“ทิพานัน” ชี้ฝ่ายค้านขู่คว่ำพ.ร.บ. งบประมาณ อาจทำให้ทุกงบลงทุน-พัฒนาสะดุด เหมือนเอาปากท้องประชาชนเป็นตัวประกัน ย้ำรัฐบาล “ลุงตู่”ใช้งบฯคุ้มค่า 7 ปี วางโครงสร้างพื้นฐานหลัก – กระจายความเจริญ – พัฒนาคุณภาพชีวิต ต่อเนื่อง
29 พฤษภาคม 2565-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการพิจารณาคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้าว่า ฝ่ายการเมืองควรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 จำนวน 3.18 ล้านล้านบาทด้วยหลักการและความจริงใจ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่หวังผลทางการเมืองเพียงเท่านั้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แม้โดยหลักการตามรัฐธรรมนูญมาตรา141 จะกำหนดว่า งบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินให้ทำเป็นพระราชบัญญัติถ้าพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณออกไม่ทันปีงบประมาณใหม่ให้ใช้กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน แต่จะไม่สามารถนำงบลงทุนมาใช้ได้ ในขณะที่การลงทุนภาครัฐยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยเฉพาะแผนงานบูรณาการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นตัวหลักสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
“ฝ่ายการเมืองต้องมองผลกระทบในภาพกว้างที่จะเกิดขึ้น หากโครงการต่างๆต้องสะดุดหยุดชะงัก ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ การส่งสัญญาณคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จึงเหมือนเอาปากท้อง เอาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นตัวประกัน”น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอด 7 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ให้ถึงมือพี่น้องประชาชน ได้เห็นถึงผลสำเร็จที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โครงการประชารัฐเพื่อประชาชน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การทวงคืนพื้นป่า แก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การปรับภูมิทัศน์ริมคลองหลายสายให้สะอาดมีชีวิต เพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่น สวนเบญจกิติ ใจกลางกรุงเทพ เป็นต้น
“ที่สำคัญ บริหารงบประมาณเพื่อการพัฒนาโครงสร้างเพื่อเพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ไทย เช่น รถไฟความเร็วสูงระยะที่1 ที่จะใช้ในปี 2569 และระยะที่ 2 ที่กำลังดำเนินการ และรถไฟทางคู่ทั่วประเทศเพื่อลดระยะเวลาเดินทางได้ถึง30% รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเพื่อรองรับ EEC พร้อมกับยกระดับเส้นทางคมนาคมทางถนนทั่วทุกภูมิภาค อย่างทั่วถึง” น.ส. ทิพานัน กล่าว
น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่า แม้กระทั่งการรับมือโควิด-19 จนสถานการณ์คลี่คลาย จนเป็นตัวอย่างของทั่วโลก รวมไปถึงการออกมาตรการเยียวยาประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนที่กล่าวมานี้คือการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าในการพัฒนาทุกๆด้าน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าในการจัดทำงบประมาณ ปี 2566 ก็จะช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นแน่นอน