นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่ปราศรัย ใน 5 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ รวมทั้งหมด 9 เวทีปราศรัย
เพื่อนำเสนอนโยบายและรับฟังความคิดเห็นประชาชน ร่วมกับ ส.ส.และผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับดลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ
ทั้งนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
โดยในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เริ่มต้นที่เวทีพบปะประชาชน เวทีปราศรัยวัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในเวลา 11:00 น. หลังจากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยที่ 2 อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ในเวลา 14:30 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ ศาลากลางหลังเก่า อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
“จังหวัดอุบลราชธานีถือว่ามีความทรงจำร่วมกันระหว่างประชาชนกับการทำงานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งเป็นพรรคไทยรักไทย อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เริ่มต้นแคมเปญหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน โดยชวนแกนนำพรรค รัฐมนตรี ขึ้นรถไฟออกจากวารินชำราบ การไปอุบลราชธานีครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทย ก็จะนำนโยบายไปนำเสนอโดยเฉพาะนโยบายด้านการคมนาคม รถไฟความเร็วสูง ก็จะถูกนำเสนอด้วย” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 จะเปิดเวทีปราศรัยแรก ที่โรงเรียนอำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ในเวลา 10:00 น. ไปต่อที่ โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 14:00 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 17:00 น.
ซึ่งที่ จ.ร้อยเอ็ด เคยมีความทรงจำร่วมกันกับพรรคไทยรักไทย เนื่องจาก ดร.ทักษิณเคยได้จัดโมเดลแก้จน ที่ อ.อาจสามารถ เรียกว่า ‘อาจสามารถโมเดล’ วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส น่าเสียดายที่หลังลงพื้นที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง นำไปสู่การรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการทำงาน แก้ปัญหาความยากจน ยังเป็นเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะนำเสนอบนเวทีนี้ด้วย
ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 จะเริ่มเวทีแรกที่ลานโดม สนามกีฬา ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ในเวลา 10:30 น. จากนั้นจะต่อเนื่องไป จ.ขอนแก่น ตั้งเวทีที่ตลาดนัดคลองถม อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ในเวลา 15:30 น. จากบ้านไผ่ต่อเนื่องไปตลาดอู้ฟู่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในเวลา 17:00 น. โดย จ.ขอนแก่น เป็นจังหวัดที่ ดร.ทักษิณได้ประกาศนโยบายการเกษตรเป็นครั้งแรก ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะใช้ที่นี่นำเสนอนโยบายด้านการเกษตรให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศเช่นกัน ยืนยันนโยบายที่นำเสนอจะสามารถ ทำให้เห็นผลเกิดขึ้นได้จริง หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์
และขอย้ำว่า นโยบายที่จะแก้ปัญหาไม่ได้มีเท่านี้ หลังการยุบสภาจะประกาศนโยบายชุดสำคัญทันที เพื่อให้เป้าหมายแลนด์สไลด์ เปลี่ยนฝ่ายบริหารมาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนสำเร็จได้อย่างแน่นอน เชื่อว่าเป็นความหวังร่วมกันของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการแสดงความเห็นในเชิงขัดขวางการแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ขอให้พี่น้องประชาชนได้พิจารณา กรณีที่ ส.ว.มีการท้าทายพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งแลนด์สไลด์เกินครึ่ง จะไม่โหวตนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ยังไม่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แม้เป็นที่ทราบโดยนัยว่าอาจมีชื่อนางสาวแพทองธารอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อใคร ย่อมต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อ คือ คุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย มีความรู้ความสามารถที่ทุกคนและกรรมการบริหารพรรคยอมรับ รวมถึงต้องได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน หากผ่านเงื่อนไขนี้ ขอให้ ส.ว.ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ตั้งสติ ใช้วิจารญาณดีๆ นี่ไม่ใช่เวลาเอาหน้ากับผู้มีอำนาจแต่งตั้งท่านมา ไม่ใช่เวลาอ้างสิทธิที่ท่านไม่พึงมีแต่ต้นคือการโหวตนายกรัฐมนตรี มาสร้างแรงเสียดทานนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง ยอมรับฉันทามติจากประชาชน การเลือกตั้งจะนำไปสู่ทางที่ดีกว่าได้แน่นอน เราจะรอพิสูจน์เมื่อถึงเวลานั้นที่ประชาชนคือเจ้าของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง