รองโฆษกฯ “ไตรศุลี” แจง การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม ไม่มีเบี้ยพิเศษรายปีคนละ 1,000 บาท ขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข้อมูลสร้างความสับสน

21 เมษายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ได้มีกรณีการส่งต่อข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่าผู้สูงอายุ 3 กลุ่ม จะได้รับเบี้ยพิเศษรายปี คนละ 1,000 บาท เพิ่มเติมจากที่ได้รับเบี้ยยังชีพรายเดือนอยู่แล้วนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

โดยข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยืนยันว่าปัจจุบันการจ่ายเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุยังคงเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีเฉพาะการจ่ายเบี้ยยังชีพรายเดือน ไม่มีการจ่ายเบี้ยพิเศษรายปีคนละ 1,000 บาท

สำหรับการจ่ายเบี้ยยังชีพรายเดือน จะจ่ายแก่ผู้สูงอายุแต่ละช่วงอายุเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดใน 4 ช่วง ได้แก่ อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 600 บาท/คน/เดือน, อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 700 บาท/คน/เดือน, อายุ 80 – 89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 800 บาท/คน/เดือน และ อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 1,000 บาท/คน/เดือน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากประชาชนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเบี้ยพิเศษรายปีของผู้สูงอายุข้างต้นไม่ว่าจะมาจากช่องทางใดขออย่าได้หลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อ หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อไม่เป็นการสร้างความสับสนและเข้าใจผิดแก่ประชาชนในวงกว้าง

หากผู้สูงอายุท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเบี้ยยังชีพขอให้ตรวจสอบที่ช่องทางของกรมกิจการผู้สูงอายุโดยตรง หรือหากไม่สะดวกตรวจสอบด้วยตนเองก็สามารถให้บุตรหลานตรวจสอบให้ได้ ที่เว็บไซต์ https://www.dop.go.th/ หรือโทร. 0-2642-4336

Written By
More from pp
ก.แรงงานเคลียร์แล้ว! เคสนายจ้างทำร้ายลูกจ้าง จ.ชลบุรี ได้เงินเยียวยา พร้อมเริ่มงานที่ใหม่
กระทรวงแรงงานสั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายจ้างโหดทุบหัวลูกจ้างโยนทิ้งข้างทางในพื้นที่จังหวัดชลบุรี สรุปจบ ลูกจ้างได้เงินเยียวยา 6,000 บาท พร้อมเริ่มงานที่ใหม่
Read More
0 replies on “รองโฆษกฯ “ไตรศุลี” แจง การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม ไม่มีเบี้ยพิเศษรายปีคนละ 1,000 บาท ขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข้อมูลสร้างความสับสน”