สันต์ สะตอแมน
#ถูกกลั่นแกล้งไม่จบ!
ใช่เหรอวิ..แล้วใครกันล่ะที่ตามกลั่นแกล้งไม่จบ-ไม่สิ้น คงไม่ใช่คุณถวิล เปลี่ยนศรี หรอกนะ เพราะเห็นท่านพูดกับสำนักข่าวต่างประเทศไปตั้งแต่ปลายปีก่อน..
“หลัง ๆ ผมไม่ได้สนใจอะไร เพราะเรื่องมันนานมาแล้ว ผ่านมาเป็น 10 ปีแล้ว ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นคุณยิ่งลักษณ์ก็ต้องรับผลจากสิ่งที่กระทำ..
ผมแค่ตั้งใจจะต่อสู้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเห็นว่าเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของข้าราชการต้องได้รับการยอมรับ
ได้รับการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ตามหลักคุณธรรมที่เรายึดถือมาตลอด
ซึ่งผมก็คิดว่าได้รับสิ่งนั้นแล้วจากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด และแต่ละคนก็ได้รับบทเรียนตรงนี้ไปพอสมควร”
ฉะนั้น..ที่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทวิตข้อความ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพวก
ใช้อำนาจโอนนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ในขณะนั้นให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบเมื่อช่วงเดือน ก.ย.54 ว่า..
“จากข่าวการออกหมายจับดิฉันจากการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี มีประเทศไทยประเทศเดียว ที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ย้ายข้าราชการคนเดียว แล้วถูกดำเนินคดี #ถูกกลั่นแกล้งไม่จบ”
ก็..เห็นจะหมายถึง “กระบวนการยุติธรรม” เท่านั้นที่กลั่นแกล้งเธอไม่จบ ซึ่งก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่จะคิด-มองไปได้ตามประสาคนที่ไม่เคยมองเห็นความผิดของตัวเอง
ส่วนผมอ่านแล้วก็ไม่ได้จะนึกสมเพช-สมน้ำหน้าอะไรหรอก เพียงจะบอกคุณยิ่งลักษณ์..การได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้!
แล้วทีตอนคุณยิ่งลักษณ์กับพวกได้รวมหัวกันใช้อำนาจสั่งย้ายคุณถวิลโดยไม่ได้มีความบกพร่องหรือความผิดต่อหน้าที่ ทำไมไม่รู้สึกบ้างล่ะว่า..ไป “กลั่นแกล้ง” ผู้อื่นให้เสียหาย?
นี่..ลองนั่งคนเดียวเงียบๆแล้วค่อยๆ ย้อนทบทวนความหลัง ตอนเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ได้คิด-ได้ทำอะไรจากสมองของตัวเองบ้าง?
กระทั่ง “ย้ายข้าราชการคนเดียว” ใครเขาก็ไม่เชื่อเป็นความคิดของคุณยิ่งลักษณ์ แต่เขาเชื่อหนักแน่นว่า พี่ชายตัวดีนั่นแหละเป็นคนชี้นิ้วสั่งการ โดยไม่คิดจะห่วงว่าน้องจะซวยพลอยรับกรรม!
อย่างกรรมที่กำลังไล่ล่าอยู่ในขณะนี้ “คดีข้าวจีทูเจี๊ยะภาคสอง” ก็เช่นกัน คนเขาก็รู้ “ทักษิณริ ยิ่งลักษณ์ยำ” แต่มีประเทศไทยประเทศเดียวกระมัง..
ที่ปล่อยให้นักโทษหนีคดีด่ารัฐบาล-ปลุกปั่นยุงยงคนในชาติอยู่ได้อย่างเสรี..กรูล่ะงง!
ส่วนนี่ไม่ต้องงง.. สรุปก็คือ หลังมีการพิจารณาตามหนังสือที่ทางสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอลยื่นขอให้ทบทวนการจับฉลากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ด้วยมองว่าไม่เป็นธรรม..
ทางกสทช.ก็ได้ขอความร่วมมือจากทรู ให้คืนโควต้าถ่ายทอดสดรอบสุดท้าย 16 นัดกลับไปให้กกท.นำไปจัดสรรให้กับทีวีดิจิทัลถ่ายทอดสดแบบคู่ขนานเป็นที่เรียบร้อย
เอ้า..ปรบมือให้กสทช.และกกท.หน่อย เหนื่อยกับการหาเงิน1,400 ล้านบาทจ่ายค่าลิขสิทธิ์แล้ว ยังต้องมายุ่งยากลำบากใจกับการจัดสรรเวลาการถ่ายทอดให้เป็นที่พอใจของทุกช่องอีก..
เฮ้อ..สมประโยชน์ทุกฝ่าย..จบ!