ผบช.ภ.3 แถลงผลงานตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ชุดปราบปรามยาเสพติด จ.บุรีรัมย์ ที่ขยายผลจับนักค้ายาบ้าในพื้นที่ ซึ่งได้ติดต่อซื้อยาบ้าจากชาวลาว และเพิ่งรับเอายาบ้ามา แต่กลับได้ของไม่ครบตามจำนวน เสพแล้วมีรสชาติขม ไม่ดีดเหมือนยาบ้าตัวอื่น ซ้อนแผนให้โทรติดต่อทีมขนยาบ้า ให้มาเก็บเอาไปคืน หลงกลถูกรวบยกทีม พร้อมยาบ้าอีกกว่า 1.2 แสนเม็ด พร้อมตามจับลูกค้าได้อีก 2 ราย
10 มิถุนายน 2565 – ที่หอประชุมชัยจินดา ภ.จว.บุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์
แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ตามยุทธการพิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้ ซึ่งเป็นผลงานตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้บูรณาการกำลังร่วมกับ ตำรวจ บก1.กก.สส.ภ.3 , ชปส.ร้อย ตชด.215, 216, สภ.ลำปลายมาศ, สภ.เมืองบุรีรัมย์, สภ.บ้านด่าน, เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.กรมน.,
เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.( มว.ขกส.2, ขกท.กกล.สุรนารี),ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านด่าน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายนักค้าชาวลาว ได้ผู้ต้องหา 6 คน ของกลางยาบ้าประมาณ 129,473 เม็ด พร้อมตรวจยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติดเป็นกรณีเร่งด่วน
ประกอบด้วย รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน รวมมูลค่าประมาณ 550,000 บาท และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ, สภ.เมืองบุรีรัมย์ และ สภ.บ้านด่าน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม นายวีรนันท์ หรือต๊อด ซึมรัมย์ อายุ 25 ปี ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับในคดียาเสพติด ได้ที่บ้านพักใน ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 1,767 เม็ด
ซึ่งจากการสอบถามทราบว่านายวีรนันท์ ได้ติดต่อซื้อขายยาบ้ากับชาวลาวจำนวน 1 มัดหรือประมาณ 2,000 เม็ด แต่พอไปเก็บเอามากลับพบว่ามียาบ้า จำนวน 9 ถุง หรือประมาณ 1,800 เม็ด จึงได้แบ่งมาเสพไปบางส่วนก่อนจะถูกจับกุม และในขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ
โดยนายวีรนันท์บอกว่าได้ยาบ้าที่สั่งซื้อมาไม่ครบตามจำนวน อีกทั้งได้นำยาบ้ามาลองเสพก็ไม่ดีดเหมือนยาบ้าที่เคยเสพ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายวีรนันท์ โทรศัพท์ไปบอกให้คนที่เอายาบ้ามาวางไว้ให้ ว่าได้รับยาบ้ามาไม่ครบตามจำนวนที่สั่งซื้อ และเสพแล้วมีรสชาติขม จึงได้นัดหมายกันว่าจะนำยาบ้าชุดนี้มาส่งให้คืนในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
เมื่อถึงเวลานัดหมายได้มี น.ส.อารีรัตน์ แสงขาว ชาว จ.เลย , นายอาทิตย์ พานกระดึง ชาว จ.สระแก้ว และนายชานนท์ พานกระดึง ชาว จ.เลย ขับรถยนต์เก๋งเข้ามาเก็บเอายาบ้าจำนวนดังกล่าวคืน และถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนดังกล่าว ซึ่งทั้ง 3 คน ให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนเป็นทีมขนลำเลียงยาบ้า มาส่งมอบให้กับลูกค้าตามจุดต่างๆตามออเดอร์ของชาวลาว
เมื่อนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าครบตามจำนวนแล้ว จึงได้เปิดห้องนอนพักผ่อน ต่อมาได้มีลูกค้าโทรมาบอกว่าได้รับยาบ้าไม่ตรงตามจำนวน และตัวยามีรสขมเสพแล้วไม่ดีด จึงจะนำมาส่งให้คืน รวมทั้งชาวลาวได้บอกให้ไปเก็บเอายาบ้าคืนเพราะกลัวจะเสียลูกค้า จึงไปตามเก็บเอาคืนมาและถูกจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ ขณะควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้ง 3 ติดต่อลูกค้าที่รับเอายาบ้าไปแล้วให้เอายาบ้ามาส่งให้คืน โดยบอกว่า ตัวยาชุดนี้มีรสขมลูกค้าไม่ค่อยชอบ เจ้าของชาวลาวได้สั่งให้เก็บมาคืน และสามารถจับกุมได้อีก 2 ราย คือนายมงคล ชมชัย อายุ 28 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ได้ในพื้นที่ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พร้อมยาบ้า 1,936 เม็ด และอีกรายจับกุม น.ส.ปนิดา ภูมีสูน อายุ 21 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ได้ในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 1,770 เม็ด
พร้อมกันนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังให้การยอมรับสารภาพอีกว่า ยังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งที่พวกตน ได้ขนมาในชุดนี้ และนำไปซ่อนเก็บไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อรอคำสั่งจากชาวลาวให้นำไปส่งมอบให้กับลูกค้า และสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจตรวจยึดเอายาบ้าจำนวนดังกล่าว
โดยจุดแรกซุกซ่อนไว้บริเวณพุ่มไม้ริมถนนบ้านโกรกขี้หนู ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ พบยาบ้าจำนวน 17 มัด หรือประมาณ 34,000 เม็ด และอีกจุดซุกซ่อนอยู่พุ่มไม้ริมถนนบ้านโคกเพชร ต.กลันทา อ.เมืองบุรีรัมย์ พบยาบ้าจำนวน 45 มัด หรือประมาณ 90,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าที่ตรวจยึดประมาณ 124,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึดและนำตัวทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ยาบ้ามีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก และมีราคาจำหน่ายถูกลงกว่าเดิมมาก จากราคาต่อเม็ดหลายร้อยบาทเหลือเพียงไม่กี่สิบบาท ซึ่งเมื่อก่อนผู้ค้าในพื้นที่จะต้องนำเงินไปวางดาวน์มาก่อนจะสั่งซื้อ แต่ทุกวันนี้ให้เอายาบ้ามาทดลองขายก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง จึงทำให้มีการลักลอบขนลำเลียงยาบ้าเข้ามาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งมองว่าอัตราการแพร่ระบาดสามารถเข้ามาได้ง่าย ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานด้านความมั่นคงจะคุมเข้มแล้วก็ตาม รวมถึงทางตำรวจได้มีการีจัดโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อป้องกันเฝ้าระวังในพื้นที่ ทั้งนี้ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด จ.บุรีรัมย์ ทุกหน่วยงานที่ได้บูรณาการทำงานร่วมกัน จนสามารถทำลายเครือข่ายผู้ค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยได้แล้วหลายราย
ที่มา https://www.thaipost.net/district-news/159053/
