ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
เก็บกดมา 18 ปี..
แล้ววานซืน หลังสึกพ้นกำแพงวัดออกมาไม่ทันไร “ทิดไพรวัลย์” ก็ได้ระบาย.. “เขาให้กูฟรีไอ้ควายสะตวง กูแลกเสื้อกับนิกกี้ อิจฉาหรอ ไอ้ฉิบ….”
โล่ง-สบายขึ้นแล้วสินะไอ้ทิด? สงสัยก็แต่ตอนเป็น “พระ” มีแอบฝึก-แอบซ้อมเอาไว้หรือไงถึงพูด (เขียน) ได้เต็มปาก-เต็มคำเชียว!
แต่นี่อย่าเผลอด่าล่ะ ก็ที่พระคุณเจ้า “พระพยอม” สะกิด.. “อยากฝากถึงทิดไพรวัลย์ ว่าสึกแล้วอย่าไปกินเหล้าเมายา อย่าหลงใหลใฝ่ต่ำ ถึงจะประกาศว่าโสดนะก็ขอให้ครองโสดไปนานๆ
อย่าพึ่งรีบ ก็ขอให้อยู่รักษาคำว่าภาพลักษณ์ของคนที่เคยบวชเรียน ให้อยู่แบบดูดีกว่าชายอื่น” นั่นแหละ
จะฟัง-จะเชื่อหรือไม่เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่การอยู่ท่ามกลางดารา-คนหล่อ-คนสวย-คนดัง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะควบคุมใจตัวเองได้..
ครองโสดน่ะอาจจะพอไหว แต่ไม่กินเหล้าเมายา ดูท่าจะอึดอัด (ใจ) นะไอ้ทิด?
เอ้า..นึกไว้แล้วเชียว สักวัน “ลัทธิเอาอย่าง” ต้องมาแน่ ก็กลุ่ม “แนวร่วมต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีน (The Resistance THA)” นั่นไงล่ะ!
ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หรือ “หม่อมโจ้” คงดู-คงคิด-คงศึกษาจนตกผลึกแล้ว จึงได้ออกมาชูธงนำทัพ นัดหมายมวลชนร่วมเดินขบวนต่อต้านนโยบายภาครัฐ..
ในการบังคับประชาชนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขึ้นเหมือนกับบางประเทศที่กำลังโกลาหลอยู่ในขณะนี้
“การฉีดวัคซีนเป็นสิทธิ์ในร่างกายเราที่จะยอมให้ใครนำอะไรเข้ามาใส่ตัวเราได้ ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า วัคซีนโควิด-19 มีผลข้างเคียง ถามว่า ป้องกันได้จริงหรือไม่ เพราะเห็นฉีดที่ไหนก็ระบาดที่นั่น”
นี่..เป็นคำกล่าวของหม่อมโจ้ และว่า.. “แต่อะไรคือแรงจูงใจให้คนที่มีส่วนรับผิดชอบ ต้องผลักดันทั้งมีการตั้งเป้าจำนวนผู้ฉีดแต่บอกไม่บังคับ บริษัทยาได้ประโยชน์หรือไม่
คนที่สนับสนุนเรื่องนี้ทั้งที่เป็นหมอ และรมว.สาธารณสุข รู้อยู่ว่าวัคซีนโควิด-19 ยังถือเป็นยาทดลอง ถูกคิดค้นและผลิตมาใช้กับมนุษย์ในเวลาแค่ 6 เดือน ขณะที่วัคซีนโรคอื่นๆ ใช้เวลาทดสอบนับ 10 ปี
จึงถือเป็นการเอายาที่ไม่ผ่านทดสอบอย่างเป็นทางการมาใช้กับประชาชน เห็นได้ว่าหลายคนก่อนฉีดไม่มีโรคประจำตัว แต่ฉีดตายแพทย์กลับบอกเป็นโรคประจำตัว
อะไรทำให้ทั้งนักการเมือง หมอ มาผลักดัน เขาได้อะไร อุตสาหกรรมยามีประวัติด้านอาชญากรรมมากที่สุด โดยเฉพาะบริษัทผลิตวัคซีนชื่อดังในขณะนี้
เรื่องทั้งหมดถ้าไม่จริงให้มาฟ้องร้องตนได้ ตนยืนยันจะไม่ฉีด แต่ตอนนี้คนไม่ฉีดถูกกล่าวหาเป็นภัยสังคม ระวังวันหนึ่งถ้าความจริงปรากฏจะโดนเช็กบิล และอย่ามาอ้างทำตามคำสั่ง
หลังจากนี้จะเข้ายื่นหนังสือกับกระทรวงสาธารณสุข และผลักดันแนวความคิดนี้สู่สาธารณชนต่อไป”
ครับ..พอม็อบ 3 นิ้ว-ทะลุแก๊สเริ่มจะซา กลุ่ม “แนวร่วมต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีน” ก็โผล่มาทำกิจกรรมบนถนนให้ได้เห็นกันต่อ
ก็เอาที่หม่อมโจ้สบายใจเถอะ แต่การนำมวลชนไปหน้าสถานทูตยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียยุติการละเมิดสิทธิ์ประชาชนในการรับวัคซีนโควิด-19 นั้น..
เอาแค่บ้านตัวเองก็พอกระมัง อย่าจุ้นวุ่นวายกับบ้านอื่น-เมืองอื่นเขาเลยนะ ประเดี๋ยวเขาจะว่าเอาได้..
มึงเผือกอะไรด้วย!