สันต์ สะตอแมน
แหม..เอากันใหญ่เลยนะ?
ผมหมายถึงบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งที่เพิ่งตั้งไข่ ทั้งที่ตั้งมาหลายปีแล้ว ที่แห่กันลงไปเปิดตัว-ทำกิจกรรมในพื้นที่ภาคใต้ห้วงนี้น่ะ!
ได้ยินทุกพรรคคุยอย่างมั่นใจ “จะกวาดที่นั่งส.ส.ปักษ์ใต้” บ้าง จะต้องได้ส.ส.เขตเท่านั้น-เท่านี้บ้าง..
พูดแบบไม่เห็นหัว-ไม่ให้ราคาพรรคประชาธิปัตย์-เจ้าถิ่นกันเลยเนาะ?
ซึ่งที่เป็นเช่นนี้ ก็ด้วยแต่ละพรรคคงมองเห็นตรงกันว่าประชาธิปัตย์ยามนี้ อ่อนแอ ขาดเสถียรภาพ ขาดความสามัคคี-แตกแยกกันภายใน..
จึงได้ถือโอกาสเหมือนกับที่ทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาแตกหนสองเมื่อครั้งกระโน้นอย่างไง-อย่างงั้น!
แต่..ก็อย่าได้มั่นใจ-ย่ามใจเกินไปนัก เพราะ “ประชาธิปัตย์” กับ “คนใต้” นั้น ถึงจะอย่างไรเสีย ความผูกพันก็ยังมีอยู่ ยิ่งได้รู้-ได้เห็นประชาธิปัตย์ถูกรุม-ถูกตีกระหนาบจากทุกทิศ..
จากที่รู้สึกเบื่อหน่าย-รำคาญ (กับความไม่เอาไหน) อาจเปลี่ยนใจด้วยสงสาร ยอมเลือก “เสาไฟฟ้า” อีกสักครั้ง ถือว่าช่วย “นายหัวชวน” ก็เป็นได้!
เออ..ส่วนนั่นไม่มีใครสงสาร มีแต่สมน้ำหน้า และขอชื่นชมคุณท็อป-ศราวุธ พลอยประดับ ที่กำราบ-ปราบกลุ่มวัยรุ่นตีกันหน้าเวทีคอนเสิร์ต “คาราบาว” เสียอยู่หมัด
“เราเตือนแล้ว ก่อการวิวาท ปรับค่าเสียหายการจัดงาน 5 ล้าน หารเท่าๆ กันเนอะ มีหลักฐาน กล้อง CCTV 8 ตัว ทุกมุม ไม่มีจ่าย พ่อแม่เดือดร้อน ขายที่ ขายบ้านไปกู้มาจ่าย..”
นี่..คุณท็อปไม่ได้ขู่เล่นๆ แต่เอาจริง พร้อมชี้แจงให้เข้าใจถึงเหตุผลว่า.. -งานแต่ละงานผู้จัดลงทุนงานละ 5 ล้านอย่างน้อย ทั้งเรื่องสถานที่ ขออนุญาต ค่าตัวศิลปินระดับเกรดA
ค่าโปรดักชั่น เวที แสงเสียง แบบคอนเสิร์ตมาตรฐาน จำนวน 9 คืน ค่าเจ้าหน้าที่คืนละ 60 นาย เพื่อความปลอดภัย 100%
ทุกโซนแบ่งแยกชัดเจนเรื่อง โซนดื่มได้ และโซนไม่ดื่ม แบ่งกำลังเต็มที่ ทำให้ระงับเหตุได้อย่างเร็วภายใน 30 วินาที
-ความเชื่อมั่นของคนที่จะเข้าชมในคืนต่อๆไป ทำให้เสียโอกาสในทางธุรกิจ
-คนที่เข้าตีกัน ตั้งใจเข้าก่อวิวาทชัดเจน ดูจากกล้องCCTV โดยไม่ใช่คนที่เข้ามาชมคอนเสิร์ตแล้วกระทบกระทั่งกัน ดังนั้น เมื่อคุณตั้งใจใช้พื้นที่งานของเรา มาเป็นสนามตีกัน เข้ามาปุ๊บ ตีกันเลย เจตนาชัดเจน
-ความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ล้อมวงมันส์ที่ผมสร้างมา มันพังทลายด้วยพวกคุณ ลูกค้าขอระงับ การสนับสนุนในงานต่อไป
จะฟ้องได้จริงไหม ก็อ่านที่คุณโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง โพสต์ดูล่ะกัน..
“ข่าววัยรุ่น 30 คน ตีกันกลางงานคอนเสิร์ต ผู้จัดฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน หารเท่าๆ กัน เป็นกรณีศึกษาที่ควรจะเรียนรู้กันไม่จบ และไม่ควรลืมเหตุเกิดที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตีกันเมื่อไหร่
กฎหมายเอาผิดทางอาญาคือทำร้ายผู้อื่น ตาย สาหัส บาดเจ็บ โทษจำคุกสูงต่ำตามลำดับความร้ายแรง… ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ได้รับความเสียหาย จึงมีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง
ฟ้องในทางละเมิด ทรัพย์สินเสียหาย งานคอนเสิร์ตเสียหาย ลงทุนเท่าไหร่ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้เป็นสิทธิตามกฏหมาย ประกาศเรียกค่าเสียหาย..ห้าล้านบาท
ยื่นฟ้องแล้วก็จะต้องสืบพยานตามกฎหมาย ให้ศาลเห็นว่าเสียหายจริง แล้วถ้าหากนำสืบได้ว่าค่าเสียหายถึงห้าล้านบาทจริง ศาลก็จะพิจารณาตัดสินให้ความยุติธรรม…
ตีกัน เมาอาละวาด วัยรุ่นคึกคะนอง จึงมีความรับผิดต้องรับโทษทางอาญา ติดคุกไม่พอ ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งชดใช้ความเสียหาย ที่เกิดขึ้นตามจริง
โดนยึดบ้าน ยึดสวน ยึดไร่ยึดนา ยึดเงินในบัญชีเงินฝาก มาใช้หนี้ตามคำพิพากษากันนะครับหากผู้เสียหายเอาจริงไม่มีปัญญาใช้หนี้อาจโดนคดีล้มละลายตามมาได้อีก…!”
ครับ..ค่าเสียหาย 5 ล้าน หาร 30 คน จ่ายคนละ 160,000 บาท..
ถ้าไม่เข็ดหลาบ ให้มันรู้ไป!
