“อุ๊งอิ๊ง” เสาหลักเพื่อไทย – ผักกาดหอม

www.plewseengern.com

ผักกาดหอม

ปฏิเสธกันวุ่น…

ดีลลับดูไบ ดูดก๊วนธรรมนัส ไปเพิ่มพลังแลนด์สไลด์ให้เพื่อไทย

ข่าวนี้มีรายละเอียดเยอะพอควรครับ

เรื่องที่ “ธรรมนัส” สนิทสนมกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ยินมานานแล้ว อันนี้คอนเฟิร์ม

ต่อสายไปทาง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. น้องชาย “ลุงป้อม” ก็ได้ยินมาพักหนึ่งแล้ว

กลุ่มนี้มีคอนเนกชั่น โยงใยกว้างขวางมากทีเดียว ถึงได้มีกระแสข่าวก่อนนี้ว่า เพื่อไทย พลังประชารัฐ มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน

แต่นั่นเป็นการวิเคราะห์ครับ ของจริงยังมีปัจจัยอื่นอีกมาก

ผลีผลามร่วมหัวจมท้ายได้เสียคนกันถ้วนหน้า

กระนั้นก็ตาม อย่างที่รู้กันการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร การย้ายข้างสลับขั้ว จึงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

เมื่อพรรคเพื่อไทยตั้งโจทย์ ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ให้ได้ วิธีการที่จะนำไปสู่แลนด์สไลด์จึงต้องชัดเจน และต้องลงมือในทันที

มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้วิธีดูดส.ส.จากพรรคอื่น เหมือนที่พรรคไทยรักไทยเคยทำสำเร็จในอดีต

เพียงแต่คราวนี้ปัจจัยต่างจากเดิมมาก ไม่มีพรรคการเมืองให้ควบรวมมากนัก การดูดส.ส.ก็ยากกว่าเดิม ซ้ำร้าย เพื่อไทยยังถูกดูดโดยพรรคภูมิใจไทย

ขณะที่พรรคขนาดกลาง สามารถยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ต้องรวมกับใคร

ย้อนกลับไปก่อนการเลือกตั้งปี ๒๕๔๘ พรรคไทยรักไทย โดยทักษิณ ใช้อำนาจและแต้มต่อทางการเมือง บีบให้พรรคขนาดกลาง รวมกับไทยรักไทย

พรรคความหวังใหม่

พรรคชาติพัฒนา

พรรคกิจสังคม

พรรคเสรีธรรม

และพรรคเอกภาพ

พรรคการเมืองเหล่านี้ต้องกลืนเลือด ต้องย้ายพรรคเพื่อให้พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์

สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง “ทักษิณ” ไม่มีอำนาจ และเงื่อนไขไปบีบให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ไปรวมกับพรรคเพื่อไทยได้

จึงเล็งเป้าไปที่พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีส.ส.อยู่ ๑๔ คน

แต่เมื่อ “ชลน่าน ศรีแก้ว” ออกมาปฏิเสธว่า ข่าวดีลจากดูไบ เป็นการประสงค์ร้าย ก็ดีแล้วครับ ไม่งั้นพรรคเพื่อไทยคงต้องตอบคำถามเยอะหน่อย

เพราะการรับ “ธรรมนัส” เข้าเพื่อไทย ภาพในอดีตมันจะย้อนกลับมา โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ธรรมนัส” เรื่อง ยาเสพติดที่ออสเตรเลีย

แต่ก็นั่นแหละครับการที่ “หมอชลน่าน” แบ่งรับแบ่งสู้ไม่ถึงกับปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง มันทำให้ข่าวดีลดูไบมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้างเหมือนกัน

“โอกาสที่กลุ่มร้อยเอกธรรมนัสจะเข้ามาพรรคเพื่อไทยนั้น ผมขอไม่แสดงความเห็น แต่ละพรรคมีแนวทางของตัวเอง พยายามแสวงหาโอกาสได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ส่วนจะเลือกทางใดแล้วแต่แนวทางพรรค

แต่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของประชาชน ต้องฟังความเห็นประชาชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะเป็นการโยนหินถามทางหรือไม่นั้น ไม่ทราบและไม่แน่ใจ”

“พรรคเพื่อไทยเป็นของประชาชน ต้องฟังทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะคนที่เห็นด้วยหรือต่อต้าน ต้องดูอะไรจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดในจะยึดเป็นหลัก”

ครับ…นี่คือการเมือง

พรรคเพื่อไทยเป็นของประชาชนจริงหรือไม่?

ในข้อเท็จจริงมีประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยจริง และจำนวนมากด้วย โดยเฉพาะในภาคอีสาน และภาคเหนือ

แต่ประเด็นใครเป็นเจ้าของ อาจจะเป็นคนละเรื่องกัน

เอาง่ายๆ ครับ ช่วยอธิบายที่มาตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทำไมต้องเป็น อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร

มีกระบวนการเลือกกันอย่างไร

ประชาชนมีส่วนในขั้นตอนไหน?

เท่าที่ฟังคำอธิบายในวันเปิดตัวครอบครัวเพื่อไทย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เริ่มต้นที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อ้างว่าเป็นผู้ทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้

ได้เรียนรู้ประชาธิปไตยกินได้

ตบท้ายด้วยการประกาศว่า

“เรามีความภาคภูมิใจที่จะประกาศว่า ผู้นำครอบครัวเพื่อไทยเป็นสายเลือด มีดีเอ็นเอของคนที่มีเจตนาจะสร้างบ้านสร้างเมืองนี้ในนามของไทยรักไทย หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยของเรา คือ คุณแพทองธาร ชินวัตร”

ก็ห้วนๆ แบบนั้น

จริงอยู่กับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่ใช่ตำแหน่งในพรรคการเมือง ฉะนั้นไม่ต้องให้กรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรคเป็นผู้เลือก

แต่ในเมื่อพรรคเพื่อไทยบอกว่าเป็นพรรคของประชาชน แล้วจะตอบคำถามได้อย่างไรว่า หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ใหญ่กว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นสะพานทอดไปยังตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และมีโอกาศเป็นนายกรัฐมนตรี มากกว่าหัวหน้าพรรคนั้น ประชาชนมีส่วนร่วมในขั้นตอนไหน

“อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ลำดับ๑ ของพรรคเพื่อไทย เหนือ “ชลน่าน” แน่นอน

อีกอย่างการเป็นผู้นำโดยสายเลือด ไม่ต่างจากการสืบทอดอำนาจในเกาหลีเหนือ จึงไม่เฉียดอะไรกับพรรคของประชาชนเลย

ยอมรับความจริงเสียเถอะครับว่า พรรคเพื่อไทยเป็นของตระกูลชินวัตร

ฉะนั้นทิศทางพรรคอยู่ที่นายใหญ่สั่ง ไม่ใช่ประชาชน

ดีลลับดูไบ จึงมีโอกาสสูงมากทีเดียว เพราะทั้งหมดขึ้นกับ “นายใหญ่” ไม่ใช่ “ชลน่าน” ที่มีสถานะเป็นเพียงหุ้นเชิด

วานนี้ (๙ ตุลาคม) พรรคเพื่อไทยเปิดตัวนโยบายเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อรายได้ใหม่ของประชาชน”

ประกาศ ๓ เสาหลักสู่ชีวิตใหม่ประชาชน

๑.ผู้แทนราษฎรเข้าถึงพื้นที่ เข้าใจประชาชน

๒.นโยบายตอบโจทย์การแก้ปัญหา ทำได้จริงตามที่สัญญาไว้

๓.ผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี มีศักยภาพ ความสามารถ สามารถฝากความหวังนำประเทศพ้นวิกฤต

ข้อ ๓ น่าจะท้าทายที่สุด

“อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นผู้นำประเทศพ้นวิกฤต น่าจะกลายเป็นประเด็นร้อนหลังจากนี้ เพราะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่า “อุ๊งอิ๊ง” มีประสบการณ์การทำงานอะไรที่บ่งชี้ให้เห็นว่า จะนำพาประเทศไทยพ้นวิกฤตได้บ้าง

ไม่ว่าประสบการณ์ตอนเรียนจุฬาฯ

รวมถึงประสบการณ์บริหารบริษัทของครอบครัว

ช่างน่าติดตามจริงๆ

แต่ก็น่ายินดีครับพรรคเพื่อไทยไม่พูดถึงนโยบายจำนำข้าวสักคำ


Written By
More from pp
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 29 สิงหาคม 2563
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 5 ราย
Read More
0 replies on ““อุ๊งอิ๊ง” เสาหลักเพื่อไทย – ผักกาดหอม”