16 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน@กทม. พร้อมด้วยนายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ส.ก.สารัช ม่วงศิริ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางขุนเทียน ที่บริเวณถนนด้านข้างสํานักงานเขตบางขุนเทียน
นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน ดำเนินการมาจนถึง Lot ที่ 22 สามารถลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ รวม 22 Lot กว่า 10,000 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา อย่างน้อยในยามที่โลกประสบภาวะเงินเฟ้อและประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบราคาพลังงานสูงขึ้นมากเป็นต้นทุนการผลิต
ประเทศไทยถือเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่าหลายประเทศในโลก โครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชนคือโครงการที่เป็นรูปธรรมที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในจัดทำขึ้นภายใต้นโยบายที่ตนมอบและมีส่วนลดภาระค่าครองชีพได้เยอะในช่วงที่ผ่านมา
“วันนี้เป็นอีกหนึ่งในโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชนจัดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งมี 2 โครงการในช่วงนี้ คือ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 22 (New Year Grand Sale 2023) จัดตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.65 ถึง 31 ม.ค. 66 และในกรุงเทพมหานครจะจัดพาณิชย์ลดราคา! 5 จุด รวมทั้งทั่วประเทศทุกจังหวัด วันนี้เป็นการจัดลดราคาที่เขตบางขุนเทียน จะมีส่วนช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนในเขตบางขุนเทียนรวมทั้งฝั่งธนบุรีที่สะดวกมาจับจ่ายใช้สอยที่นี่
โครงการนี้ลดราคาสูงสุดถึง 60% มีบูธจำหน่ายสินค้าราคาถูก 150-200 บูธ มีสินค้ามากกว่า 1,000 รายการ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯได้ไม่น้อยในบริเวณฝั่งธนบุรี” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
นอกจากนี้นายจุรินทร์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่อว่า สำหรับสินค้าไฮไลต์ เช่น น่องไก่ติดสะโพก 55 บาท/กก. ข้าวสารหอมมะลิถุงละ 5 กก. ราคา 120 บาท น้ำมันพืช ขวดละ 45 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2-3 แผงละ 30 ฟอง ราคา 90 บาท( 3 บาท/ฟอง) รวมทั้งสินค้าอื่นอีกเยอะ ซึ่งทำมาต่อเนื่อง และราคาสินค้าในช่วงนี้ได้ปรับลดลงมา นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่าปี 66 เงินเฟ้อจะมีแนวโน้มปรับลดลงมา และเราจะกำกับราคาที่เป็นธรรมไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค
ถ้าพบว่ามีการขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคจะดำเนินคดีข้อหาค้ากำไรเกินควร ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและช่วงตรุษจีนได้เตรียมความพร้อมในการเข้าไปดูแลราคาสินค้าในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงตรุษจีน ไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา และกระทรวงพาณิชย์จะไปจัดกิจกรรมให้คนไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศที่สามย่านต่อไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในการเข้าไปกำกับดูแลราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้