พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายเกษม ศุภรานนท์ และนายประพิศ นวมโคกสูง และนายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 2 และ 13 เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนถึงปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ ยังได้ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อพบปะและเปิดปราศรัยประชาสัมพันธ์นโยบายพรรคพลังประชารัฐกับพี่น้องประชาชน รวมถึงได้แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ด้วย
โดย พล.อ.ธรรมรักษ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ได้ฝากมาให้กำลังใจกับผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ให้ทำหน้าที่เพื่อ ประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้สมัครได้เป็นอย่างดี
โดยภาพรวมของผู้สมัครในพื้นที่ภาคอีสานนั้น ตนต้องขอชมเชยว่า ทำได้ดีมาก เพราะมีความพร้อมในการหาเสียง และการเลือกตั้ง รวมถึงการทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบถึงนโยบายของพรรคได้ดี
ตนจึงมั่นใจว่า ผู้สมัครของเราทุกคนมีความตั้งใจและศักยภาพที่จะเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชนแน่นอน อีกทั้งโยบายของพรรค เช่นเบี้ยผู้สูงอายุ บัตรประชารัฐ หรือเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน สามารถตอบโจทย์ของกลุ่มเปราะบางและประชาชนทั่วไปได้ดีมาก
“การลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ มีการนำเด็กรุ่นใหม่มาช่วยเป็นทีมงาน ซึ่งถือว่านิมิตรหมายที่ดี ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่ เข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทในการเมืองมากขึ้น จะนำไปสู่การพัฒนาในทางที่สร้างสรรค์
นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอโครงการเพื่อพัฒนาด้านการเกษตร ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ซึ่งทุกอย่าง จะทำได้จะต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริง”พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งหลายคนได้สอบถามถึงนโยบายต่าง ๆ และปัญหาในพื้นที่ ๆ ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่ง พล.อ.ธรรมรักษ์ ได้กล่าวกับประชาชนเพื่อสร้างความมั่นใจว่า นโยบายของพรรคทุกข้อ สามารถทำได้จริง และพร้อมทำทันที
รวมไปถึงโครงการบริหารจัดการน้ำที่มี พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร คอยกำกับดูแลอยู่นั้น จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ประสบกับภาวะภัยแล้งอย่างแน่นอน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ มีโจทย์ในการบริหารประเทศแบบบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับคนไทย ทุกปัญหาจะต้องได้รับการแก้ไข และ พล.อ.ประวิตร ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง
