ฝึก “ความเพียรทางใจ” – สันต์ สะตอแมน

www.plewseengern.com

สันต์ สะตอแมน

จะถึง 70 ล้านบาทไหม?

วันที่ 31 ตุลา.นี้ก็น่าจะได้รู้ เพราะเป็นวันสุดท้ายการเปิดรับบริจาคในกิจกรรม “หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ที่ผ่านมา ของคุณโตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม

ซึ่งตอนนี้ นัยว่ายอดเงินบริจาคทะลุไปถึง 68 ล้านแล้ว ก็เป็นที่น่าชื่นใจ-ยินดี กับสองโรงพยาบาลฝั่งลาว-ฝั่งไทย (ริมโขง) จะได้มีอุปกรณ์เครื่องไม้-เครื่องมือที่ทันสมัยในการรักษาคนไข้

และจากเสียงพูดก็ดี จากข้อความก็ดีที่ได้แสดงความยินดี ชื่นชมคุณโตโน่ ผมให้รู้สึกประทับใจกับข้อความที่ พันเอก (พิเศษ) วันชนะ สวัสดี..

ก็.. ผู้ที่เคยรับบท “องค์ดำ” ในภาพยนตร์เรื่อง “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”นั่นแหละ ได้โพสต์เมื่อวันก่อน!

จึงใคร่ขออนุญาตนำมาให้ผู้อ่าน ที่บางท่านอาจจะยังไม่ได้ผ่านตาได้พิจารณาดู ตามนี้..

“บทสรุปโตโน่ในความคิดผม เมื่อเห็นโครงการ หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ที่โตโน่ น้องที่ได้ร่วมงานกันในวงการบันเทิง ทำให้ผมนึกถึง พระมหาชนก ที่ในหลวง ร.๙ พระราชนิพนธ์ไว้

ด้วยทรงสนพระราชหฤทัย จึงทรงค้นเรื่องพระมหาชนกในพระไตรปิฎกและทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษตรงจากมหาชนกชาดกตั้งแต่ต้นเรื่อง

โดยทรงดัดแปลงเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังทรงแปลเป็นภาษาสันสกฤตประกอบอีกภาษา

พระมหาชนก บอกเล่าถึงความเพียร พยายาม เหมือนดังที่โตโน่ได้แสดงให้เห็น

แต่ในครั้งนี้ที่สำคัญกว่าความเพียรที่แสดงออกทางกายนั้นก็คือ ความเพียรทางใจ ที่โตโน่ต้องเจอกับเรื่องราวมากมายที่บั่นทอนจิตใจ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าน้องผ่านมันมาได้แล้ว

บทพิสูจน์นี้สอนเราทุกคนได้ดีในความเพียรทางใจที่ทุกวันนี้ทุกคนต้องเจอกับบทพิสูจน์นี้ด้วย

เพราะสังคมที่เป็นแบบปัจจุบัน ที่เมื่อเห็นใครทำอะไรไม่ถูกใจก็จะวิพากษ์วิจารณ์กันจนเสียหายทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองเลย

การทำกุศลกรรมของน้องในวันนี้ก็มีคนวิจารณ์ในทางลบมากอยู่ จะว่าไปเขาเหล่านั้นวิจารณ์ด้วยความอิจฉาริษยา นั้นก็อาจจะไม่ถูกนัก

เพราะการอิจฉาริษยานั้นคือเห็นคนอื่นทำได้ดีกว่าที่ตนทำ แต่เขาเหล่านั้นไม่เคยทำกุศลกรรมเลยจึงว่าเขาอิจฉาก็ไม่ได้ อาจจะเข้าข่ายมือไม่พายเอาเท้าราน้ำซะมากกว่า

การพิสูจน์ของน้องครั้งนี้ยังจะเป็นแบบอย่างในการทำความดี แบบอย่างในการเอาชนะคำนินทาด้วยความเพียรดั่งพระมหาชนก

จึงขออัญเชิญพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่องการทำความดี ความว่า

“การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์ จึงทำได้ยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ

เพราะหาไม่ ความชั่ว ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว”

ขอเป็นกำลังใจให้โตโน่และทีมงานทุกคน รวมทั้งคนอื่นๆ ให้มีความมุ่งมั่นในการทำความดีอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคนานัปการ ดั่งพระมหาชนก โตโน่ นายแน่มากจริงๆ”

ครับ..มองสังคมวันนี้ เห็นจะต้องหมั่นฝึกฝน “ความเพียรทางใจ” กันแบบเอาจริง-เอาจังเสียแล้วล่ะ ไม่เช่นนั้นชีวิตจะหาความสุขสงบไม่ได้เลย

เพลาได้เพลา วางได้วางกันลงเสียบ้างกับเรื่องของคนอื่น อย่าได้ไปเสียอารมณ์ หรือทำให้อารมณ์ต้องขุ่นมัวไปกับชีวิตคนอื่นให้มากนัก!

นี่..ผมพูดกับท่านได้ แต่ตัวเองด้วยอาชีพที่ทำอยู่ ก็เห็นจะยังคงวนลูปกับเรื่องของคนอื่นอยู่ต่อไปไม่เว้นวัน

ว่าแล้ว ก็ขอถามนักการเมือง-ส.ส.ผู้ทรงเกียรติบางพรรค ทั้งที่เคยติดตาม-วิ่งเต้น ทั้งที่ใช้ตำแหน่งยื่นประกัน

เวลานี้อดีตสองแกนนำ “ทะลุวัง” ได้หนีคดี 112 ออกนอกประเทศไปแล้ว..

จะว่าพันพรือ(อย่างไร)..หือ?


Written By
More from pp
รัฐบาลตั้งเป้าปี 66 ส่งเสริมคนพิการมีงานทำ 68,000 คน มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทุกมิติ
10 กรกฎาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลสำเร็จการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกมิติของรัฐบาล
Read More
0 replies on “ฝึก “ความเพียรทางใจ” – สันต์ สะตอแมน”