“ทิพานัน” ชี้รัฐบาลเล็งแก้ข้อร้องเรียนเงินเดือน ไม่ขึ้นมา10 ปี จากสมาคม อบต. ตั้งแต่ปี 62 หลังปรับขึ้นเงินเดือนกำนันและผู้ใหญ่บ้านไปก่อนแล้ว ย้ำปี66 โควิดคลี่คลายจึงอนุมัติขึ้นเงินเดือน หวังบุคคลากร-ท้องถิ่นพัฒนาขึ้น ไม่เกี่ยวหาเสียงการเมือง
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีขึ้นเงินเดือนให้กับผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ว่า เป็นเรื่องที่มีการดำเนินการตามกระบวนการอย่างเป็นขั้นตอน โดยสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย ได้ยื่นข้อเสนอต่อ กระทรวงมหาดไทยมาตั้งแต่ปี2562 เนื่องจากไม่ได้มีการปรับค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมานานกว่า 10 ปี และได้มีการติดตามความคืบหน้ามาเป็นลำดับ
“ในข้อเรียกร้องสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2562 นั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เห็นด้วยในหลักการ ทั้งบรรเทาความเดือดร้อน และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และก่อนหน้านี้ได้มีการปรับขึ้นเงินเดือนของกำนันและผู้ใหญ่บ้านไปแล้วก่อนปี 2562 ดังนั้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และหลักธรรมาภิบาล จึงเห็นควรปรับขึ้นเงินเดือนให้ เพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าวให้รวดเร็วที่สุด แต่ขณะนั้นมีสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องชะลอไปก่อน” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ทางสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย จึงได้มีการติดตามเรื่องดังกล่าว มายัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ในงาน “การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย” จ. เชียงใหม่ อีกครั้ง โดยมี ผู้บริหาร อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนา ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ได้มอบให้ผู้บริหารท้องถิ่น ทำหนังสือราชการ พร้อมร่างหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าตอบแทนต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและข้อกฎหมายต่างๆ ในทันทีและเร่งติดตามเสมอมา เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่น มาโดยตลอด
และเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ทางสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย ได้เข้าหารือกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อมูลถึงหลักเกณฑ์และความจำเป็นของ อบต. ซึ่งนายพีระพันธุ์ ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการอำนวยการความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ จึงได้นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย ผ่านความเห็นชอบในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ตามลำดับ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องตั้งแต่ปี 62 และได้พยายามดำเนินการทันที แต่ติดปัญหาวิกฤตโควิด เมื่อสถาการณ์คลี่คลายก็เดินหน้าแก้ไขปรับปรุง ส่วนที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นำเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหา ก็เป็นไปตามขั้นตอนการแก้ไขปกติ ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองใดๆ หรือเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ที่จะหยิบยกมาโจมตีกัน
“ในส่วนการบริหารของ “พล.อ.ประยุทธ์” สะท้อนให้เห็นว่า ให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่นทุกหน่วยงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งการปรับขึ้นเงินเดือนจะเป็นขวัญและกำลังใจของคนทำงานและลดความเหลื่อมล้ำได้ส่วนหนึ่งด้วย’น.ส.ทิพานัน กล่าว