17 กุมภาพันธุ์ 2566 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุมร่วมกันของรัฐสภาถึงการทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล จากการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติในช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่า
ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างก็ทำหน้าที่ได้ดีทั้งสองฝ่าย อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เห็นว่าสภายังเป็นเวทีในการเป็นสถานที่สำหรับตรวจสอบรัฐบาลได้อยู่ เพราะจากการที่เป็นห่วงกันว่าการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นั้นจะเดินหน้าได้หรือไม่ แต่สุดท้ายก็เดินหน้าได้ โดยประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคหนึ่งที่ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าเราต้องการให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น
เนื่องจากรัฐสภาจะเป็นเวทีที่เป็นความหวังของประชาชนในการสะท้อนความต้องการประชาชน และเป็นเวทีในการใช้ตรวจสอบรัฐบาล รวมทั้งเป็นเวทีที่จะให้รัฐบาลได้แถลงผลการทำงาน หรือผลงานต่อประชาชนผ่านรัฐสภาด้วย
ที่ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลายกระทรวงได้เวลาในการโปรโมทผลงานนั้น รองนายกฯ จุรินทร์ กล่าวว่า ตนก็เรียนไปแล้วว่า มันก็ไม่ได้มีด้านเดียวเสมอไป ว่าถ้ามีญัตติอภิปรายทั่วไปเข้ามาแล้วจะทำให้รัฐบาลถูกตรวจสอบฝ่ายเดียว แต่ก็จะเป็นโอกาสให้รัฐบาลสามารถชี้แจงผลงานการทำงานได้เช่นเดียวกัน อย่างกระทรวงพาณิชย์ ตนก็สามารถชี้แจงได้ และตนก็มั่นใจว่าอย่างนั้น พร้อมกับได้สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายในหลายๆ เรื่อง
เช่น การบอกว่าพืชเกษตรตกต่ำทุกตัวนั้น มันไม่เป็นความจริง แต่ราคาดีเกือบทุกตัว มีบางตัวที่บางช่วงเท่านั้นที่ราคาไม่ดี นอกจากนั้นยังมี “ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง” เข้าไปชดเชยให้ หากยามใดที่พืชเกษตรราคาไม่ดี ส่วนเรื่องเงินเฟ้อ ประเทศไทยนั้น เมื่อเทียบกับทุกประเทศในโลก เราก็อยู่ระดับที่เฟ้อต่ำมาก ราคาสินค้าก็เริ่มลงแล้ว แม้ชาวบ้านอาจจะรู้สึกว่า ยังอยากให้ราคาถูกกว่านี้ แต่ก็เริ่มทยอยถูกลงแล้ว
ส่วนราคาปุ๋ยก็เริ่มปรับลดลง ถ้าอนาคตราคาน้ำมันลงกว่านี้ก็จะทำให้ราคาปุ๋ยปรับลดลงไปกว่านี้ได้ รวมทั้งการที่เป็นห่วงเรื่องการส่งออก ก็ยังเป็นบวกอยู่ และคู่แข่งระหว่างเรากับเวียดนาม ที่คนไทยมักจะเอาไปเปรียบเทียบกัน โดยเฉพาะเรื่อง FTA ตนก็ยืนยันว่าอีกไม่นาน โอกาสที่เราจะแซงเวียดนามนั้นก็มี
เพราะอีกไม่กี่วันนี้ ตนยืนยันเลยว่า FTA ไทย – สหภาพยุโรป 27 ประเทศ จะเริ่มต้นได้ ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกของไทย สามารถสร้างเงิน สร้างแต้มต่อให้ประเทศได้ทีเดียว 27 ประเทศ และคาดว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เราสามารถประกาศเริ่ม FTA ไทย – สหภาพยุโรปได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่นายกรัฐมนตรีควรจะประกาศยุบสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอไม่เรียนว่าจะเหมาะสมช่วงไหน เพราะเป็นอำนาจของท่านนายกฯ แต่ยังไงก็ยุบหลังวันที่ 23 มี.ค. ไม่ได้ เพราะสภาครบเทอม
“ท่านนายกฯ ยังไม่ได้มาหารืออะไร เพราะเป็นอำนาจท่าน แต่ผมคิดว่าเมื่อถึงเวลาท่านก็คงถามซักคำนึง หรืออย่างน้อยก็คงจะได้หารือกันซักคำว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่ผมเดาใจ ก็คาดว่าถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะต้องเป็นเดือนมีนาคม เพราะในเรื่องของกฎระเบียบอะไรต่อมิอะไรที่จะต้องเตรียมการของ กกต. รวมทั้งในเรื่องของความพร้อมของพรรคการเมืองบางพรรค ก็อาจจะมีผลสำคัญในการนำมาประกอบในการตัดสินใจว่าจะยุบสภาวันไหนด้วย เดาเอา” นายจุรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ ทั้งในบทบาทนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคการเมือง ในพื้นที่ของประชาธิปัตย์ มองอย่างไร
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบว่า ไม่หวั่นเป็นธรรมดา เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็ต้องแข่งกันทุกพรรคการเมือง ประชาธิปัตย์ก็พร้อมลงสนามแข่ง และเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งตัวบุคคล นโยบาย ตนก็ยืนยันว่าจะส่งครบทั้ง 400 เขต และบัญชีรายชื่อก็ครบ 100 คน ส่งครบทั้ง 500 คน
สำหรับภาคใต้ หลังจากได้มีการเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 58 เขต เป็นพรรคแรกที่นครศรีธรรมราชไปเมื่อวันที่ 11-12 มี.ค. โดยวันที่ 25 มี.ค. นี้ จะมีการปราศรัยใหญ่ในช่วงเย็นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังจะมีกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย อย่างในกรุงเทพมหานคร ก็จะนำทีมประชาธิปัตย์ กทม. ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และในวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะทำการเปิดศูนย์การเลือกตั้ง เขตบางนา เป็นลำดับถัดไป