ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ทำเอาน้ำตาซึม..
ไม่ได้สงสารหรือเห็นอก-เห็นใจพรรคที่จะถูกยุบนั่นหรอก เพราะใครทำกรรมใดไว้ ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของ “กรรมตอบสนอง” ไป!
แต่ที่ทำให้รู้สึกสะเทือนใจก็จากข้อความนี้ครับ.. “ตลอดระยะเวลา 20 กว่าวันที่หน่อยได้ลงพื้นที่ในเขตหนองเรือ และมัญจาคีรี
หน่อยได้มองเห็นความทุกข์ของพี่น้องผ่านสายตา ผ่านใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาของพี่น้อง หน่อยสารภาพเลยค่ะว่า ไม่มีวันไหนเลยที่กลับจากการหาเสียง แล้วหน่อยจะไม่ร้องไห้
เพราะตลอดทั้งวันที่ออกไปพบพี่น้อง หน่อยได้ซึมซับและรับเอาความทุกข์ของพี่น้อง มาไว้เต็มหัวใจของหน่อยทุกวัน
หน่อยพยายามที่จะเข้าไปกอดพี่น้องทุกคน ที่หน่อยได้พบให้มากที่สุดเพราะหน่อยอยากจะปลอบใจ และให้กำลังใจพี่น้องของหน่อยทุกคน ให้อดทนต่อสู้กับชีวิตที่ยากลำบากนี้
หน่อยยืนยันว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งพี่น้องอย่างเด็ดขาด”
แป๊บ..ขอปาดน้ำตานิด..ครับ “หน่อย” ในที่นี้ คือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ท่านโพสต์เฟซบุ๊ก หลังจากที่รู้พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคพลังประชารัฐ
ซึ่งในฐานะ “ประธานยุทธศาสตร์พรรคฯ” แน่นอนล่ะ ย่อมต้องมีความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ อัดอั้น คับแค้น แต่จะเศร้า-เสียน้ำตาอยู่คนเดียวก็ไม่เกิดประโยชน์โพดผลอันใด..
หนำซ้ำใครเห็น-ใครรู้ก็จะถูกมองเป็นคนอ่อนแอ “เจ้าน้ำตา” ไม่สมกับเป็นนักการเมืองฉายา.. “หญิงแกร่ง”!
การโพสต์ข้อความนี้ จึงน่าจะเป็นการ “ระบาย”ความรู้สึกที่อัดแน่นภายใน เพื่อทั้งช่วยปลอบประโลมใจตัวเอง กับทั้งให้คนที่รัก-ที่ชอบ ได้ร่วมผิดหวัง-เสียใจไปด้วยกัน โดยเฉพาะประโยค..
“เราจะสู้ไปด้วยกัน..ขอให้เราเหนียวแน่นคือปั้นข้าวเหนียว” นั้น ต้องบอกว่า “กระตุ้นอารมณ์ร่วม” ได้อย่างดี จนบางคนแทบต้องปล่อยโฮ!
ผมนั้นแม้จะไม่ถึงกับ “รัก-ชอบ” แต่ก็ไม่ได้เกลียด หรือชัง และด้วยนิสัยเป็นคนขี้อ่อนไหว เมื่ออ่านข้อความคุณหญิงหน่อย ที่เขียนขึ้นจากหยดน้ำตา กรีดมาจากขั้วหัวใจเช่นนี้..
จึงพลอยทำให้เศร้า น้ำตาซึมอย่างที่กล่าวแต่ต้นนั่นแหละ!
อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าจะเป็นแค่ความรู้สึกชั่วครู่ชั่วยามของนักการเมือง คุณหญิงหน่อยคงไม่ได้นั่งจมอยู่กับความผิดหวัง ความเสียใจต่อการพ่ายแพ้นี้นานๆ หรอก!
ยิ่งรู้..คนอ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น อย่างคุณเฉลิม อยู่บำรุง ได้รับมอบหมายให้เข้ามามีบทบาทภายในพรรคเพื่อไทยด้วยแล้ว ยิ่งต้องรีบเช็ดน้ำตา ฟื้นสภาพจิตใจให้เข้มแข็ง เพื่อจะได้เดินหมาก..
“แย่งอำนาจ” ทั้งภายในและนอกพรรคกันต่อไป!
อ้อ..และที่โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว.. “พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน เชื่อมั่นว่าการเดินเข้าหาและฟังเสียงประชาชน ทำให้ได้ผลคะแนนที่ใสสะอาด..
ทุกคะแนนคือความภาคภูมิใจที่ได้ยืนหยัดเคียงข้างประชาชน ส่วนพรรคที่ได้คะแนนมากกว่า ประชาชนถามว่า มีความสุขจริงหรือกับที่มาของคะแนนที่เต็มไปด้วยข้อกังขา..”
ขอโทษ..เก็บปากไว้เคี้ยวข้าวเถอะนะ!
