AOT พร้อมรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 คาดมีผู้เดินทางกว่า 2 ล้านคน

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 คาดมีผู้โดยสารกว่า 2 ล้านคนใช้บริการสนามบินทั้ง 6 แห่ง โดยยังคงเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การอำนวยความสะดวกผู้โดยสารและการให้บริการมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 AOT ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนผ่านสนามบินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 รวมทั้งได้ตระหนักถึงการกลับมาให้บริการในยุค New Normal

ซึ่งในช่วงนี้ที่การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว และมีผู้โดยสารมาใช้บริการสนามบินเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรรมที่ AOT ได้พัฒนาขึ้นจะช่วยตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

และเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุด AOT ขอแนะนำแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ซึ่งผู้โดยสารสามารถเช็กข้อมูลและสถานะเที่ยวบินแบบ Real-time พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบอัจฉริยะเมื่อใกล้เวลาเดินทาง เช็กสถานะกระเป๋าเดินทาง จองที่จอดรถ จองรถแท็กซี่ ค้นหาข้อมูลรถสาธารณะ รวมถึงร้องเรียนและติชมการให้บริการ

รวมถึงฟังก์ชันใหม่ล่าสุด Queue Times ช่วยวางแผนการเดินทางให้ง่ายขึ้น โดยผู้โดยสารสามารถเช็กความแออัดและระยะเวลาในพื้นที่เช็กอิน พื้นที่ตรวจค้น และพื้นที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น

นอกจากนี้ ในช่วงที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการสนามบินจำนวนมาก อาจทำให้ต้องรอคิวบริเวณเคาน์เตอร์ให้บริการต่างๆ เป็นเวลานาน จึงขอแนะนำให้ผู้โดยสารใช้เครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งใช้งานง่ายและ AOT ได้ติดตั้งเครื่อง Kiosk กระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสารพร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกการใช้งาน

การเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ AOT ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงาน หรือศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยในสนามบิน โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน AOT รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประจำศูนย์ฯ ตลอดเทศกาล

โดย ทสภ.ได้มีการจัดตั้งศูนย์ Single Command Center ตามสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อบริหารจัดการเรื่องความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการ ณ ทสภ. โดยเฉพาะในช่วงเวลา Peak Hour ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ทสภ.ปฏิบัติงานเวรตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดเตรียมรถแท็กซี่ และรถสาธารณะมาให้บริการเพิ่มเติมหากมีความต้องการใช้บริการจำนวนมาก

นอกจากนี้ ทสภ.ยังได้ยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 3 มกราคม 2566 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

และ ทภก.ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์ฟรี ณ อาคาร X-Terminal เริ่มจอดได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2566 และจัดพื้นที่ลานจอดรถหน้าอาคารสำนักงาน ทภก. เริ่มจอดได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 24.00 น. ของวันที่ 2 มกราคม 2566

สำหรับประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 ณ สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 171.28 เมื่อเทียบกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 (29 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565)

แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 832.51 และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.05 และมีเที่ยวบินประมาณ 12,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.01 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 5,340 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 260.53 และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 6,850 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.98

นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT ขอเน้นย้ำในหลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่อง ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในเขตหวงห้ามในสนามบินได้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีลักษณะที่ปิดสนิทและมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นบนอากาศยานรวมกันได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร

ทั้งนี้ หากบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวฯ เกินกว่าที่กำหนด (100 มิลลิลิตร) แม้ว่าจะมีของเหลวอยู่เล็กน้อยต้องนำใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง และสำหรับการนำแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขึ้นเครื่องบินตามประกาศของ กพท.ระบุว่า

แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดเล็กที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh (Watt – Hour : Wh) หรือ 20,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดกลางที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 ถึง 160 Wh หรือมากกว่า 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้

แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดใหญ่ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินและโหลดใต้ท้องเครื่องบิน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้า Wh หรือระบุขนาดบรรจุของลิเธียม (Lithium Content : LC) หรือระบุไม่ชัดเจนไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน หรือโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้

นายนิตินัย กล่าวในตอนท้ายว่า สนามบินของ AOT ได้จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้แก่ กิจกรรมสวัสดีปีใหม่ต้อนรับผู้โดยสาร ซุ้มถ่ายภาพ และติดตั้งต้นคริสต์มาสพร้อมประดับตกแต่งอาคารผู้โดยสารให้มีบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 อาจมีผู้มาใช้บริการสนามบินของ AOT จำนวนมาก จึงขอความกรุณาผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบินล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวบินและการให้บริการของ AOT ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

Written By
More from pp
รพ.มะเร็งชีวามิตรา จับมือบำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก ส่งต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา ในเครือโมเดอร์นฟอร์มเฮลท์แอนด์แคร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เข้าร่วมเครือข่ายโรงพยาบาลพันธมิตร “บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก” ที่มีกว่า 73 แห่ง ช่วยยกระดับการส่งต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มศักยภาพด้านการรักษามากขึ้น...
Read More
0 replies on “AOT พร้อมรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 คาดมีผู้เดินทางกว่า 2 ล้านคน”