ยูนิเซฟชี้ทารกเพียง 1 ใน 3 คนในประเทศไทยได้กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายโลก

เนื่องในสัปดาห์นมแม่โลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี ยูนิเซฟเรียกร้องให้ภาครัฐและภาคธุรกิจเพิ่มการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยเฉพาะแม่ที่ต้องทำงาน

หลังจากผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยล่าสุด ซึ่งจัดทำโดยยูนิเซฟและสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า

มีทารกเพียง 1 ใน 3 คนเท่านั้น (ร้อยละ 29) ที่ได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายโภชนาการโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 50 ภายในปี 2568

นางคยอนซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “แม้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวหกเดือนในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แต่ยังมีทารกอีกจำนวนมากที่ไม่ได้กินนมแม่และพลาดโอกาสที่จะได้เริ่มต้นชีวิตอย่างดีที่สุด นมแม่เปรียบเหมือนพลังวิเศษของแม่ ฉันเองก็เป็นแม่คนหนึ่งและรู้ดีว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องกลับไปทำงาน

ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างต่อเนื่องและสำเร็จได้นั้น คือ การสนับสนุนจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัว แพทย์ พยาบาล ตลอดจนนายจ้างและเพื่อนร่วมงาน ทุกคนมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทารกได้รับอาหารที่ดีที่สุดนี้สำหรับการเริ่มต้นชีวิตและการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ของพวกเขา”

นมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่ทารกต้องการในการเจริญเติบโต เด็กที่ได้กินนมแม่มีโอกาสที่จะมีภาวะผอมแห้งหรือภาวะเตี้ยแคระแกร็นน้อยกว่า และมักจะมีพัฒนาการทางสมองที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟแนะนำให้แม่ให้นมลูกภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และให้นมลูกอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก หลังจากนั้นแม่สามารถให้นมลูกได้ต่อเนื่องจนถึง 2 ปีควบคู่กับการให้อาหารตามวัย

ในสัปดาห์นมแม่โลกปีนี้ ยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ปล่อยมินิแคมเปญออนไลน์ “เดอะ มาสเตอร์พีซ” โดยนำผลงานศิลปะชิ้นเอกของโลกมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ประเด็นนมแม่เพื่อดึงดูดความสนใจของประชาชน และตอกย้ำให้เห็นว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งสำคัญมาโดยตลอดประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

อย่างไรก็ตาม แม่ในสังคมยุคปัจจุบันกำลังเผชิญอุปสรรคหลากหลายด้านในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น ขาดการสนับสนุนอย่างทันท่วงทีจากบุคลากรทางการแพทย์เมื่อมีปัญหาในการให้นม หรือขาดแรงสนับสนุนจากครอบครัว

ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการตลาดของนมผงที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่านมผงดีเทียบเท่านมแม่ นอกจากนี้ การขาดการสนับสนุนจากที่สถานที่ทำงานมักทำให้แม่จำนวนมากไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อได้เมื่อต้องกลับไปทำงาน

ยูนิเซฟได้เรียกร้องให้สถานที่ทำงานจัดทำนโยบายที่เป็นมิตรกับครอบครัวมากขึ้น เช่น นโยบายลาคลอด 6 เดือนโดยได้รับค่าจ้าง การจัดบริการดูแลเด็กเล็กในราคาที่เข้าถึงได้ ตลอดจนการจัดให้มีมุมนมแม่และการจัดเวลาพักเพื่อให้แม่บีบเก็บน้ำนม และการสนับสนุนจากผู้บริหารและเพื่อนร่วมงาน

“การช่วยให้เด็กทุกคนมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตอย่างดีที่สุดคือการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ที่ฉลาดที่สุดสำหรับสังคมและอนาคตร่วมกันของเราทุกคน ซึ่งนั่นไม่ใช่หน้าที่ของแม่เพียงผู้เดียวเท่านั้นแต่เป็นหน้าที่ของทุกคน” นางคิมกล่าวเสริม

Written By
More from pp
เสกหุ่นแซ่บเพิ่มความสตรอง เปิดพิกัดโซนอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบง่ายๆ ได้ที่บ้าน ณ ดอง ดอง ดองกิ สาขา ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์)
ในช่วงที่หลายคนยังต้องอยู่ในเซฟโซน ทั้งกักตัว หรือ Work from home บ้านจึงเป็นทุกสิ่งอย่างในชีวิตที่เราจะทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยจากวิกฤตโควิด-19 แต่การที่ต้องอยู่กับบ้านนานๆ ไม่ได้ออกไปไหน อาจทำให้หลายคนเบื่อหน่าย และการที่ไม่ได้ขยับแข้งขยับขาเคลื่อนไหวนานๆ เข้าก็ทำให้รู้สึกไม่กระฉับกระเฉง รูปร่างหย่อนคล้อยจนทำให้มีภาวะเสี่ยงต่อน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น นำมาสู่ปัญหาสุขภาพได้อีกด้วย...
Read More
0 replies on “ยูนิเซฟชี้ทารกเพียง 1 ใน 3 คนในประเทศไทยได้กินนมแม่อย่างเดียวหกเดือน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายโลก”