ของจริงยิ่งกว่าฉายา-ผักกาดหอม

www.plewseengern.com

ผักกาดหอม

เป่าปากกันเกรียว

ศัตรูการเมือง “ลุงตู่” พากันชอบอกชอบใจ กับฉายารัฐบาลที่นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ เป็นพิเศษ

ก็มันส์ส์ส์อยู่หรอก

ไปดูกันก่อนว่าปีนี้รัฐบาลลุงตู่ได้ฉายาว่าอะไร

“หน้ากากคนดี”

คำอธิบายก็ตามนี้

…เป็นอีกหนึ่งปี ที่ทุกคนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ขณะเดียวกัน ภายใต้หน้ากากของรัฐบาล ที่สร้างภาพจำตลอดเวลาว่าเป็นคนดี นโยบายทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมือง และประชาชน แต่กลับเกิดข้อกังขาว่ายังเดินตามเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้ได้หรือไม่

เช่น นโยบายกัญชา ที่อวดอ้างทำเพื่อประชาชน แต่เมื่อเกิดผลกระทบจากการใช้ผิดวัตถุประสงค์ กลายปัญหาสังคมบานปลาย แม้แต่การออกกฎหมายควบคุมการใช้ยังทำไม่ได้ สุดท้ายผลักภาระเพิ่มให้ตำรวจ เพียงเพราะต้องการเช็กลิสต์ตามนโยบายที่หาเสียงไว้ นโยบายประชานิยมที่ออกแนวหาเสียง ให้ทั้งเบ็ด ทั้งปลา

หรือ การประกาศแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีความคลุมเครือ ว่าประโยชน์ที่ได้นั้น เป็นของประชาชนหรือนักการเมืองกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของพรรคการเมืองใด เมื่อออกมาในนามรัฐบาล ประชาชนจึงเกิดความเคลือบแคลงสงสัย ว่าภายใต้หน้ากากที่ประกาศเป็นคนดีนั้น จริงหรือไม่?…..

ไม่ตรงปกสักเท่าไหร่

เห็นปกดุเดือด “หน้ากากคนดี” นึกไปโน่นแล้ว รัฐบาลต้องเลวทราม แต่ปกปิดด้วยหน้ากาก

ยกตัวอย่าง กัญชา พอมองเห็นภาพเพราะรัฐบาลก็ฟัดกันเอง

ในแง่นโยบายรัฐบาลถือเป็นความล้มเหลว เพราะรัฐบาลด้วยกันยังเห็นไม่ตรงกัน

แต่ในแง่นโยบายกัญชาก็ต้องถกกันอีกยาว เพราะความไม่ชัดเจนว่ากัญชาเสรี กับกัญชาทางการแพทย์ แตกต่างกันอย่างไร และประเทศไทยจะมุ่งไปทางไหนกันแน่

ความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ในวันนี้จะบอกว่ากัญชาเพื่อการแพทย์เพียวๆ มันก็ไม่ใช่ เพราะข้างทางมีขายน้ำกัญชาปั่นกันอยู่

ฉะนั้นนโยบายนี้ต้องถอดหน้ากากพูดกัน

ส่วนนโยบายภาพรวม ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องยอมรับความจริงกัน

รัฐบาลประยุทธ์มีดีตรงการขยายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างมโหฬาร ชนิดไม่มีรัฐบาลไหนช่วง ๓๐ กว่าปีที่ผ่านมาทำได้มาก่อน

แต่ข้อเสียก็ไม่ต่างจากทุกรัฐบาลที่ผ่านๆ มา

แก้ปัญหาคอร์รัปชันไม่ได้สักที

ไปดูฉายานายกฯ นี่ก็เดือดเลือดสาดไม่แพ้กัน

“แปดเปื้อน”

ความหมายตรงๆ ของ แปดเปื้อนคือ เปื้อน, ด่างพร้อย, มัวหมอง, มีมลทิน, มีราคี

แต่นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเล่นคำ ผูกกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ๘ ปี

“…ปมวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ๘ ปี สั่นคลอนภาพลักษณ์ของพลเอกประยุทธ์ ตลอดปีที่ผ่านมา และกลายเป็นข้อครหา ถึงความชอบธรรมในการครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อเนื่องยาวนาน พลเอกประยุทธ์ ถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย ที่ศาลมีคำสั่ง ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเพียงแค่ ๓๘ วัน ก็ทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยในตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มักจะพูดเสมอว่าไม่ยึดติดอำนาจ ทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน ไม่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง

ยิ่งเมื่อปัญหาใต้พรมถูกขุดคุ้ยขึ้น ใกล้ตัวเกินกว่าจะปัดความเกี่ยวโยงได้ ทั้งนโยบายประชานิยม ทุนสีเทาสนับสนุนพรรคการเมือง หรือแม้แต่นักการเมืองใกล้ตัว นายทหารใกล้ชิด ที่ได้ไปนั่งอยู่ในบอร์ดบริหารบริษัทพลังงาน แม้พิสูจน์กันทางกฎหมายไม่ได้ แต่ก็ทำให้ถูกมองว่า ไม่ได้ใสสะอาด ผุดผ่องอีกต่อไป…”

ก็ว่าไปตามเนื้อผ้าครับ เพราะคนเป็นผู้นำย่อมปัดความรับผิดชอบไม่ได้

ความไม่ดีที่บริวาร คนใกล้ชิดก่อขึ้น ก็ถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของผู้นำเช่นกัน

ต้องไม่มีคำว่า บกพร่องโดยสุจริต

ครับ…พรรคเพื่อไทย ถูกใจฉายารัฐบาลปีนี้มาก

โดยเฉพาะ “ชลน่าน ศรีแก้ว” ถึงกับยกนิ้วโป้ง

“…ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชน คำนี้โดนใจมาก เป็นฉายาที่เหมาะสม เรื่องหน้ากากคนดี หมายถึง สิ่งที่เห็น เสมือนเป็นคนดี แต่ที่เจอมา ๘ ปี วิถีประชาธิปไตย ถูกทำลายอย่างย่อยยับ เรื่องของเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ วิถีเชิงสังคม ถูกปิดกั้นโอกาส ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้โอกาส ๘ ปี เป็นลักษณะแปดเปื้อนทุกอย่างในการสืบทอดอำนาจ คงไว้ซึ่งอำนาจ ขอบคุณที่ช่วยกันสะท้อนภาพบอกว่า อย่าให้คนดีในสังคม ที่มีแต่หน้ากาก อย่าทำให้ภาคการเมืองแปดเปื้อน โดยแสวงหาประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง…”

ก็…ธรรมดา ฝ่ายค้านออกปากไม่เห็นด้วยสิเป็นเรื่องแปลก

แต่ก็ช่วยอธิบายให้ชัดเจนหน่อยกว่า ที่ยกโขยงไปคำนับนักโทษหนีคุกคดีโกงถึงฮ่องกงนั้น มันแปดเปื้อนหรือเปล่า

แถมวาทะแห่งปี “เกลียดหรือไม่เกลียดก็ช่างคุณเถอะ เพราะผมไม่รู้”

แต่ผมฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ นะ

เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการเสพข่าวสาร ไปดูฉายาที่นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์-ทักษิณ แล้วจะพบว่าจัดจ้านกว่าเป็นไหนๆ

ปี ๒๕๕๔ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้รับฉายา “ทักษิณส่วนหน้า” เพราะไม่สามารถสลัดภาพของพี่ชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปได้ และการทำงานต่างๆ ในรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรีพลัดถิ่นยังคงมีบทบาทสูง

ส่วนฉายายิ่งลักษณ์ “นายกฯ นกแก้ว” จากความสวยเหมือนนกแก้ว แต่กลับไม่สามารถบินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอด ได้แค่พูดตามบทที่เขียนไว้เท่านั้น โดยที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอะไรและพูดผิดพูดถูกอยู่ตลอด

มาปี ๒๕๕๕ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้รับฉายาว่า “พี่ชายคนแรก” เป็นการล้อมาจากนโยบาย “รถคันแรก” และ “บ้านหลังแรก” เพราะรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศภายใต้เงาของพี่ชาย พี่สาว รวมทั้งปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาก็มาจากเรื่องของพี่ ทำให้ปัญหาปากท้องประชาชน ข้อครหาเรื่องทุจริตไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่ควรจะเป็น เพราะรัฐบาลมัวแต่ยุ่งอยู่กับ “พี่ชาย” เรื่องของพี่ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกนั่นเอง

ฉายานายกฯ ก็คือ “ปูกรรเชียง” เพราะบริหารประเทศภายใต้ใบสั่งจากพี่ชายที่ชื่อทักษิณ และพี่สาวที่ชื่อ เจ๊ ด. ทำให้ไม่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม และเมื่อเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้น เจ้าตัวก็มักจะตีกรรเชียงลอยตัวหนีปัญหา จนถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อยู่เรื่อยๆ

เป็นไงครับ?

ถ้ายังไม่ตรงปกงั้นไปดูฉายารัฐบาลทักษิณกันบ้าง

ปี ๒๕๔๕ ฉายารัฐบาลคือ “หลอน”

เหตุผลเนื้อๆ เน้นๆ เนื่องจากนโยบายที่รัฐบาลนำเสนอต่อสาธารณะเป็นการสร้างความหวังให้ทุกชนชั้นในสังคม ทั้งที่นโยบายเดิมยังไม่สัมฤทธิผล แต่มีนโยบายใหม่ๆ ออกมา เพื่อจูงใจให้ประชาชนยอมรับ แต่เมื่อนโยบายถูกตรวจสอบ และส่อว่าจะมีปัญหายุ่งยากในการปฏิบัติ กลับออกนโยบายและมาตรการใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เสมือนการหลอนให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อรัฐบาลตลอดเวลา

ฉายานายกฯ คือ “นายทาส”

เป็นผู้ประกาศปลดปล่อยประชาชนคนไทยให้หลุดพ้นจาก “พันธนาการ” ความยากจน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และพ้นจากทาสไอเอ็มเอฟ แต่กลับนำกลไกของรัฐมาสร้างพันธนาการใหม่ให้ประชาชนด้วยนโยบาย “ก่อหนี้” ทุกรูปแบบ ทั้งยังส่งเสริมระบบเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน เปรียบประหนึ่งว่ากำลังสนับสนุนค่านิยมเสี่ยงโชค อาจส่งผลให้ประชาชนต้องตกเป็นทาสการพนันไปในที่สุด

ส่วนวาทะแห่งปีไปดูวาทะปี ๒๕๔๘ “จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เราต้องดูแลเป็นพิเศษ”

เป็นไงครับยกมาพอเป็นน้ำจิ้ม

ฉายาลุงตู่ “แปดเปื้อน” พันทุนสีเทา

ของยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ไม่พัน คุกโดยตรงเพราะโกง

มันยิ่งกว่าฉายา

Written By
More from pp
พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง เปิดบ้านแจกข้าวสาร 2,500 กิโล ให้ประชาชนต้อนรับปีใหม่
คุณแหม่ม หรือนันทวรรณชยา ภาจิตประพันธ์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กพี่แหม่มหัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง เปิดบ้านย่านลาดพร้าว แจกข้าวสารให้กับประชาชนจำนวน 248 ครัวเรือน รวมทั้งหมด 2,500 กิโลกรัม
Read More
0 replies on “ของจริงยิ่งกว่าฉายา-ผักกาดหอม”