‘ปิยบุตร’ ตัวตึง – ผักกาดหอม

การตอกกลับว่า "คุณปิยบุตรต้อง 'เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ' เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ" บ่งบอกให้รู้ว่าศรัทธาที่มีต่อกันได้หดหายไปแล้ว

ผักกาดหอม

แซ่บจริงๆ

โซเชียลลุกเป็นไฟ!

เวลานักการเมืองที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายหัวก้าวหน้า ปะทะคารมกัน มันคมกริบ เชือดเฉือน เลือดไหลซิบๆ กันเลยทีเดียว

พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า รากเหง้าเดียวกัน

จากความคิดเดียวกัน

ปลูกฝังความเชื่อมาอย่างเดียวกัน

วันนี้เริ่มมีระยะห่าง

การปะทะทางความคิด ต่างฝ่ายต่างจะได้ความรู้เพิ่มพูน หากการพูดคุยเต็มไปด้วยสปิริต

แต่จะฉิบหายทันที หากคู่สนทนามีปัญหาวุฒิภาวะทางการเมือง

การปะทะกันระหว่าง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” กับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่ต่างภูเขาไฟที่เดือดอยู่ข้างในมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนระเบิดออกมา

“ปิยบุตร” เป็นฝ่ายวิจารณ์ พรรคก้าวไกลภายใต้การนำของ “พิธา” มาระยะหนึ่งแล้วครับ

หนักบ้าง เบาบ้าง วิชาการบ้าง ดูแคลนบ้าง เหน็บแนมบ้าง

จน “พิธา” ทนไม่ไหว

ก่อนที่จะสวนกันไฟแลบ “ปิยบุตร” วิจารณ์พรรคก้าวไกลเสียหายไม่น้อยทีเดียว

….หากสถานการณ์และอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ยังเป็นเช่นนี้ ไปจนถึงวันลงคะแนน พรรคก้าวไกลก็จะได้ ส.ส.เขตน้อยมาก และได้ “ส่วนแบ่ง” จากบัญชีรายชื่อมา รวมยอด ส.ส.ทั้งหมด คงไปไม่เกิน ๓๐

หากพรรคก้าวไกลไม่คิดอะไรมาก ได้เท่าไร ก็เท่านั้น รอบนี้ ขอ “เกาะพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล” ไว้ก่อน พรรคก้าวไกลก็ไม่ต้องแก้ไขอะไร ไม่ต้องคิดยุทธวิธีใหม่ ประคองตัวไปจนจบเลือกตั้ง และถ้าไม่มีสัญญาณแปลกๆ ใดมาขัดขวาง หรือรวมเสียงฝ่ายค้านเดิมเพียงพอ “พี่ใหญ่” ก็อาจเมตตาชวน “น้องเล็ก” ไปร่วมรัฐบาล แบ่ง รมต.ให้สัก ๒-๓ ที่

แต่ถ้าพรรคก้าวไกลยังคงต้องการเสียงมากกว่านี้ จำนวน ส.ส.มากกว่านี้ พิสูจน์ตนเองว่าแนวคิดแนวทางที่ทำกันมาตั้งแต่อนาคตใหม่ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนเห็นด้วยมาก พรรคก้าวไกลก็ต้องคิดแก้ปมปัญหา “แลนด์สไลด์” ให้ได้…

…แต่การเมือง อยู่ที่ความเชื่อ

ผู้คนจำนวนมากต้องเชื่อก่อนว่าจริง เราทำได้จริง

ต่อให้คิดค้นแคมเปญได้ดีเลิศขนาดไหน แต่ถ้าคนไม่เชื่อ แคมเปญนั้นก็เป็นเพียงบันทึกเก็บไว้ใน portfolio

ปัญหาจึงมีอยู่ว่า…

ผู้นำพรรคก้าวไกลมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะชนะในเขตเลือกตั้ง ได้หรือไม่?

มีความสามารถเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อโดยพร้อมเพรียงกันว่า ต้องมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนของพลังใหม่ในการเปลี่ยนประเทศตั้งแต่รอบนี้ ได้หรือไม่?…

ไม่แปลกครับที่ “พิธา” จะควันออกหู

การดูแคลนว่า จะได้ ส.ส.ได้ไม่เกิน ๓๐ ที่นั่ง ก็เท่ากับดูถูกฝีมือของ “พิธา” ว่าเป็นคนทำพรรคตกต่ำ

แต่กลายเป็นว่าประเด็นที่ “พิธา” ตอบโต้อย่างดุเดือดนั้น คือประเด็น “การเมือง อยู่ที่ความเชื่อ”

ฉะนั้นเมื่อมองในแง่วุฒิภาวะถือว่า “พิธา” เหนือกว่า

การเมือง กับความเชื่อ ถือเป็นประเด็นใหญ่

การตอกกลับว่า “คุณปิยบุตรต้อง ‘เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ’ เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ” บ่งบอกให้รู้ว่าศรัทธาที่มีต่อกันได้หดหายไปแล้ว

เพราะกลายเป็นว่า “ปิยบุตร” เป็นตัวถ่วงพรรคก้าวไกล

ตัดประเด็นอื่นออกให้หมดเหลือเฉพาะประเด็น “ความเชื่อ”

“พิธา” โพสต์เอาไว้ดังนี้ครับ

…สิ่งที่คุณปิยบุตรพูดถูกคือ “การเมืองคือความเชื่อ” ศัตรู ๑๐๐ คนพูด ๑๐๐ ครั้งก็ไม่น่าเชื่อ เท่าคุณปิยบุตรพูดซ้ำๆ ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรค

ทุกอย่างเป็นเรื่องอนาคต จะจริงไม่จริงไม่รู้ แต่คำพูดมันมีน้ำหนักของมัน

“พูดอะไร” ไม่เท่ากับว่า “ใครเป็นคนพูด”

อะไรที่เป็นความเชื่อ มันจะกลายเป็นความจริงขึ้นมา แล้วความฝันของคนหลายร้อย คนที่ทำงานอย่างหนักต้องมาสูญเปล่า…

…ในฐานะที่ผมเป็นผู้นำพรรค เชื่อว่า เราทุกคนรับการวิจารณ์ได้ ผมก็โดนมาตลอด ๓ ปี เข้าใจว่าเป็นอิสรภาพในการแสดงออก

ผมก็เป็นคน “ฟังแต่ยังไม่เชื่อ” …

อะไรที่ “พิธา” ฟัง แต่ไม่เอาด้วยกับ “ปิยบุตร”

“ความเชื่อ” ของ “ปิยบุตร” ที่เสี่ยงทำให้พรรคก้าวไกลวายวอดได้มีหลายประเด็นครับ

เพราะ “ความเชื่อ” บางครั้ง ไม่ใช่ “ความจริง”

ยกตัวอย่างกรณี ม.๑๑๒ ความเชื่อของ “ปิยบุตร” คือ ต้องยกเลิกเท่านั้นจึงจะเป็นการแก้ปัญหา

ขณะที่พรรคก้าวไกลช่วงแรกๆ มีการพูดเรื่อง “ยกเลิก” อยู่บ้าง เพราะถูกครอบงำทางความคิดจาก “ปิยบุตร” มานาน

แต่เมื่อใกล้เลือกตั้ง ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะพรรคก้าวไกลเล็งเห็นว่า หากประกาศยกเลิก ม.๑๑๒ เป็นนโยบายในการหาเสียง ก็เท่ากับฆ่าตัวตาย

หวยจึงออกที่ “แก้ไข”

แต่การแก้ไขในมุมมองของ “ปิยุตร” คือการทำให้ อสุรกาย คืนชีพ

“ปิยบุตร” โพสต์ความเชื่อนี้ไว้เมื่อปลายเดือนมกราคมนี่เอง

“…การแก้ไขกฎหมายแบบ ‘เลาะตะเข็บ ชายขอบ’ เฉพาะแค่สิทธิการปล่อยตัวชั่วคราวหรือประกันตัว ไม่ยอมพูดถึง ๑๑๒ โดยตรง คือ การแก้ไขปัญหาที่ไม่แก้ไขปัญหา เป็นเพียงการเล่นละครตบตา เพื่อโฆษณาให้รู้ว่า ‘ฉันก็ทำนะ’ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ทำ

เช่นกัน… การแก้ไข ๑๑๒ แต่เพียงเล็กน้อย คือ การแก้ไขปัญหาที่ไม่เพียงพอ ในท้ายที่สุด ‘อสุรกาย ๑๑๒’ ก็พร้อมคืนชีพได้เสมอ

ประชาชนผู้รณรงค์เรียกร้องการ ยกเลิก ๑๑๒ มาอย่างอดทนเหน็ดเหนื่อยมากกว่าทศวรรษ จำเป็นต้องพุ่งตรงกดดันไปที่นักการเมือง พรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะพวกเขาเหล่านี้มีอำนาจรัฐในการทำให้เกิดขึ้นจริงในระบบกฎหมาย

เรียกร้องกดดันให้หนักไปที่พรรคการเมือง

และหากพรรคการเมืองใดที่ทำเรื่องนี้จริง แล้วประสบเหตุเภทภัย จนทำให้ไม่สำเร็จ ประชาชนก็จะเป็น ‘ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก’ ให้

แน่ล่ะ… หากพรรคการเมืองหรือ ส.ส. เดินหน้ายกเลิก ๑๑๒ ก็อาจถูกกลไกรัฐของระบอบนี้เข้าสกัดขัดขวาง

ตั้งแต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายล้าหลัง สมาชิกวุฒิสภากาฝาก ศาลรัฐธรรมนูญ หรือแม้กระทั่งการประกาศใช้กฎหมาย

แต่นั่นมิใช่เหตุผลข้ออ้างในการไม่ทำอะไรเลย

หากนักการเมืองคาดการณ์ว่าอาจถูกสกัดขัดขวาง จึงไม่ทำ ผลลัพธ์ก็คือ ประชาชนไม่ได้อะไร นอกจากมีนักการเมืองเป็น ‘พะนะท่าน’ ชูคอในสภา ในรัฐบาล เพิ่มขึ้นๆ ต่อไปๆ…”

นี่เป็นหนึ่งในความเชื่อที่ “ปิยบุตร” พยายามบอกกับพรรคก้าวไกล เพื่อทำให้เป็นจริง

มวลชนสามนิ้วที่เชื่อ “ปิยบุตร” เพิ่งออกจากคุกมาหลายคน

แต่พรรคก้าวไกลไม่เชื่อว่า ทำแล้วจะสำเร็จทันที อย่างที่ “ปิยบุตร” เชื่อ

ที่สำคัญ “ปิยบุตร” ยังไม่เคยติดคุกจากการนำเสนอความเชื่อของตัวเอง เพราะเป็นนักกฎหมายรู้ทางหนีทีไล่

ลองพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลแล้วเสนอยกเลิก ม.๑๑๒ ซิครับ

จะมีคดีตามมาเป็นหางว่าว ยุบพรรค ตัดสิทธิ เผลอๆ ติดคุก

“พิธา” ถึงยังไม่เชื่อ “ปิยบุตร”

Written By
More from pp
พิธีเปิดงาน สยามเซ็นเตอร์ จดทะเบียนสมรส และจดแจ้งสมรสเท่าเทียม ‘รักนี้ไม่มีพรมแดน@ปทุมวัน Love without
เอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ ร่วมกับ สุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน เปิดงาน จดทะเบียนสมรส และจดแจ้งสมรสเท่าเทียม ‘รักนี้ไม่มีพรมแดน@ปทุมวัน...
Read More
0 replies on “‘ปิยบุตร’ ตัวตึง – ผักกาดหอม”