สันต์ สะตอแมน
ก็บอกแล้วไง..
หนังไทย-ละครไทยที่พัฒนาไปไม่ถึงไหน ไม่ได้อยู่ที่การ “กำหนดเรตติ้ง” หรือที่พูดกันชินปากว่า “เซ็นเซอร์” แต่เหตุผลหลักอยู่ที่เราขาดแคลน “มือเขียนบท” นั่นต่างหาก!
อย่างเรื่อง “Hunger คนหิว เกมกระหาย” ที่ฉายอยู่ในเน็ตฟลิกซ์ และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอื้ออึงจนเกิดกระแสให้คนอยากเข้าไปดู-ไปชมนั้น
ผมพูดเลยว่า “ท่าดี ทีเหลว” หมายถึงดูแล้วก็งั้นๆ ที่พอจะชื่นชมก็ “มุมกล้อง” กับแอ็คติ้งที่เป็นธรรมชาติของตัวละครอย่างคุณออกแบบ ชุติมณฑน์ กับคุณปีเตอร์ นพชัยนั่นแหละ!
ส่วนเส้นเรื่อง องค์ประกอบอื่นๆ ดูจะไม่ได้พิเศษ (ใส่ไข่) อะไรมากนัก หรือหากจะพูดแบบไม่เกรงใจ ก็เป็นหนังไทยธรรมดาๆ เรื่องหนึ่งเท่านั้น!
รู้ล่ะ หนังต้องการจะนำเสนอในเชิงสะท้อน เสียดสี แต่ด้วยการเขียนบทที่ง่ายไป ไร้ชั้นเชิง หนังจึงขาดพลัง ทำให้ไปไม่ถึง-ไม่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
คือ..เสียดายที่นานๆ จะมีหนังไทยฉีกไปจากแนวรักอารมณ์ดี ตลก ผี บู๊-แอ็คชั่นออกมาให้ได้ดู แต่แล้วก็เสียของ หนังไม่ได้ให้ความอิ่มเอิบ ประทับใจที่มากพอ..
เทียบกับ “โหมโรง” ที่เป็นหนังฉีกแนวในยุคโน้น ต้องบอกว่า ยังห่างไกลกันอยู่พอสมควร!
อย่างไรก็เถอะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้สร้าง ผู้กำกับ คนเขียนบท ทีมงานที่มีความตั้งใจ และขอให้มุ่งมั่นพัฒนา-สร้างสรรค์ผลงานต่อๆไป..
เพื่อหนังไทยจะได้เติบโต โกอินเตอร์แบบได้มาตรฐาน-มีคุณภาพนะ!
ครับ..หลังจากที่เดินช้า ขาไม่ดี แต่ลงพื้นที่มาทุกจังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คงจะมั่นอก-มั่นใจ ได้จัดตั้งรัฐบาลแหงๆ กระมัง?
วานซืน จึง (น่า) สั่งคนใกล้ชิดให้ช่วยปั่นจดหมายฉบับที่ 9 “จะตั้งรัฐบาลอย่างไร” ออกมาให้ได้อ่านกัน ซึ่งถ้อยคำจะพรรณนาอย่างไรให้ไปอ่านดูเอา ส่วนผมเห็นจะสะดุดตากับข้อความท้ายที่ว่า..
“พรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาลแบบไหน อย่างไร จะร่วมกับใคร พรรคไหน” จึงเป็นเรื่องที่ต้องรอให้ตามขั้นตอนที่เหมาะสม ด้วยเงื่อนไขเฉพาะหน้า
ซึ่งขึ้นอยู่กับการเจรจาอย่างรอบคอบ และต้องเป็นไปในนาม “มติพรรค” ไม่ใช่เรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมาประกาศตัดสิน จะไม่เป็นเช่นนั้น
หากจะมีความเด็ดขาดแน่นอนก็คือ “พลังประชารัฐ” จะตัดสินใจทุกเรื่อง ทุกอย่างด้วยเหตุผลต้องร่วมกัน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง”
ด้วยความเชื่อว่าเป็นหนทางเดียวที่จะพาประเทศสู่การพัฒนา ที่สร้างโอกาสแห่งความสุขให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมได้
ขอให้เชื่อมั่นว่า “เราจะตั้งรัฐบาลที่เป็นความหวังของประเทศอย่างดีที่สุดได้”
ลองแบบนี้ก็ไม่ต้องสงสัย และไม่ต้องเชื่อคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ประกาศจะไม่จับมือเพื่อไทย-ก้าวไกลร่วมตั้งรัฐบาลแล้วล่ะ
เพราะนี่ ถือเป็นคำพูดจากปากของพล.อ.ประวิตร ที่สื่อความหมาย..ยังไม่ปิดตายกับพรรคหนึ่งพรรคใด ซึ่งหาก “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ได้..
กับพรรคเพื่อไทย กับก้าวไกล..พลังประชารัฐก็พร้อมและยินดีจะร่วมผสมพันธุ์!
เออ..ว่าแต่ไปเอาความมั่นอก-มั่นใจมาจากไหนล่ะนี่ เพราะเท่าที่ตามข่าว-ดูโพลอยู่แทบทุกวัน กระแสพลังประชารัฐก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย..
ยิ่งกับตัวหัวหน้าพรรคยิ่งแล้วใหญ่ บางโพลชื่อยังห้อยโตงเตงอยู่ (แทบ) ท้ายสุดเลยนะ!
แต่..เอาล่ะ เมื่อการเมืองเป็นเรื่องซับซ้อนเกินกว่าประชาชนคนธรรมดาจะเข้าใจ-ลึกซึ้ง ผมก็ได้แต่หวัง ให้พลังประชารัฐได้ประสบความสำเร็จกับการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
หรือแม้แต่พล.อ.ประวิตรจะได้เป็นนายกฯ โดยการสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย ผมก็ไม่ขัดข้อง จะห่วงก็แต่คำพูดของคุณตู่ จตุพร..
ถ้าเพื่อไทยจับมือพลังประชารัฐภายหลังการเลือกตั้ง ถือเป็นการหักหลังคนเสื้อแดง(อีกครั้ง)..
บ้านเมืองจะกลับมาวุ่นวายอีกหรือไม่..หวาดเสียว!