“แรมโบ้” พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งให้รวมไทยสร้างชาติเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วางเป้าได้ ส.ส. ทะลุ 100 เผยหลายพื้นที่ภาคอีสานไม่เอาเพื่อไทยแล้ว ความหวังแลนด์สไลด์คงจบ เตือนความจำ ทักษิณวิจารณ์พรรคอื่น ต้องสำนึกบุญคุณ ที่เคยช่วยหาเสียงให้ได้เป็น ส.ส. สมัยแรก
14 มกราคม 2566-นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ สัมภาษณ์สื่อเปิดเผยว่า
จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสานพบว่าประชาชนยังให้การสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และกระแสรักลุงตู่ ยังมีมาก ซึ่งตนเองประเมินแล้วว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ ส.ส.อีสาน ขั้นต่ำ 30 ที่นั่ง และทั่วประเทศน่าจะได้มากกว่า 100 ที่นั่ง
แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน เพราะเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ ทั้งนี้ตนเองพร้อมจะร่วมทีมนำทัพลงพื้นที่ภาคอีสานในการสู้ศึกเลือกตั้ง
นายเสกสกล ยังระบุว่าจากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนในพื้นที่เริ่มเบื่อหน่ายและไม่เอา ส.ส. เพื่อไทยแล้ว เนื่องจากกระแส น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยในพื้นที่อีสานไม่แรงมากนัก แต่เกิดจากการปั่นกระแสโซเชียลมากกว่า ขณะเดียวกันเจอปัญหา ส.ส. พรรคย้ายออกมาก ดังนั้นเป้าหมายแลนด์สไลด์คงเป็นไปได้ยากเป็นแค่การขี้โม้โอ้อวด ปั่นราคามากกว่า
“ตนเองมั่นใจว่าประชาชนในหลายพื้นที่ให้การสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติให้ได้ ส.ส. มากที่สุด เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกครั้ง เพื่อมาสานต่อการทำงาน แก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน เพราะที่ผ่านมาประชาชนเห็นผลงานแล้ว และเห็นแล้วว่าใครมีความตั้งใจทำงานอย่างแท้จริง”
ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประเมินพรรครวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส. เกิน 25 ที่นั่ง แต่ไม่เกิน 35 ที่นั่งนั้น นายเสกสกล มองว่าที่นายทักษิณออกมาพูดเช่นนั้น เพราะมีความหวั่นไหวและกลัวพรรครวมไทยสร้างชาติมากกว่า คงเห็นสัญญาณแล้วว่าประชาชนจะเทคะแนนมาที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
“พร้อมเตือนพรรคเพื่อไทยให้หยุดแบ่งแยกสีเสื้อ เพราะบ้านเมืองขัดแย้งมากเกินพอแล้ว ไม่อยากได้ยินคำว่าแดงเผาบ้านเผาเมือง อย่ายุคนเสื้อแดงออกมาเชียร์อีกเพราะคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เข็ดหลาบเจ็บปวดกับบทเรียนที่ถูกชักจูงหลอกลวงให้มาชุมนุมเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจของคนตระกูลเดียวเท่านั้น
ส่วนตนไม่จำเป็นต้องมีบุญคุณอะไรกับนายทักษิณ มีแต่นายทักษิณ ต้องสำนึกบุญคุณตนมากกว่าที่ตนเคยช่วยหาเสียงให้นายทักษิณได้เป็น ส.ส. สมัยแรก ในปี 2538 ในนามพรรคพลังธรรม หวังว่านายทักษิณคงไม่ลืม”
