สันต์ สะตอแมน
๔ ปีนับจากนี้..
ชาวกรุง-เมืองฟ้าอมรเห็นจะได้ดู-ได้ชม “เรียลลิตี้” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กันอย่างอิ่มอก-เบิกบานอุรา
เริ่มจากเช้าตีห้า ออกจากบ้านไปวิ่งสวนลุมพินี ก่อนจะปั่นจักรยานเข้าทำงานที่ศาลาว่าการกรุงเทพฯ พักเที่ยงก็ได้ดูมาดนั่งกินอาหารริมทาง และอะไรต่อมิอะไรมากมายไปยันเข้านอน
เสาร์-อาทิตย์ ก็จะได้ดู-ได้เห็นการทำงาน เพราะผู้ว่าฯได้ประกาศแล้วว่า “ไม่มีวันหยุด” ฉะนั้น ทุกอิริยบถ ทุกความเคลื่อนไหว..
จะมีกล้องคอยจับภาพนำมาแพร่ทางโซเชียล ทางสื่อทีวี-สื่อหลัก อาจจะไม่ถึงกับทุกชั่วโมง แต่ทุกวันแน่!
อย่างวานซืน ก็ไปขยับขา โยกย้าย ส่ายบั้นเอว อยู่ในงาน “ดนตรีในสวน” ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และเช้ารุ่งก็ไปนั่งพายเรือคายัค (โชว์) เก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา
นี่..นับเป็น “ผู้ว่าฯ” คนแรกกระมัง ที่มีข่าว-ภาพให้ประชาชนได้เฝ้าตามดูตลอดวัน..อย่างงี้อย่าว่าแต่ ๒๑๔ นโยบายเลย ต่อให้ ๕๐๐-๑,๐๐๐ นโยบาย..
รวมทั้งขุดลอกคลองอีก ๑,๙๘๐ คลอง ก็จะสำเร็จ-เสร็จทันในวาระเทอม ๔ ปีเป็นแน่..ไม่ได้ตลก เรื่องจริง!
อย่างไรก็ตาม อยากให้คนใกล้ตัวได้ช่วยสะกิดให้ท่านผู้ว่าฯ ได้อ่านที่ “ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์” นักวิชาการอิสระ โพสต์..
“เราจะอยู่ในโลกของการปั่นกระแสจนเกินจริง และ อุปทานหมู่ทางการเมืองแบบนี้จริงหรือ?
วันนี้เห็นมีงานดนตรีในสวน ที่จัดที่สวนรถไฟ อ.ชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.ป้ายแดง แกก็ไปร่วมงานตามหน้าที่ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรใช่ไหมครับ
แต่สื่อต่างๆ พากันรุมประโคมข่าว เพจฟตุบาททั้งหลาย ก็ออกมาเชิดชู บอกว่าวันนี้กรุงเทพเหมือนกลายเป็น “โลกที่ ๑” แล้ว รู้สึกมีความหวังสุดๆ พร้อมด้วยคนนับพันที่เข้าไปคอมเมนต์ว่า
กรุงเทพเปลี่ยนไปแล้ว แซะให้รัฐบาลหรือผู้ว่าคนก่อนมาดูซะว่าชัชชาติมาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็จัดดนตรีในสวน ที่ทำให้ดูศิวิไลซ์เหมือนประเทศโลกที่ ๑ ได้แล้ว
โดยคนเหล่านี้ไม่ได้รู้เลยว่า งานพวกนี้เขามีจัดมาตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยสุขุมพันธ์ และอัศวินเป็นผู้ว่า ก็มีจัดงานแบบนี้ไม่รู้กี่รอบแล้ว งานใหญ่กว่านี้ มีคนมาเยอะกว่านี้
แต่แค่สื่อและเพจเหล่านั้นทำเหมือนมันไม่มี และไม่เคยนำเสนอก็เท่านั้นเอง
หมายเหตุ : ปรากฎการณ์เหล่านี้ คือ การ PR ที่เกินจริงหรือเรียกว่า “Over PR” สุดท้ายวันหนึ่งมันจะเป็นกระแสตีกลับไปที่ตัวคนที่ถูก PR แทน
และตัว อ.ชัชชาติเองที่จะดูไม่ดีมากขึ้นในอนาคต ก็เพราะสื่อ เพจ และติ่งเหล่านี้ ที่ทำแบบนี้นั่นแหละครับ”
เอ้า..แล้วนี่ผมก็ขออนุญาต PR บ้าง เฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พระเอกแบกศพโพสต์.. “ในที่สุดก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้..
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของพี่ตุ้ย สุริยา ชินพันธ์ ด้วย 69 ปี รายละเอียดรอภรรยาพี่ตุ้ยแจ้งให้ทราบอีกที่ครับ”
ครับ..ไม่อยากนึกย้อนถอย แต่ตั้งแต่ต้นปี ๖๕ มา ยมบาล (เจ้าขา) ได้มาเอาคนในวงการบันเทิงไปนับสิบ-ยี่สิบชีวิตเข้าไปแล้ว
คุณสุริยา ชินพันธ์ แม้จะไม่ใช่วิญญาณดวงสุดท้าย แต่หวังว่า ยมบาลจะได้ให้เวลา ทอดระยะ เพื่อคนบันเทิงไม่ต้องทุกข์ โศกเศร้า..
ยาวๆ ข้ามปีไปนู่นเลย..เจ้าขา!