ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย หน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนจากผลกระทบฝุ่น PM 2.5ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและจังหวัดติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้น พร้อมสื่อสารความเสี่ยงและคำแนะนำสุขภาพต่อเนื่อง
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ออกแนวทางปฏิบัติงาน ปรับระบบบริการ เพื่อลดการเดินทาง เตรียมสถานที่ทำห้องสะอาดเป็น Safety zone ให้เจ้าหน้าที่/ผู้รับบริการ สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันและสื่อสารคำแนะนำประชาชน
28 มีนาคม 2566 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของประเทศไทยที่สูงเกินค่ามาตรฐานในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ ว่า
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 17 จังหวัด และพื้นที่ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 6 จังหวัด
ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน และพิจารณาเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งดำเนินงานตามแนวทาง “3 มาตรการ 10 กิจกรรมสำคัญ” ได้แก่
1) มาตรการลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฝ้าระวังสถานการณ์และแจ้งเตือนความเสี่ยงต่อสุขภาพ, เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ, ยกระดับการสื่อสารเชิงรุก, สร้างความรอบรู้และสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
2) มาตรการจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลแก่กลุ่มเสี่ยง, เปิดคลินิกมลพิษ/จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น,จัดระบบปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อดูแลประชาชน และ
3) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยมีระบบบัญชาการเหตุการณ์เมื่อเข้าสู่ระยะวิกฤต, ส่งเสริมและขับเคลื่อนกฎหมาย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2562 และส่งเสริมองค์กรลดมลพิษ
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานและมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศแนวทางปฏิบัติงานในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติฝุ่น PM 2.5
โดยให้สถานบริการในสังกัดปรับระบบบริการตามบริบทพื้นที่ เช่น เลื่อนนัดผู้ป่วยตามความเหมาะสม และจัดส่งยาให้ทางไปรษณีย์ เพื่อลดการเดินทาง, ให้การรักษาผ่านระบบ Telemedicine, จัดเตรียมสถานที่เป็นห้องสะอาด เพื่อเป็น Safety zone พื้นที่ปลอดฝุ่น สำหรับเจ้าหน้าที่และผู้มารับบริการ, สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันแก่บุคลากรในการปฏิบัติงานและผู้มารับบริการ,
จัดระบบการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และประชุมสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน พร้อมทั้งสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ข้อมูลเฝ้าระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566 – 19 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ รวม 1,730,976 ราย สัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 228,870 ราย กลุ่มโรคที่พบสูงสุด ได้แก่
กลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองเป็นพิเศษ โดยลดระยะเวลาหรืองดการออกนอกอาคารโดยไม่จำเป็นหากออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น, งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจ, อยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากทำห้องปลอดฝุ่นได้ให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่น, สังเกตอาการเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้รีบไปพบแพทย์