สันต์ สะตอแมน
สื่อไม่ใช่เทวดา!
นี่..ไม่รู้คนในอาชีพสื่อจะพูดเองหรือเป็นเสียงจากคนภายนอกกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของใครก็ตาม ก็ดูจะเป็นจริงที่สุด..
มนุษย์ผู้มีกิเลสหนา กิน ขี้ ปี้ นอนอย่างเราๆ ท่านๆ จะเป็น “เทวดา” ไปได้อย่างไร?
เมื่อไม่ได้เป็นเทวดา ไม่มีอภิสิทธิ์เหนืออาชีพอื่นใดแล้ว ก็อยากให้สื่อได้ลองอ่านข้อความนี้ดู.. “ภาคประชาชนตั้งฉายาให้สื่อบ้างนะจ๊ะ”
- ขอตั้งบ้าง ฉายาสื่อที่ทำเนียบฯ อาจไม่เนี๊ยบไม่กระชาก ก็อยากตั้ง อยากสะท้อนเปรี้ยงเปรี้ยง เสียงดังดัง ให้เป็นเหมือนน้ำขัง ไว้โงกดู
- ฉายา ๑.ตั้งว่า “สื่อ สมอง โบ๋” แต่ชอบโชว์มุมมองสมองทู่ ชอบก๋ากั่น ชอบกร่าง ข้างๆคูๆ หลงว่าสิ่งที่ทำอยู่ นั้นชอบธรรม?
- ฉายา๒.นั้นคือ “สื่อขยะ” ขอโทษนะ ถ้าแรงไป ในขย้ำ ก็ประเมินโดยยึดพฤติกรรม แหม ขำๆ ทีสื่อตั้ง ก็ยังแรง?
- ฉายา๔. “สื่อเสื่อม น่าเอือมระอา” เหมือนหมดแล้วซึ่งจรรยา โอ้ตาหวาน เอาอคติมายำการทำงาน สนุกสนาน จนลืมว่าด้อยค่าใคร?
- สี่ฉายา ที่ขอมั่งตั้งให้สื่อ ประเด็นคือ สื่อช่วยตอบ ว่าชอบไหม ถ้าชอบ และลึกๆไม่นึกอะไร จะตั้งให้อย่างสนุก ในทุกปี
- ถ้าไม่ชอบ ก็จงคิดพิจารณา ที่ชอบตั้งฉายา คนโน้นคนนี้ เขาก็ไม่ชอบ ไม่ชิน ไม่ยินดี กับฉายาประเพณีบ้าๆบอๆ”
เปล่านะ..ผมไม่ใช่เจ้าบท-เจ้ากลอน แต่เจ้าของ-คนเขียนนามว่า “เพลงผ้า ปรพากย์” จะเป็นใคร-ผู้ใด ผมมิอาจทราบได้ แค่เพื่อนส่งไปให้ทางไลน์อีกที อ่านแล้วก็..สนุกดี..
ส่วนพี่ๆ-เพื่อนๆ สื่อจะคิดเห็นประการใด สุดแต่ใจเถอะนะ ขอเพียง..อย่าหัวร้อนก็แล้วกัน!
ครับ..วันก่อนเห็นข่าวดร.ประพล มิลินทจินดา ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” ที่วางโปรแกรมฉายเอาไว้ 19 มกรา ปีหน้า
ได้จัดกิจกรรม ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ เดินสายให้โชค โรดโชว์แจกธูปตัวเลขจำนวน 100,000 ดอกให้กับพี่น้องชาวใต้และอีสานรวมถึงปริมณฑลตามคอนเซ็ปต์..
“ขอได้ ไหว้รับ” พร้อมแฮนด์บิล ดู ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ แค่ 99 บาท ตลอดโปรแกรม ไม่ว่าจะชมที่โรงภาพยนตร์ไหนจังหวัดใดก็จ่ายแค่ 99 บาท
ก็..เลยให้เกิดคำถามขึ้นมา ราคาตั๋วหนัง 99 บาท จะเป็นไปได้จริงหรือ? ซึ่งประเด็นนี้ ผมขออวดรู้กับเขาหน่อย ว่า เป็นไปได้จริงครับ!
และไม่ใช่มาเป็น(จริง)เอาเฉพาะหนัง “ไอ้ไข่ฯ” หากแต่โรงหนังทั้งสองเครือยักษ์ใหญ่ ต่างก็ใช้การตลาด-ทำโปรโมชั่นลดราคาตั๋วหนังไทยมาตลอดในห้วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ต้องบอกก่อน..เฉพาะหนังไทยฟอร์มเล็กเท่านั้น บางเรื่อง-ทุกรอบ ราคาตั๋วเหลือแค่ 69 บาท หรือ 39 บาทก็ยังมีในพื้นที่-ทำเลเล็กๆที่คนดูไม่พลุกพล่าน..
บางโรง-บางแห่ง ในวันธรรมดา ราคาตั๋วก็อยู่ที่ 99 บาทเป็นปกติอยู่แล้ว!
ถามว่า โรงหนังอยู่ได้เรอะ? อยู่ได้แน่นอน เพราะเขามี “ป๊อปคอร์น” ข้าวโพดคั่วไงล่ะ ก็เหมือนปั้มปตท.นั่นแหละ ถ้าไม่มีร้านกาแฟ “อเมซอน” ป่านนี้ ปิดปั๊มไปแล้ว!
อย่างไรก็ตาม ราคาตั๋วหนังก็ยังคงลอยตัวตามแต่เจ้าของโรงจะกำหนด แต่ถ้ายึดมาตรฐานทั่วไป ก็จะอยู่ที่ 120-140 หรือ 160 นอกเสียจากโปรแกรมหนังใหญ่-โรงไฮโซหน่อย..
ตั๋วก็อาจจะทะยานไปถึง 180-200 บาท นี่ไม่พูดถึง“วีไอพี” เก้าอี้คู่ละ 500 คู่ละ 1,000 นะ!
เอาล่ะ..เมื่อรู้แล้วก็เลิกบ่นเสียทีว่า “ราคาตั๋วหนังแพงเว่อร์” เพราะที่ “ถูกเว่อร์” ก็มีให้ได้เลือกซื้อตามกำลังทรัพย์แต่ละคน
ส่วนที่บ่นกันพึมในวงการ..หนังไทยไปไม่รอดแล้ว ไม่มีคนดู แต่ละเรื่องที่ฉายเจ๊งระเนระนาด ก็คอยดูหนัง “ทิดน้อย” แล้วกัน ถ้าเก็บร้อยล้านได้..
never die-หนังไทย!