กลับสู่ยุค ‘ดับไฟคุยกับแฟน’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ใกล้เข้ามาทุกที 

สงครามรัสเซีย-ยูเครน กำลังจะเป็นเรื่องขี้ๆ ไปแล้วล่ะครับ

จากนี้ไปทุกคนเตรียมรับแรงกระแทก จากอภิมหาสงครามเศรษฐกิจ ระหว่าง อเมริกา-รัสเซีย และอเมริกา-จีน

เพราะอเมริกาประเมินแล้ว เล่นงานรัสเซีย ต้องเล่นงานจีนด้วย ไม่งั้นเอาไม่อยู่

ลองนึกภาพ จากนี้ไปเกิดสงครามเศรษฐกิจระหว่าง อเมริกา อียู ญี่ปุ่น กับ รัสเซีย จีน ความโหดร้ายสำหรับมวลมนุษยชาติ มันจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน

น้้ำมัน ๒ ลิตรร้อย มีให้เห็นแน่ๆ

ใครที่เอาแต่บ่นว่า “ลุงตู่” ทำให้ข้าวยากหมากแพง   นั่นมันเด็กๆ ไปเลย เพราะความขัดแย้งของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้ง ๒ ฝั่ง จะพาโลกเข้าสู่ยุค “ไม่มีจะกิน”

มันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ตอนนี้ลองจินตนาการไปพลางๆ เพราะสถานการณ์เพิ่งจะเริ่มต้น

การเริ่มต้นที่ผลัดกันต่อยคนละหมัด จากหมัดแรกไม่แรงเท่าไหร่ หมัดถัดไปเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่มีใครตอบได้ว่าหมัดหลังจากนั้น ทั้ง ๒ ฝ่าย จะยับเยินแค่ไหน

ถ้าไม่หยุดทั้งโลกคงต้องเข้าไอซียู

เอามาฝากกันครับ โพสต์ของ “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ในโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Dr.KOB” ถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน

————-

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!!!

สมรภูมิใหม่ในการรบด้านเศรษฐกิจ

ล่าสุด ประธานาธิบดีปูตินสั่งเตรียมการยึดสินทรัพย์ของบริษัทที่ถอนตัวออกจากรัสเซีย รวมถึงขึ้นบัญชีดำบริษัทเหล่านี้ว่า เคยมีพฤติกรรมร่วมทำร้ายรัสเซีย และจดชื่อเอาไว้ เพื่อไม่ให้กลับมาที่รัสเซียในอนาคต

อดีตประธานาธิบดี Medvedev อธิบายเพิ่มเติมว่า จะยึดหลักการ “Symmetrical Response” หรือแปลเป็นไทยว่า “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

เป้าหมายคือ

๑.ประเทศที่มีการยึดสินทรัพย์ของรัสเซีย

๒.บริษัทที่มีการประกาศถอนตัวออกจากรัสเซีย

ส่วนบริษัทที่หยุดกิจการ ปิดไปเฉยๆ ก็อาจจะหาคนเข้าไปบริหารแทน เพื่อดูแลการจ้างงานและการผลิตให้ไม่สะดุดลง และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ล่าสุด รายชื่อบริษัทที่ตัดสินใจออกจากรัสเซีย มียาวเป็นหางว่าว ตั้งแต่ McDonald’s, Starbucks, Coca-Cola,  Pepsi, Shell, BP, Apple, Microsoft, IBM, IKEA, H&M,  Volkswagen, Toyota รวมไปถึง บริการชำระเงิน VISA,  Apple pay, Google Pay เป็นต้น (ขณะนี้ องค์กรผู้บริโภครัสเซียได้ส่งชื่อให้รัฐบาลไปแล้วอย่างน้อย ๕๙ บริษัท)

นอกจากนี้ เครื่องบินที่เช่ามาให้ Aeroflot ก็อยู่ในข่ายที่จะไม่คืนเช่นกัน

ปกติแล้ว เรื่องอย่างนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น เพราะ (๑) จะนำไปสู่การฟ้องร้อง และ (๒) สร้างชื่อเสียงที่ไม่ดีให้กับประเทศ เพราะถ้าไปลงทุนแล้ว สุดท้ายอยู่ๆ ถูกยึดเป็นของประเทศ ก็จะเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง โดยประเทศที่เคยทำเช่นนี้ นักลงทุนก็จะจดไว้เช่นกัน

ทั้งนี้ รัสเซียคงอธิบายว่า สินทรัพย์ของรัสเซีย ก็ถูกยึดเช่นกัน เมื่อคุณยึดของผมได้ ผมก็ยึดของคุณได้ นอกจากนี้ อีกไม่นานเรามีความเสี่ยงที่อาจจะเห็นรัสเซีย ประกาศหยุดชำระหนี้ (ชักดาบ) ในพันธบัตรต่างๆ ของรัสเซีย ที่กำลังถูก downgrade อยู่ในขณะนี้ (รวมถึง คงขอให้ไปถอนเอาเองจากเงินสำรองที่ถูกยึดไป)

สินทรัพย์ที่ต่างชาติมีอยู่ในรัสเซีย หรือลงทุนในรัสเซียมีอยู่ประมาณ ๗-๘ แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อไป

นโยบายเหล่านี้ Nationalization หรือ Debt  Moratorium เป็นนโยบายที่ปกติแล้ว ประเทศต่างๆ ขีดเส้นว่า “ไม่ทำ” แต่เมื่ออีกข้าง ประกาศใช้มาตรการแรงที่ปกติ “ไม่ทำ” เช่นกัน เช่น Freeze เงินสำรองต่างประเทศ  ยึดสินทรัพย์ของธนาคารรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐและยุโรป  ตลอดจนยึดสินทรัพย์ของเจ้าสัวรัสเซีย เมื่อมาถึงจุดนี้ อะไรๆ ก็เกิดได้

ทั้งหมด จะส่งผลให้คนที่อยากจะประกาศออกจากรัสเซีย ก็คงลังเลใจที่จะประกาศทันที อาจจะต้องค่อยๆ  วางแผน ลด Stock ต่างๆ ลง คนที่มีหุ้น มีสินทรัพย์ ก็คงต้องค่อยๆ ผ่องถ่ายสินทรัพย์ของตนออกไป เพราะว่าถ้าประกาศกะทันหัน สุดท้ายทุกอย่างที่ลงทุนไปจะหายไปในพริบตา

คงต้องหาสมดุลที่เหมาะสมในการ Exit

เรียกได้ว่า สมรภูมิรบด้านเศรษฐกิจกำลังดุเดือด เข้มข้นขึ้น และกำลังลุกลามไปด้านเศรษฐกิจจริง บริษัท ร้านค้า สินทรัพย์ต่างๆ จากเดิมที่อยู่ในตลาดการเงิน เช่น ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และระบบธนาคารพาณิชย์ เป็นสำคัญ

และรัสเซียยังมีหมัดเด็ดอีกหลายหมัดที่ยังไม่ได้ใช้

ผลพวงก็คือ คนบริสุทธิ์ทั่วโลก ที่พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย

ตามที่เขาพูดกันว่า “สงครามไม่เคยปรานีใคร”

ดีที่สุดคือ “ไม่มีสงคราม”

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

—————-

ครับ…ไม่เคยมีใครท้าทาย อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นแบบนี้มาก่อน จึงไม่เคยมีใครได้ลิ้มรสผลพวงที่ตามมา

คราวนี้ถือว่ารัสเซียโหดมากทีเดียว

นี่หรือเปล่าที่เรียกว่าโหดสัสรัสเซีย

ก่อนนี้รัสเซียประกาศห้ามส่งออกสินค้าร่วม ๒๐๐  รายการ

เล่นกันแบบนักเลง

เมื่อยูไม่นำเข้า ไอก็ไม่ส่งออก

เลือดไหลซิบๆ ทั้ง ๒ ฝั่ง

อเมริกาเริ่มหันไปทางจีน อีกไม่นานคงชวนญี่ปุ่น  อินเดีย แซงก์ชันจีน

จีนก็จับทางได้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยืนยันหนักแน่นว่า รัฐบาลจีนพร้อมตอบโต้ด้วยมาตรการที่เท่าเทียม หากสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทหรือบุคคลสัญชาติจีน ภายใต้บริบทที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

นี่ก็จะเล่นตาต่อตาฟันต่อฟันเหมือนกัน

เห็นความกระหายของอเมริกา ที่จะเล่นงานรัสเซีย  จีน แต่เมื่อมองย้อนกลับเข้าไปในอเมริกาเอง ขณะนี้ คล้ายกับนั่งจมกองเลือดอยู่เหมือนกัน

สดๆ ร้อนๆ โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs  Group Inc.) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจของอเมริกา

เตือนว่าความน่าจะเป็นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอเมริกาในปีหน้าอาจสูงถึง ๓๕% เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและผลกระทบอื่นๆ จากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

การปรับลดมีขึ้นเนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)  ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนกุมภาพันธ์สู่ระดับสูงสุดในรอบ ๔๐ ปีจากราคาน้ำมันที่พุ่งพรวด

ค่าอาหารและที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น

อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวจะสูงขึ้นอีกภายหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ตลาดหุ้นทั่วโลกปิดตลาดแดงเถือกเพราะกังวลเรื่องเงินเฟ้อในอเมริกา

นี่ยังแค่เริ่มต้นครับ

วันใดที่รัสเซียขยับปิดท่อก๊าซที่ส่งไปยุโรป วันนั้นจะเกิดวิกฤตพลังงานครั้งใหญ่สุดที่โลกเคยเจอ

นํ้ามันดิบพุ่งถึง ๓๐๐ ดอลลาร์ต่อบาร์เรลก็คงได้เห็นกันจริงๆ

วันนี้ราคาน้ำมันดิบที่ประมาณ ๑๑๐ ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ใครจะไปรู้น้ำมันหน้าปั๊มประเทศไทยลิตรละ ๑๐๐ บาท ก็อาจเป็นเรื่องจริง

ถูกต้องเลยครับ “สงครามไม่เคยปรานีใคร”

ดีที่สุดคือ “ไม่มีสงคราม”


Written By
More from pp
“อรรถกร” ขออย่าห่วงรัฐบาลใช้เงินตามอำเภอใจ มี คกก. เชี่ยวชาญกลั่นกรองการใช้เงิน ย้ำชื่อเสียงประเทศไทย ต่างชาติชมคุมการระบาดโควิด-19 ได้ดี
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ อภิปรายสนับสนุนการตราพระราชกำหนดทั้ง 3 ฉบับ เป็นเครื่องมือทางการเงินที่จำเป็น
Read More
0 replies on “กลับสู่ยุค ‘ดับไฟคุยกับแฟน’ – ผักกาดหอม”