อย่ายอมให้หลอก-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเท่าไหร่ พรรคการเมืองยิ่งสู้กันดุเดือด

พักความเป็นพันธมิตรไว้ก่อน

ทุกพรรคการเมืองเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นแล้วครับ

ดู “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นตัวอย่าง

ฟื้นอดีตมาพูดกันทีเดียว

“…พรรคภูมิใจไทยตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่จึงไม่เคยแตกแถว

๔ ปีที่ผ่านมา มีเวทีการอภิปรายต่างๆ รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยหลายท่าน รวมถึงตนเองก็เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือเป็นเกมการเมือง เพราะพรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงสำคัญ จึงเป็นเหตุจำเป็นอย่างยิ่งในทางการเมืองที่เขาจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่ทุกครั้งรัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทยสามารถชี้แจงข้อกล่าวหา ข้อเคลือบแคลงสงสัย ผ่านมาทุกครั้งไม่ที่ ๑ ก็ที่ ๒ ตลอดที่ได้รับคะแนนสูงสุดในสภา

ที่สำคัญพรรคภูมิใจไทยยกมือให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง แต่พรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่ครบทุกครั้ง…”

ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า “หักหลัง”

แต่เอาเข้าจริง รัฐมนตรีพรรคอื่นก็โดนเหมือนกัน

ทีใครทีมัน!

แต่ก็ร่วมรัฐบาลกันจนครบ ๔ ปี

ก็ไม่แปลกใจอะไรครับ เมื่อ “อนุทิน” ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ

“…ขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่มีการยกตำแหน่งให้ใคร ถ้าเราได้คะแนนเสียงสูงสุด เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคือผมที่จะเป็นนายกฯ…”

บางคนอาจสงสัยว่า หากขั้วรัฐบาลรวมเสียงแล้วได้มากกว่า และได้ตั้งรัฐบาล โดยที่พรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.มากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ แล้ว “อนุทิน” จะไม่ยกเก้าอี้นายกฯ ให้ใครจริงหรือ

มันก็น่าสนใจครับ!

เพราะพรรคอันดับ ๑ คือ พรรควุฒิสภา ๒๕๐ เสียง

พรรควุฒิสภาที่อยู่ในมือ “ลุงตู่-ลุงป้อม” จะโหวตให้ใคร

ส.ว.อยู่ในมือ “ลุงตู่” กับ “ลุงป้อม” ฝั่งละกี่คน

แค่คิดก็ปวดหัวแล้วครับ

แต่นี่คือการหาเสียงเลือกตั้งครับ ยังไม่ใช่ท่าทีการจัดตั้งรัฐบาล

เอาไว้หลังวันที่ ๑๔ พฤษภาคม บรรยากาศการพูดจาเพื่อตั้งรัฐบาลจะเป็นอีกแบบ

ถึงวันนั้น หากไม่ได้เก้าอี้นายกฯ กระทรวงเกรดเอ ต้องอยู่ในมือพรรคภูมิใจไทยหลายกระทรวงครับ เพราะนี่คือการเมือง

หลังจากนั้นเราก็อาจได้เห็นนายกฯ คนละครึ่ง จะครึ่งประยุทธ์ ครึ่งอนุทิน หรือครึ่งประยุทธ์ ครึ่งประวิตร เก็บไว้ลุ้นกัน

แต่ก็อาจเป็น “อนุทิน” เหมาเทอมก็ได้

มันอยู่ที่การเจรจา และผลเลือกตั้งที่ออกมา

หากภูมิใจไทยได้ ส.ส. ๑๒๐ พลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติได้พรรคละ ๕๐ แบบนี้แบเบอร์

อย่าไปแปลงเจตนาให้ขัดใจชาวบ้าน

มาว่ากันในส่วนฝ่ายค้านบ้าง

ก็ฟัดกันนัวเหมือนกัน

คู่เอก หนีไม่พ้น เพื่อไทย กับ ก้าวไกล

เพราะยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของเพื่อไทย ก้าวไกลต้องสลัดตัวเองให้พ้นเงาเพื่อไทยให้ได้ ไม่งั้นจะกลายเป็นพรรคขนาดเล็กโดยไม่รู้ตัว

หลัง “ชัยเกษม นิติสิริ” ปราศรัยใหญ่ที่เมืองทองฯ เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา ประกาศต้องมีมาตราสำหรับการป้องกันรัฐประหารให้เป็นความผิดฐานเป็นกบฏ ไม่มีกำหนดอายุความ ตามที่พรรคเพื่อไทยเคยได้เสนอไว้ เพื่อให้รัฐธรรมนูญของไทยตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการยึดอำนาจอีก

แค่ข้ามคืน “ปิยบุตร แสงกนกกุล” หยิบมาเชือดเลือดสาดทันที

“ปิยบุตร” โพสต์ในเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ผมไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยกล้าจัดการรัฐประหาร”

หยามกันชัดๆ!

“ปิยบุตร” เขียนไว้แบบนี้ครับ

“…รัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ล้มรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

เลือกตั้งธันวาคม ๒๕๕๐ พรรคพลังประชาชนเป็นเสียงข้างมาก รัฐบาลสมัครประกาศยังไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญเก็บไว้ในช่วงท้าย พันธมิตรชุมนุม ยึดสนามบิน ยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย มัชฌิมา รัฐบาลอภิสิทธิ์กำเนิดในค่ายทหาร มี ส.ส.จากรัฐบาลเดิมแตกออกมา ชุมนุมปี ๕๒ ชุมนุมปี ๕๓ สลายการชุมนุม ฆ่าหมู่กลางมหานคร

ยุบสภา ปี ๕๔ พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก ตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ “แก้ไขไม่แก้แค้น” เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม “เหมาเข่ง/สุดซอย” กปปส.ชุมนุม ๙ ธ.ค.๕๖ ยุบสภา กปปส.ชุมนุมต่อ ๒๒ พ.ค.๕๗ รัฐประหาร ประยุทธ์ครองอำนาจอยู่กับเราตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

รัฐประหาร ๔๙ กลับมาเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาด ไม่จัดการอะไรกับรัฐประหาร รัฐประหาร ๕๗ ไม่มีใครคิดจัดการกับรัฐประหาร

วันนี้ พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ จะจัดการรัฐประหาร ต้องขออภัย ขีดเส้นและทำไฮไลต์ว่า “ผมไม่เชื่อ” ใครอยากเชื่อ เชิญ ใครอยากลอง เลือก แต่ผมไม่เชื่อ

ประวัติศาสตร์เกือบ ๒ ทศวรรษ ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากแล้วจะทำ อย่าหลอกตนเอง อย่ายอมให้หลอก ผมไม่ยอม

ผมและเพื่อนทำข้อเสนอ “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร” ตั้งแต่ กันยา ๔๕ ไม่มีฝ่ายการเมืองคนไหนขานรับ ผมพูดอภิปรายกี่เวที ประชาชนที่ฟังก็บอกว่า พรรคเพื่อไทยไม่ทำ อาจารย์ก็มาทำเอง ปลายปี ๖๐ ผมกับธนาธร ชัยธวัช คิดตั้งพรรค ๑๕ มีนา ๖๑ จดจัดตั้งชื่อพรรค ต.ค.๖๑ กกต.รับจดทะเบียน

ผมประกาศจุดยืนพรรคอนาคตใหม่ มีอำนาจเมื่อไร ลบล้างผลพวงรัฐประหารทันที ไม่รีรอ ไม่มีข้ออ้าง ต้องแก้แค้น จึงแก้ไขได้ ผมยกร่างกฎหมายไว้ทั้งหมด พรรคอนาคตใหม่ได้ ๘๑ ส.ส.ไม่พอกับการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ พรรคอนาคตใหม่โดนยุบ พรรคก้าวไกลยืนยันเดินหน้าจัดการลบล้างผลพวงรัฐประหารต่อ

วันนี้ พรรคเพื่อไทย นำโดยชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แถลงเรื่องจัดการรัฐประหารต่างๆ นานา ต้องขออภัย และตะโกนกลับไปดังๆ ว่า…“ผมไม่เชื่อ” ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ ต่อเนื่องพรรคก้าวไกล ต่างหากที่จะทำเรื่องนี้ ผมอยากเห็นการลบล้างผลพวงรัฐประหาร ผมเลือกพรรคก้าวไกลครับ…”

ถูกของ “ปิยบุตร” ครับ!

ว่ากันตามข้อเท็จจริง พรรคที่ควรจะเล่นงานคณะรัฐประหารกลับ ควรเป็นเพื่อไทย และควรทำมานานแล้ว

แต่เพื่อไทยไม่เคยขยับ แก้รัฐธรรมนูญแต่ละครั้งก็เพื่อประโยชน์ของตัวเอง เช่นระบบเลือกตั้ง

ก็อาจมีสาเหตุที่เพื่อไทยไม่ลงมือทำอะไร หนึ่งในนั้นคือ เพื่อไทย เป็นสาเหตุให้เกิดรัฐประหาร

เพราะรัฐบาลระบอบทักษิณคอร์รัปชัน

หากเพื่อไทยไม่เห็นด้วย ก็ลองบอกสาเหตุมาว่าทำไมถึงไม่เคยคิดเล่นงานคณะรัฐประหารกลับ

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ระบอบทักษิณเคยร่วมงานกับ “บังธิ-สนธิ บุญยรัตกลิน” หัวหน้าคณะรัฐประหาร ๒๕๔๙ ที่แปลงโฉมเป็นหัวหน้าพรรคมาตุภูมิในภายหลัง ด้วยซ้ำ

ก็ไม่ทราบว่า “ปิยบุตร” ออกมาแบบนี้จะแย่งคะแนนเสียงจากเพื่อไทยได้เท่าไหร่

แต่ประชาชนคงได้เห็น พรรคเพื่อไทยหลอกประชาชน

“ปิยบุตร” ว่าแบบนั้นครับ!

Written By
More from pp
รมต.อนุชา เผยผลการตรวจสอบ กรณีวิศวกรแจ้งเตือนองค์พระปฐมเจดีย์เสียหาย เบื้องต้นยังไม่พบส่วนใดที่ชำรุด
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการประสานจากวิศวกรจำนวนหนึ่ง ว่าจากกรณีที่มีฝนตกหนักเป็นระยะเวลาหลายวัน ส่งผลให้องค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาว จ.นครปฐม ได้รับความเสียหาย โดยอาจเกิดน้ำเซาะดินทำให้องค์พระปฐมเจดีย์ทรุดตัว ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ...
Read More
0 replies on “อย่ายอมให้หลอก-ผักกาดหอม”