ข่าวปลอม!!!!! ไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำ เพราะทำให้เส้นเลือดแตกได้

ตามที่มีข้อความปรากฏในช่องทางออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำ เพราะทำให้เส้นเลือดแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากการส่งต่อข้อความที่ระบุว่า ไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำ เพราะทำให้เส้นเลือดแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภท คือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง ซึ่งโดยภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้ คือโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ เป็นต้น

สำหรับโรคหลอดเลือดในสมองที่เกิดในห้องน้ำ มักเกิดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ หรือยืนปัสสาวะมากกว่าขณะอาบน้ำ ซึ่งส่วนมากมันเกิดเป็นหลอดเลือดสมองแตก เหตุผลส่วนหนึ่งจากการเบ่งอุจจาระ ทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น จึงทำให้หลอดเลือดที่เปราะบางแตกออกได้

ส่วนการยืนปัสสาวะ ทำให้มีการลดลงของความดันโลหิต และการเต้นของหัวใจ ทำให้เกิดอาการหน้ามืด หมดสติ และภาวะหลอดเลือดสมองขาดเลือดจากภาวะความดันต่ำได้ การแช่น้ำอุ่นนาน ๆ เช่น แช่ออนเซน แล้วขึ้นจากน้ำก็พบอาการหน้ามืด หมดสติ และภาวะหลอดเลือดสมองขาดเลือดจากภาวะความดันต่ำได้เช่นกัน จากหลอดเลือดขยายตัว ส่วนประเด็นเรื่องการอาบน้ำเย็นเริ่มจากเท้าขึ้นมา ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือโทร. 0-2306-9899

ยังไม่พบการสระผมก่อนอาบน้ำจะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับโรคหลอดเลือดในสมองที่เกิดในห้องน้ำ มักเกิดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระหรือยืนปัสสาวะ มากกว่าขณะอาบน้ำ

Written By
More from pp
สธ.จัดระบบรายงานเตียง-เวชภัณฑ์ มีเพียงพอดูแลผู้ป่วยโควิด 19
กระทรวงสาธารณสุข เผยโควิด 19 กรณี สถานบันเทิง กทม.พบผู้ป่วยเพิ่มรวม 49 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหตุจากป่วยหลายวันก่อนมาโรงพยาบาล...
Read More
0 replies on “ข่าวปลอม!!!!! ไม่ควรสระผมก่อนอาบน้ำ เพราะทำให้เส้นเลือดแตกได้”