มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำหน้าเต็มพิกัดเพื่อความเหนือกว่าในด้านอายุใช้งาน ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน และความปลอดภัย จึงคุ้มค่าและช่วยเพิ่มผลิตภาพให้กับลูกค้า
มิชลิน ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางรถยนต์ระดับโลก รุกก้าวบุกตลาดยางรถบรรทุกด้วยการเปิดตัว ‘มิชลิน เอ็กซ์ มัลติ แซด 2’ (MICHELIN X MULTI Z 2) ยางรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางมิชลินที่ขายดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย โดยยางรถบรรทุกรุ่นนี้วางตลาดในขนาด 11R22.5 สำหรับติดตั้งกับทุกตำแหน่งล้อ เพื่อการใช้งานบนทางหลวงและเส้นทางในภูมิภาค โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าเหนือระดับที่ให้อายุการใช้งานยาวนานเหนือกว่า ทั้งยังมีศักยภาพที่ดียิ่งขึ้นในหลายด้านเพื่อประโยชน์ของลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเดินรถขนส่ง
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
เซบาสเตียน เอโน (Sebastien Henot) ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2B บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า “ยาง มิชลิน เอ็กซ์ มัลติ แซด 2 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าหลักๆ 3 ประการ ที่ไม่เพียงช่วยให้ยางมีศักยภาพด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า แต่ยังตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในเรื่องประสิทธิภาพและความตรงเวลาในการส่งมอบสินค้า จึงส่งผลดีต่อธุรกิจของลูกค้าในแง่ความคุ้มค่าและการเพิ่มผลิตภาพ”
เทคโนโลยีที่โดดเด่น 3 ประการหลักของยางมิชลิน เอ็กซ์ มัลติ แซด 2 ได้แก่ เทคโนโลยีร่องดอกยางเมจิคกรู๊ฟ MAGIC GROOVE ที่ผสานร่องดอกยางหลายรูปแบบเข้าด้วยกันจึงช่วยลดการเสียรูปของหน้ายาง ซึ่งส่งผลต่อการลดแรงต้านทานการหมุนและช่วยประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่ล้ำหน้ายังทำให้เกิดนวัตกรรมดอกยางตามแนวยาวที่เกิดขึ้นใหม่ทุกช่วงการใช้งาน ช่วยแก้ปัญหาประสิทธิภาพการเกาะถนนที่ลดลงตามอายุการใช้งานยาง ช่วยเพิ่มสมรรถนะการควบคุมยานยนต์ให้ดียิ่งขึ้นในทุกสภาวะการขับขี่ ทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพการขับขี่สัญจรในทุกสภาพอากาศ และมีอัตราการสึกของดอกยางช้าลง ส่งผลให้ยางมีอายุการใช้งานยาวนานเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับยาง ‘มิชลิน เอ็กซ์ มัลติ แซด’ รุ่นก่อนหน้า1
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
เทคโนโลยีชั้นโครงยางแข็งแกร่งพิเศษ INFINICOIL โดยใช้ลวดเหล็กกล้ากว่า 400 เมตร (ขึ้นอยู่กับขนาดยาง) พันตามแนวขนานของยาง ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับชั้นโครงสร้างยาง ทำให้ยางมีความทนทาน หน้ายางสัมผัสพื้นได้เต็มกว่าปกติ และขับขี่ได้ระยะทางไกลขึ้น ทั้งยังช่วยให้ยางมีเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้นตลอดอายุการใช้งาน ช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียแรงดันลมยางกะทันหันเพื่อการควบคุมยานยนต์ที่เหนือกว่า ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้นานขึ้นแม้ยางจะแตกรั่วซึม และช่วยลดอาการดอกยางสึกไม่เท่ากัน เนื่องจากเทคโนโลยีชั้นโครงยางเช่นนี้ช่วยลดการบิดตัวของหน้ายาง ทำให้มีหน้าสัมผัสยางที่ราบกับพื้นถนนมากขึ้น ส่งผลให้ขับขี่ได้เป็นระยะทางยาวนานยิ่งกว่า โดยมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุขัดข้องฉุกเฉินที่ทำให้ต้องสูญเสียเวลาไปกับการหยุดซ่อมบำรุงน้อยลง
และเทคโนโลยีไนลอนต้านแรงดึงสูง HT NYLON (High Tensile NYLON) ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งบริเวณขอบยาง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดความเสียหายของยางอันสืบเนื่องมาจากการขับขี่ระยะไกล/การขับขี่ด้วยความเร็วสูงและการใช้งานอย่างต่อเนื่องลงได้ถึงร้อยละ 102 แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการหล่อดอกยางได้หลายครั้ง
“ด้วยสมรรถนะผลิตภัณฑ์ที่ล้ำหน้าและเหนือกว่า ประกอบกับประโยชน์ที่ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเดินรถขนส่งจะได้รับ ผมเชื่อว่ายางมิชลิน เอ็กซ์ มัลติ แซด 2 จะสร้างกระแสในตลาดยางรถบรรทุกทั่วทั้งภูมิภาคได้อย่างแน่นอน” มร.เอโน กล่าวด้วยความมั่นใจ
ในประเทศไทย ยาง ‘มิชลิน เอ็กซ์ มัลติ แซด 2’ มีวางจำหน่ายแล้ว ณ ร้านตัวแทนจำหน่ายยางรถบรรทุกอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่วประเทศ คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});
1 อ้างอิงผลการทดสอบภายในองค์กร ซึ่งมิชลินจัดทำขึ้นกับธุรกิจเดินรถขนส่งในประเทศไทย โดยมีการติดตั้งยางรถในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ถึง เดือนธันวาคม 2560 และเปลี่ยนยางในช่วงไตรมาสแรกของเดือน 2562 การทดสอบจัดทำขึ้นโดยเทียบระหว่างยาง 2 รุ่น คือ MICHELIN X MULTI Z2 (รหัสยางทดสอบ M327) 295/80 R22.5 TL 152/148M และ MICHELIN X Multi Z 295/80 R22.5 TL 152/149M ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่อาจแตกต่างกันเล็กน้อย
2 อ้างอิงผลการทดสอบภายในองค์กร ซึ่งมิชลินจัดทำขึ้นเพื่อเปรียบเทียบระหว่างผลิตภัณฑ์ยางรถบรรทุก 2 รุ่น โดยรุ่นหนึ่งใช้เทคโนโลยีไนลอนต้าน แรงดึงสูงและอีกรุ่นไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ ทั้งนี้ การทดสอบจัดทำขึ้น ณ เมืองลาดูซ์ (Ladoux) ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557 โดยใช้ยางขนาด 11R22.5 TL148/145L ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่อาจแตกต่างกันเล็กน้อย
(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});