนคนไทย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเล็งเห็นว่า เราจะต้องเข้ามาช่วยเหลือประชาชน และแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยการลดค่าไฟฟ้าให้เหลือหน่วยละ 2.50 บาท เราปรึกษากันแล้วว่า เราทำได้ เพราะเรามีทีมเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์หลายคนมานั่งถกปัญหานี้ร่วมกัน แต่นโยบายดี ๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐของเราไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า พลเอกประวิตรเป็นคนแรกที่พูดถึงนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ก็ยังไม่เห็นว่าคนไทยจะหยุดทะเลาะกัน บางคนก็คิดแต่เพื่อตัวเอง คิดถึงแต่ครอบครัวตัวเอง ทำในสิ่งที่คนไทยเขารับไม่ได้ ก็จะนำมาซึ่งการทะเลาะกัน โดยพลเอกประวิตรจึงเห็นว่า เราต้องเข้าข้ามความขัดแย้ง เพื่อมาคุยกัน ช่วยกันทำงานด้วยความสามัคคี เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นอถ้าเรามัวแต่ทะเลาะกัน รัฐบาลบริหารงานไม่ได้ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ ประชาชนก็ทำมาหากินไม่ได้
“นี่คือที่มาว่ารัฐบาลชุดใหม่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ลุงป้อมจึงเป็นที่นิยมของประชาชน วันนี้ผมเห็นโพลหลายโพล โดยเฉพาะโพลออนไลน์ไม่มีชื่อคะแนนความนิยมให้กับพลเอกประวิตรเลย ผมก็เดินลงพื้นที่ต่างๆเพื่อไปคุยกับพี่น้องประชาชน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้าม เพราะเสียงตอบรับจากประชาชนต้องการให้พลเอกประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีในโลกความเป็นจริงไม่ใช่ในโลกออนไลน์ เพราะว่าพูดจริงทำจริงและพูดในสิ่งที่ทำได้”
ทั้งนี้นายชัยวุฒิยังได้แสดงภาพตราแผ่นดินขึ้นในบริเวณเวทีปราศรัย พร้อมระบุว่า ส่วนบนสุดตรงกลาง คือ ภาพพระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี หมายถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ ภายใต้พระมหาพิชัยมงกฎเป็นภาพจักรและตรีไขว้ เรียกว่า ตรามหาจักรี ความหมายโดยรวม จึงแปลว่า พระมหากษัตริย์ แห่งพระราชวงศ์จักรี ทางด้านซ้ายและขวาของพระมหาพิชัยมงกฎเป็นรูปฉัตร 7 ชั้น เป็นเครื่องหมายแห่งราชาธิปไตย เป็นการประกาศให้รู้ว่า ดินแดนสยาม อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นสยามินทราธิราช ตราเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า ชาติของเราจะคงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง
“วันนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคออกมาพูดว่าทหารไม่มีความจำเป็นให้ตัดงบประมาณของทหาร จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะในวันนี้ทหารยังมีความจำเป็น โดยทหารต้องเข้มแข็ง เพื่อค้ำยันประเทศชาติของเราไว้ ผมเห็นว่า เราควรขึ้นเงินเดือนให้กับทหารด้วยซ้ำไป เพราะเขาทำหน้าที่ดูแลคนไทยทั้งประเทศ อุดมการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เหมือนอุดมการณ์ของพรรคพวกนั้น ที่พูดเอาหล่ออย่างเดียว แต่ไม่ดูผลลัพธ์ที่จะออกมากับประเทศเลย”นายชัยวุฒิ กล่าว
นายชัยวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า พรรคพลังประชารัฐจะรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และทุกองค์กร เพื่อให้ประเทศชาติของเราเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีความสุข และที่สำคัญพลเอกประวิตรจะเป็นเพราะซอฟเพาเวอร์ที่จะประสานให้ทุกฝ่าย สามารถเดินไปได้ด้วยกันได้ ด้วยความสามัคคี การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากขอให้ทุกคนอย่าเลือกเพราะดูจากโซเชียลมีเดีย แต่ขอให้คิดถึงประเทศและลูกหลานของเราทุกคน โดยเราจะมาก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยกันในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้คนไทยทั้งประเทศเข้าคูหากาเบอร์ 37