นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงานสัมมนา “NEXT STEP THAILAND 2023 ทิศทางแห่งอนาคต” จัดโดยสปริงนิวส์ เนชั่นทีวี และโพสต์ทูเดย์ โดยมี ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานสัมมนาด้วย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์เพื่อพาประเทศไทยไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ร่วมกับ 5 หัวหน้าพรรคการเมือง โดยกล่าวว่า ภายในปี 2570 ประเทศไทยต้องเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค คนไทยต้องรู้เท่าทัน รู้การเปลี่ยนแปลง และก้าวไปได้ทันกับเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะเศรษฐกิจดิจิทัล มีทั้งโอกาสและอันตรายซ่อนอยู่ คือ เค้กชิ้นใหญ่ที่ทุกฝ่ายอยากไขว่คว้ามาแบ่งกัน ปัญหาคือประเทศไทยไม่มีคนผลิตเค้ก พรรคเพื่อไทยจึงต้องตอก 2 เสาหลัก เพื่อวางอนาคตด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่
1.โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งคือเครื่องผลิตเค้ก พรรคเพื่อไทยไม่ได้หยุดอยู่ที่อินเทอร์เน็ตฟรีทุกหมู่บ้าน หรือแท็ปเล็ตฟรีทุกครอบครัว แต่พรรคเพื่อไทยต้องการวางโครงสร้างระบบการเงินของประเทศด้วย Central Bank Digital Currency (CBDC) ให้คนไทยทุกคนมีกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล มี digital ID ของตนเอง ทลายกำแพงการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย Blockchain สัญชาติไทย รวมทั้งการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แก้ไขปัญหาคอรัปชั่นทั้งระบบ เราจะวางแผนการผลิตสินค้าการเกษตร ด้วย Big data
พรรคเพื่อไทยประกาศเปิดเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่ง เชียงใหม่ กรุงเทพ ขอนแก่น หาดใหญ่ เพื่อสร้างกฎหมายธุรกิจใหม่ ดึงดูดการลงทุนต่างชาติด้านดิจิทัล และธุรกิจในโลกยุคใหม่ เขตธุรกิจใหม่นี้จะสร้างและเชื่อมเอสเอ็มอีที่มีตลาดในมือ กับ สตาร์ทอัพที่มีไอเดียและเทคโนโลยี และยังดึงดูดแรงงานทักษะสูงจากต่างชาติเข้าทำงานระยะยาวในไทย
2.สร้างคนยุคดิจิทัล หรือ คนผลิตเค้ก พรรคเพื่อไทยจะสร้างองค์ความรู้พื้นฐานด้านดิจิทัล มีความรู้และทักษะด้านดิจิทัล ที่จะสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ในทุกระดับ ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2570 จะสร้างคนดิจิทัลจากเดิมที่มี 400,000 คน ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคน พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปเติมเต็มทักษะคนไทย จากช่างเทคนิคดิจิทัลที่มีอยู่ในสัดส่วน 90 : 10 จะถูกยกระดับเป็นนักบริหารงานดิจิทัล เป็น 80 : 20 แทนที่คนไทยที่มีความรู้ความสามารถจะไปอยู่สิงคโปร์หรือดูไบ ต้องกลับมาที่ประเทศไทย ภาษา Coding คือหัวใจในการสร้างแรงงาน Coding ต้องกลายเป็นความรู้พื้นฐานของเด็กยุคเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการจัดการกับอาชญากรรมไซเบอร์ และเฟกส์นิวส์ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ด้านดิจิทัลที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งภาครัฐต้องมีความจริงจังและจริงใจในการแก้ไขปัญหา พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดว่า การแก้ไขปัญหามี 4 ทางออกคือ
1.รัฐบาลคลิกเดียว ที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานและการเอาจริงเอาจังกับปัญหาได้
2.เติมเต็มความรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางไซเบอร์ให้กับประชาชน
3.วางโครงสร้างพื้นฐานในการแก้ปัญหาของรัฐแและทุกคนในชุมชนต้องมีส่วนร่วมว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ต้องร่วมกันแก้ไข ต้องสร้างชุมชนดิจิทัล ไม่ใช่ปัญหาของผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นชุมชนดิจิทัล
4.ภัยอาชญากรรมไซเบอร์ ส่วนหนึ่งมาจากกลไกการกำกับดูแลที่ควบคุมหละหลวมมาก ผลประโยชน์ของคนกลางเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจึงมีอยู่ โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ซึ่งต้องจัดการ และเราทุกคนต้องไม่ยอมให้อำนาจเหล่านี้เข้ามาครอบงำ
“เราจะใช้ Big data วางแผนการเกษตร ราชการคลิกเดียว เรามั่นใจว่าเราเข้ามาแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นให้หายไปจากประเทศไทย โอทอปจะถูกต่อยอด เขตธุรกิจใหม่จะสร้างพื้นที่เฉพาะให้คนไทยเข้าไปทำมาหากิน นี่คือประเทศไทยในความฝันและความหวังของพรรคเพื่อไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว