นายกฯ เปิดงานวันสตรีสากลปี 2565 ยืนยัน รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันพลังของสตรี ให้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ขอบคุณ พม.-ทุกภาคส่วนที่เป็นกำลังสำคัญเสริมสร้างศักยภาพหญิงไทย ยกระดับสิทธิ คุ้มครอง ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกมิติ
โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้บริหารกระทรวง เข้าร่วมงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของผู้หญิงและจัดงานวันสตรีสากลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการให้เกียรติ ยกย่องบทบาทต่าง ๆ ของผู้หญิง และสร้างความเสมอภาคในทุกมิติ อีกทั้งยังมุ่งมั่นผลักดันพลังของสตรีให้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ด้วยการยกระดับสวัสดิการสตรี ส่งเสริมการเข้าถึงโอกาส และการลดภาระต่าง ๆ ของผู้หญิง เพื่อให้ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประกอบอาชีพและสร้างรายได้ได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรีทั่วประเทศและประชาชนชาวไทยอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมและแสดงความยินดีกับสตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่นทุกองค์กร ที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นสตรีผู้เสียสละเพื่อสังคม และขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทุกหน่วยงาน ตลอดจนภาคีทุกภาคส่วน ที่เป็นกำลังสำคัญเสริมสร้างศักยภาพของหญิงไทยให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รวมทั้งมุ่งมั่นยกระดับสิทธิ คุ้มครอง และส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกมิติ
โดยขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนรู้ มุ่งมั่นฝึกฝนทักษะอาชีพที่เป็นประโยชน์ และตั้งปณิธานในการทำความดี เพื่อนำความรู้ที่สะสมไว้มาเป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไป และเชื่อมั่นว่าพลังของสตรีจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะช่วยให้สังคมสงบสุข และปลอดภัย
ภายหลังพิธีมอบรางวัลฯ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภายใต้การกำกับดูแลของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ผลงานจากกลุ่มสตรีต่าง ๆ ได้แก่
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบผลิตภัณฑ์จากร้านโกดังชาบู ซึ่งเป็นร้านค้าที่ประสบปัญหาและกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เข้าไปดูแลฟื้นฟูกิจการ ให้ความรู้ด้านการตลาด และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายด้วย
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรี เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม ความเสมอภาค สันติภาพ และการพัฒนา รวมถึงการทบทวนความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสิทธิสตรี
สำหรับการจัดงานสตรีสากลในปีนี้ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เสริมพลังสตรี ร่วมตัดสินใจ ลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” เพื่อให้ผู้หญิงมีบทบาทพื้นที่ และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจร่วมกับสังคมและส่วนรวมอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะนโยบายการสร้างการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติธรรมชาติ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น