ยกทัพ ผู้สมัคร ส.ก. พปชร. “พลังกรุงเทพพลังประชารัฐ” ชูนโยบายเด่นแก้ปัญหาประชาชนเชิญชวนคนกรุงเลือกเข้าทำงาน “คานอำนาจผู้ว่ากทม.” เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวหวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังซบเซาจากโควิด-19 คาดรายได้พุ่งสูง ยันรัฐบาลและพปชร.ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ที่ลานคนเมือง เขตพระนคร กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. จัดเวทีปราศรัยใหญ่ “พลังกรุงเทพพลังประชารัฐ” ผู้สมัคร ส.ก. 50เขต50คน โดยมีการสลับกันขึ้นปราศรัยแนะนำตัวและนำเสนอนโยบายต่างๆยืนยันพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบผู้ว่ากทม.คนต่อไปไม่ว่าจะเป็นใคร อย่างเป็นอิสระไม่ขึ้นกับใคร โดยเน้น 10 เรื่อง อาทิ เศรษฐกิจสังคม/การจราจรและปัญหาน้ำท่วม/สาธารณสุขและการท่องเที่ยว
โดย นายธวัชชัย ปิยนนทยา โฆษกศูนย์เลือกตั้งส.ก. พปชร. ได้กล่าวปราศรัยว่า พปชร.ได้ส่ง ส.ก เพื่อเข้าไปตรวจสอบผู้ว่ากทม.เพราะมีปัญหาการทุจริตเยอะ อีกทั้งยังไม่มีพรรคไหนชูนโยบายตรวจสอบผู้ว่า ซึ่งตนเองเป็นอดีตส.ก.มาถึง 5 สมัยเข้าใจบทบาทดี เพราะบางทีต้องกล้ำกลืนกับระบบที่ไม่มีส.ก. จากการเลือกตั้งทำให้ไม่มีการตรวจสอบ ซึ่งยืนยันว่าศาลาว่าการกทม.มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คนข้างเยอะจึงทำให้คนที่ประบัติสัตว์อยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานซึ่งหากเลือก ส.ก. พปชร.เข้าไปยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างกับประชาชน และที่สำคัญพ่อค้ากับคนเดินทางเท้าต้องเดินด้วยกันได้ด้วยเช่นกัน
ด้าน นายมินทร์ ลักษิตานนท์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตจอมทอง เบอร์ 5 ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวว่าตนเองและทีมงานได้ทำงานให้ชาวจอมทองมากว่า 5 ปีและไม่เคยเพิกเฉยต่อปัญหาคนในพื้นที่แม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งผ่านมากว่า10ปีจอมทองยังอยู่ที่เดิมเพราะการถือครองอำนาจทางการเมืองการมาของตนเองถือเป็นการเริ่มต้นใหม่และได้ปราศรัยเรื่องการท่องเที่ยวเพราะตนเองมีประสบการทำอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากว่า10ปี
ซึ่งประเทศไทยพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวมาโดยตลอด และ ก่อนปี2562ก่อนโควิด-19 สามารถสร้างรายได้มากถึง3ล้านล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นชาวต่างชาติ2ล้านล้านบาทและ1ล้านล้านบาทจากคนไทยด้วยกันแต่ในช่วงโควิด-19ส่งผลให้ผลกระทบทุกด้าน โดยหลายคนตั้งคำว่าว่า พปชร. ลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างไร “ท่านเคยได้ยินโครงการคนละครึ่ง/เราเที่ยวด้วยกัน/ลดดอกเบี้ย ลดหนี้บัตรเครดิต ลดค่าน้ำค่าไฟ วินมอเตอร์ไซด์ได้ค่าน้ำมันฟรีซึ่งเป็นนโยบายหัวหน้าพรรคพปชร.ผลักดันนโยบายให้ประชาชน”
และขณะนี้ประเทศไทยได้เปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการแล้วคาดว่ามีนักท่องเที่ยวมากถึง15ล้านคนจะสร้างรายได้1.8 ล้านล้านบาท จึงต้องเตรียมความยกระดับความปลอดภัย ทั้งกล้องวงจรปิด/ไฟส่องสว่าง/การอำนวยความสะดวก ที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน แต่สิ่งที่มีคำถามรายได้ที่กทม.เคยทำไว้เกือบ7แสนล้านไปอยู่ที่ไหนทำอะไรนั้น ตนเองจะลงไปตรวจสอบเข้าไปผลักดันให้เม็ดเงินส่งสู่ชุมชน ฉะนั้นเลือกตนเอง ส.ก. เบอร์ 5 เขตจอมทอง และถ้าเป็นไปได้เลือก.ส.ก.ทั้ง50เขตของพรรคด้วยตอนนี้เราขาดอย่างเดียวคือส.ก.พปชร.ที่จะไปทำงานให้กับประชาชน
โดยนายพลศักดิ์ แดงบัว ผู้สมัคร ส.ก. เขตวัฒนาเบอร์ 6 ปราศรัยเรื่องการสาธารณสุขที่ถือว่าไทยประสบกันปัญหาโควิด-19 อยู่ขณะนี้ ถ้าตนเองมีโอกาสได้ทำงานจะขยายผลสร้างโอกาสพัฒนาศูนย์บริการสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นให้คนไทยและคนกทม. ได้รักษาฟรีดูแลอย่างต่อเนื่องสร้างศักยภาพ อาสาสมัครสาธารณสุขให้ดีขึ้นและหากทุกคนเลือก พปชร. กทม.จะดีกว่าเดิมแน่นอน และขอย้ำว่าพลังประชารัฐจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง