เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทย พร้อมคณะผู้บริหารพรรค ให้การต้อนรับ พร้อมเปิดตัวนายเจริญ จรรย์โกมล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายธนกฤติ จรรย์โกมล บุตรชาย ในฐานะว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคไทยสร้างไทยจังหวัดชัยภูมิ
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นผู้สวมเสื้อพรรคไทยสร้างไทย ให้กับนายเจริญและบุตรชาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ในการยืนหยัดร่วมอุดมการณ์เดียวกับพรรคไทยสร้างไทยในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
คุณหญิงสุดารัตน์ แสดงความยินดีที่นายเจริญและบุตรชาย ได้เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคไทยสร้างไทย ที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนายเจริญจะเข้ามาเป็นแกนนำ ดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ เชื่อมั่นว่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคไทยสร้างไทย ในพื้นที่ภาคอีสานมากขึ้น
นายเจริญ ถือเป็นบุคคลการเมืองที่มีผลงานทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและการทำงานในพื้นที่ดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนมายาวนาน ในฐานะอดีตส.ส.หลายสมัย จึงมั่นใจว่านายเจริญ จะเป็นอีกหนึ่งบุคลากรของพรรคที่ช่วยกันสร้างทางรอดให้กับประเทศไทย มาร่วมกันสร้างชัยชนะให้กับประชาชน
ซึ่งต้องการการเปลี่ยนแปลงจากการเมือง 2 ขั้ว ที่เลือกฝั่งหนึ่งก็ติดหล่มเลือกอีกฝั่งก็ติดล็อค จมอยู่กับความขัดแย้งทางการเมืองมานานกว่า 17 ปี มีการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง และทุกครั้งก็สร้างความยากลำบากให้กับพี่น้องประชาชน
ด้านนายเจริญ กล่าวขอบคุณคณะผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งการตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย เพราะเห็นว่าเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ชัดเจน คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นผู้นำที่มีความสามารถ และมือสะอาด มีผลงานโดดเด่นทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค การปราบโรคซาร์ โรคหวัดนก มีความจริงใจกับพี่น้องประชาชน
เรียกว่าประชาชนมีความทุกข์ที่ไหนคุณหญิงสุดารัตน์จะไปที่นั่นทันที จึงเป็นที่รักของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะชาวอีสาน และมั่นใจว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคการเมืองของชาวอีสานได้อย่างแน่นอน ขณะที่นโยบายซึ่งได้ประกาศต่อพี่น้องประชาชน ล้วนเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศชาติ ประชาชนอย่างยิ่งในเวลานี้
โดยเฉพาะการดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่นการเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพโดยไม่เป็นหนี้กยศ. การยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับพี่น้องเกษตรกร หรือนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท
ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยทำให้ประชาชนสามารถอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพไม่เป็นภาระลูกหลาน และช่วยให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศฟื้นได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับนายเจริญ จรรย์โกมล เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างยิ่ง เคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึง 3 คณะ และเป็นอดีตส.ส.จังหวัดชัยภูมิ ถึงเจ็ดสมัย
โดยนายเจริญจะเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมจังหวัดชัยภูมิและทำงานร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ เช่น นายอุทิศ พิมพลีชัย ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ เขต 2 นายพิชัย ขระสูงเนิน ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิเขต 4 นายจอมจักรภพ เอกกุล ผู้สมัครส.ส.ชัยภูมิเขต 7 และนายธนกฤต จรรย์โกมล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคไทยสร้างไทย