เปลว สีเงิน
เปิดดู UP comment ใน YouTube คืนวาน
ในหัวข้อเรื่อง “สื่อฟิลิปปินส์ชี้..โครงการนี้จะเปลี่ยนประเทศไทย”
เขาบอก ต้นทางมาจากยูทูป Behind Asia ทำวิดีโอเกี่ยวกับโครงการ “ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” หรือ EEC
ในหัวข้อเรื่อง “ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้อย่างไร?” อัพโหลด ๒๗ ธค.๖๔
หลังเมื่อเผยแพร่ มีมิตรประเทศในย่านอาเซียน-เอเชีย คอมเมนต์ แล้วผู้จัดทำช่อง UP comment แปลเป็นไทยให้อ่านกัน
ผมฟังเรื่องราวตามที่ Behind Asia เสนอ ก็นึกสงสารคนกลุ่มหนึ่ง ทั้ง รุ่นใหม่-รุ่นแก่ และรุ่นซุกใต้กระโปรงเด็ก
โดยเฉพาะพรรคฝ่ายแค้น ตื่นขึ้นมา ก็โพสต์เฟซ ปั่นทวีต ปั่นแฮชแทก แถลงข่าว
“อยู่มา ๘ ปี …….
ประยุทธ์เสื่อม ประยุทธ์ไม่มีผลงาน ประยุทธ์ทำประเทศล้าหลัง ประยุทธ์ออกไป” วนๆ อยู่ประมาณนี้
ก็ห่วงพวกนี้ หน้ามืด-ตามัว ทางตัวเองก็หลงเห่า
โง่ดักดานน่ะไม่ว่า….
แต่เกรงจะหน้าแด่น-หลังดอก กลายเป็นสายพันธุ์ “หน้าคลับเฮาส์” นั่นละมากกว่า!
ก็ลองอ่านดู ว่าต่างชาติเขามองรัฐบาลนี้ “ไม่มีผลงาน -ทำประเทศล้าหลัง” จริงอย่างที่ฝ่ายค้านริษยาหน้ามืดไหม?
Behind Asia พูดถึงโครงการ อีอีซี ไว้ว่า…
นี่คือ ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC เป็นหนึ่งในความพยายามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่เคยทำมาในประวัติศาสตร์ของการพัฒนาเศรษฐกิจ
โดยโครงการนี้ เป็นโครงการที่มีมูลค่ากว่า ๑.๕ ล้านล้านบาท หรือ ๔๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นการปฏิวัติที่สำคัญ พลิกโฉมประเทศไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามแผนแม่บทของ EEC
EEC มีชื่อเป็นทางการว่า “เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” พื้นที่ครอบคลุม ๓ จังหวัดภาคตะวันออกของประเทศไทย ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา
รวมกันแล้วมีเนื้อที่มากกว่า ๑๓,๒๘๕ ตารางกิโลเมตร
นี่จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประทศและประชาชนในประเทศ แผนงานที่รัฐบาลวางไว้ คือ ๓ จังหวัดดังกล่าว จะเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางผลิต การบริการทางเทคโนโลยีเป็นหลัก
ในขณะที่ยังมีการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างแน่นแฟ้นทั้งทางบก, ทางทะเล และทางอากาศ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของไทยสำหรับ EEC ก็คือ สนามบินนานานชาติอู่ตะเภา
นอกจากเป็นสนามบินหลักแห่งหนึ่งของประเทศ สนามบินแห่งนี้ ยังเปิดโอกาสให้สนามบินอีก ๒ แห่ง (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ) ของประเทศ ที่ประสบปัญหาการมีผู้โดยสารเกินขีดความสามารถ
ซึ่งสนามบินอู่ตะเภา จะสร้างรันเวย์แห่งที่ ๒ กับอาคารผู้โดยสารอีก ๑ แห่ง การขยายนี้ จะทำให้กำลังการรับผู้โดยสารจาก ๘ แสนคน มาเป็น ๓ ล้านคนต่อปี
สำหรับอาคารผู้โดยสาร มีงบประมาณการก่อสร้าง ๖๒๐ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น การขยายสนามบินนี้ เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
มีแผนใหญ่ ที่จะทำให้สนามบินแห่งนี้มีความเพิ่มขึ้นเป็น ๑๕ ล้านต่อปีในอนาคต
ในขณะที่การก่อสร้างสนามบิน อาจจะฟังดูน่าทึ่งแล้ว แต่ว่าการพัฒนาที่สำคัญที่สุดที่ควรรู้ก็คือ ทางด้านการรถไฟ ซึ่งขณะนี้ พวกเขาอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่
โครงการนี้ ไม่เพียงแต่จะปฏิวัติ EEC เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศด้วย
นั่นก็คือ การพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่จะมีการเชื่อมต่อทั้งพื้นที่ EEC และยังมีการเชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่สำคัญ
เช่น สถานีกลางบางซื่อ และรวมถึงการเชื่อมต่อกับสนามบินอู่ตะเภา รวมถึงสนามบินนานาชาติดอนเมือง
ซึ่งโครงการนี้เพียงโครงการเดียว คาดว่าจะมูลค่าถึง ๒๒๔,๕,๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็น ๗.๔ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ความยาวของเส้นทางนี้จะมีความยาวทั้งสิ้น ๒๒๑ กิโลเมตร
เรื่องสุดท้ายของการพัฒนานี้ก็คือ เรื่องของการพัฒนาท่าเรือ โดยปัจจุบัน EEC มีท่าเรือหลักทั้งสิ้น ๒ แห่ง คือ ท่าเรือแหลมฉะบัง และท่าเรือมาบตาพุด
ซึ่งเดิมที เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดังนั้น จึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการเรือที่ใหญ่ที่สุดและรวมถึงแพลตฟอร์มการค้าหลัก
ท่าเรือแห่งเดียวมีพื้นที่ ๕,๒๗๒ เอเคอร์ ดังนั้น การพัฒนาหรือการขยายจึงมีความจำเป็นเพื่อการขับเคลื่อนความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
และอีกสิ่งหนึ่งที่จะเริ่มดำเนินการในจังหวัดเหล่านี้ก็คือ เรื่องของการศึกษา โครงการ EEC อาจจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมและรวมถึงศูนย์กลางทางเทคโนโลยี
แต่ว่าหากไม่มีคนที่เหมาะสมในการจัดการในพื้นที่นั้นย่อมไม่มีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด
โชคดีที่การพัฒนาการศึกษาเป็นส่วนสำคัญของ EECด้วย มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่นมหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยอมตะ มีแผนที่จะเปิดวิทยาเขตในบริเวณนี้
และรวมถึงมหาวิทยาลัยต่างประเทศทั่วโลก ก็ได้มีการพูดถึงความเป็นไปได้ในการเปิดวิทยาเขตในที่นี่เช่นกัน
ซึ่งนี่ ไม่เพียงแต่เพิ่มการศึกษาของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เท่านั้น ยังเป็นเหตุให้คนต่างชาติและคนนอกพื้นที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ด้วย
แต่เนื่องจากการลงทุนเป็นส่วนสำคัญของโครงการนี้ รัฐบาลจึงได้จัดทำรายการสิ่งจูงใจ เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
นั่นก็คือ ลดภาษีถึง ๑๗% การเช่าที่ดิน ๕๐ ปี และรวมถึงเงินตราต่างประเทศแบบเสรีใน ๓ จังหวัดดังกล่าว รวมถึงการลดภาษีรายได้นิติบุคคล ๕๐% ในช่วงระยะเวลาประมาณ ๕ ปีแรก
ซึ่งเป็นข้อเสนอสำหรับนักธุรกิจที่จะเชิญชวนให้ผู้ประกอบการหลายพันคนให้เดินทางเข้ามาลงทุนที่นั่น
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังได้จัดตั้งกองทุนส่งเสริมการแข่งขัน สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายมูลค่า ๑๐ ล้านบาท
โดยรวมแล้ว โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมถึงความก้าวหน้าทางศึกษาและรวมถึงการลงทุนที่่ไม่มีมาก่อนนั้น จะทำให้ EEC ก้าวสู่ระดับใหม่
ผลกระทบทางเทคโนโลยีอย่างเดียวนั้น จะช่วยการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของประเทศ และทำให้ประเทศไทยก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
ในทางกลับกัน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยยกระดับเป้าหมายโดยรวมของประเทศในด้านโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้น โดยจะทำหน้าที่เป็นแบบอย่าง สำหรับการพัฒนาในอนาคต
เช่นในเรื่องของ รถไฟ ท่าเรือ และสนามบินระดับโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การสร้างสรรการคมนาคมที่ดีมากขึ้น
……………………..
นี่ขนาดยังไม่ได้พูดถึง “วังจันทร์วัลเลย์” เมืองนวัตกรรมอัจฉริยะ EECi ของ ปตท.ที่ร่วมกับ “สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” (สวทช.) ทำให้ “วังจันทร์วัลเลย์” เป็น “เมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต” เลยนะเนี่ย
3ที่พัฒนาตั้งแต่การศึกษา เทคโนโลยี ไปจนถึงคุณภาพชีวิต เป็น “เมืองนวัตกรรมต้นแบบ” เขาก็มองไทยไปถึงระดับนั้นแล้ว
วันหลังค่อยคุย วันนี้ มาดูความเห็นต่อเรื่องนี้จากเพื่อนในอาเซียนกันก่อน
ชาวอินเดีย
“นี่เป็นโครงการที่ดี ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของจังหวัดชลบุรี รวมถึงพัทยา ศรีราชาและพื้นที่อื่นๆ ขอแสดงความนับถือ”
จากเชนไน ประเทศอินเดียถึงเพื่อนชาวไทยทุกคน
…………………
“ผมมีช่วงเวลาที่ดีในการขี่มอเตอรไซค์จากชลบุรีไปหัวหิน เมื่อ ๒-๓ ปีก่อน การขับรถในไทยน่ะ คล้ายกับอินเดียมาก แต่ว่ามีการบีบแตรน้อยกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี”
“นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก้าวต่อไปในทิศทางที่ถูกต้องของประเทศไทย คุณทำได้”
…………………..
ยอดเยี่ยมมากประเทศไทย จงทำต่อไป-จากอินเดีย
และจงจำไว้ว่า ลิซ่า Black Pink คือสมบัติแห่งชาติและเป็นของขวัญให้กับโลก
………………..
ชาวมาเลย์
สิ่งนี้มันคล้ายกับเขตเศรษฐกิจพิเศษอิสกันดาร์มาก
……………………..
อินโดนีเซีย
ว้าว นี่มันแผนที่ยอดเยี่ยมที่จะเป็นจริงในอีกไม่ช้า
Amazing Thailand จากอินโดนีเซีย
…………………….
“นี่คือแผนทางเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมสำหรับประเทศไทย นับถือจากอินโดนีเซีย
……………………….
ออสเตรเลีย
ประเทศไทยกำลังพัฒนาขึ้นทุกปีและมีการทำงานอย่างยอดเยี่ยม เห็นได้จากถนนใหม่ๆ ของพวกเขา ผมสามารถพูดสิ่งนี้ได้ เพราะว่าผมไปประเทศไทย เรารักพวกคุณ
………………………
ฟิลิปปินส์
ขอแสดงความยินดีกับประเทศไทย ประเทศของคุณใช้จ่ายเงินกับโครงสร้างพื้นฐาน หวังว่ามันจะผ่านไปด้วยดี
ทักทายจากเพื่อนบ้านอาเซียนของคุณ-ฟิลิปปินส์
……………………………
ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาที่ใหญ่ขนาดนี้ แล้วรวมถึงทางรถไฟ ๒๑๑ กิโลเมตรด้วย
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่เป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย หากส่งผลให้มีการศึกษาที่ดีขึ้น ค่าครองชีพที่ดีขึ้น ก็ถือว่าเป็นข่าวดี ผมคิดวาาการพัฒนาใดๆที่ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ดี”
…………………………..
ตกลง ที่ “ทำประเทศล้าหลัง” นั่นน่ะ
ประยุทธ์ หรือ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เอาให้แน่!?
-เปลว สีเงิน
๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕