วันเสาร์ที่แล้วได้เขียนชักชวนให้ไปกินอาหารง่ายๆ ที่ร้านขนมจีนบ้านประไพ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็มีพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายคนสอบถามว่าไปอยุธยาไหว้พระเสร็จแล้ว อยากกินกุ้งกินปลาแม่น้ำที่ขึ้นชื่อของจังหวัดบ้างจะไปที่ร้านไหนดี
ขอแนะนำว่าต้องไปที่ร้านสีกุก ครับ คำว่าสีกุกเป็นชื่อหมู่บ้านหนึ่งอยู่ในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในละแวกร้านมีวัดที่มีเกจิอาจารย์ดังๆ หลายวัด เช่น วัดบางนมโคมีหลวงพ่อปาน วัดพระขาว มีหลวงปู่ทิม วัดหน้าต่างนอกมีหลวงพ่อจง ฯลฯ
ถ้าอยากทราบรายละเอียดต้องสอบถามคุณปริญญา ธรรมรักษ์ เจ้าของร้านอาหารสีกุก ที่เปิดร้านขายอาหารมาโดยเฉพาะ นานกว่า 30 ปี โดยนำเอาที่ดินซึ่งเคยเป็นบ่อทรายเก่า ปัจจุบันกลายเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่มาตั้งเป็นร้านอาหาร ช่วงที่น้ำท่วมอำเภอบางบาล น้ำไม่ได้ท่วมร้านแต่ก็ปริ่มๆ เชียว จะเห็นได้อย่างชัดเจน
ส่วนอาหารนั้นก็เป็นอาหารบ้านๆ ที่ทำกินกันตามปกติ แต่ที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ ก็คือ วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหาร คุณปริญญาเป็นคนใจถึง กล้าที่จะใช้ของดีๆ แพงเท่าไรไม่ว่าขอให้ลูกค้าได้กินของดีๆ จึงพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยทั้งกุ้งทั้งปลาจะใช้ของแม่น้ำไทยเท่านั้น ไม่ใช้ของพม่า เขมร อินเดีย ฯลฯ ที่มีอย่างดาษดื่นอย่างเด็ดขาด
เพราะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่กว้างใหญ่มากมีถึง 16 อำเภอ มีแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย จึงมีกุ้งมีปลาแม่น้ำมาก ทุกๆ เช้า ชาวบ้านที่ทอดแหลงข่าย หากุ้งหาปลามาได้ก็นำมาขายให้ที่ร้าน เพราะคุณปริญญาให้ราคาดีเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านอีกด้วย ส่วนพริกแกงก็จะทำเอง ซึ่งเวลาจะตำพริกแกงถึงกับต้องยกสากขึ้นมาดมว่าถึงข่าถึงกระชายไหม อาหารแต่ละจานที่ยกออกมาจึงมีรสชาติอร่อย โดยไม่ต้องใช้ผงชูรสเลย
เมื่อมาถึงร้านแล้ว ขอแนะนำให้เลือกที่นั่งบนเรือนบึงน้ำที่มีทั้งปลาต่างๆ และห่านว่ายไปมา นั่งแล้วจะสบายๆ อย่างแปลกประหลาด เพราะลมเย็นสบายไม่ร้อน โดยเฉพาะหน้านี้เป็นหน้าหนาวอากาศก็ยิ่งดีมากกว่าปกติ
อาหารอร่อยๆ สดๆ มีมากมายหลายเมนูครับ ที่จะขอแนะนำก็เช่น
ปลาแดงฉู่ฉี่ ปลาแดงเป็นปลาตระกูลปลาเนื้ออ่อนที่อยู่ในตระกูลเดียวกันก็เช่นปลาน้ำเงิน ปลาเบี้ยว (คางเบือน) ปลาชะโอน ฯลฯ หน้านี้จะมีชุกชุมมากเป็นพิเศษ คุณส้มภรรยาของคุณปริญญาที่เป็นแม่ครัวใหญ่ เธอจะเอาพริกฉู่ฉี่และกะทิใส่ลงไปเคี่ยวให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลาของชาวอยุธยาแล้วใส่ปลาสดๆ ลงไปจนพริกแกงฉู่ฉี่ซึมเข้าไปในตัวปลาโดยไม่ทอดปลาอย่างเด็ดขาด ทำให้ได้กินรสชาติของปลาแท้ๆ เวลาที่กินจะนุ่มปากนุ่มคอหอมกลิ่นพริกแกง หอมกลิ่นปลา รสชาติหวานมันอร่อย กินเนื้อปลาหมดแล้ว น้ำพริกแกงฉู่ฉี่นำมาคลุกข้าวก็ยังอร่อยเลย อาหารจานนี้รับประกันได้เลยว่าจะต้องติดอกติดใจจนต้องสั่งต่ออีกจานเชียวครับ ราคาจานละ 300 บาท
หลนปูแสม ต้องสั่งมาชิมฝีมือชาวบ้านกรุงเก่าว่าเป็นอย่างไร คุณส้มแม่ครัวใหญ่จะสั่งปูแสมมาจากมหาชัย สมุทรสาคร นำมาล้างให้สะอาดแล้วดองเอง เมื่อเอามาทำหลนจะได้กลิ่นหอมของปูแสม กินพร้อมกับผักสดต่างๆ โดยเฉพาะขมิ้นอ่อนก็จะเข้ากันได้อย่างดี ยิ่งกินก็ยิ่งอร่อย ราคาชามละ 150 บาท
ผัดฉ่าปลากดแก้ว ช่วงน้ำลดเข้าหน้าหนาวอย่างนี้ ทั้งกุ้งปลาจะอ้วนมีน้อยมากกว่าปกติ คุณปริญญาจะนำเอาปลากดแก้วมาแล่เป็นชิ้นๆ พอ 2 คำ ใส่เครื่องผัดฉ่าตามสูตรของตัวเองทั้งกระชาย พริกเหลือง พริกขี้หนูสวน ใบโหระพา ที่ไม่เหมือนใครคือ ใส่สะตอเพิ่มเข้าไปอีกด้วย เวลาผัดเครื่องสมุนไพรและพริกผัดฉ่าจะแทรกเข้าไปในเนื้อปลากดแก้วที่อร่อยอยู่แล้ว ทำให้อร่อยมากขึ้น ก่อนยกลงจากกระทะโรยด้วยพริกไทยอ่อน เวลากินเพียงแค่ตักเนื้อปลาชิ้นเดียวพร้อมกับเครื่องสมุนไพรต่างๆ กินกับข้าวสวยก็แทบจะหมดจานด้วยความอร่อย แค่เขียนถึงก็น้ำลายสอออกมาเชียว อาหารจานนี้ราคาจานละ 280 บาท ครับ
เมนูปลาที่หากินยากและต้องมีฝีมือจึงจะทำได้อร่อย คือ ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว รสชาติของปลาบู่นักกินปลาก็รู้กันอย่างดีว่า อร่อยมากขนาดไหน ทั้งนุ่มหวานมัน คุณปริญญาจะรับซื้อปลาจากชาวบ้านมาใส่บ่อเอาไว้ เวลาที่ลูกค้าสั่งพนักงานก็จะไปตักมาขอดเกล็ดบั้งจนถึงก้างกลาง นำไปนึ่งจนสุกพอดีเห็นเนื้อฟูขาวเชียว ราดด้วยน้ำซีอิ๊วที่ปรุงพิเศษหอมหวานพอดี ที่สำคัญคือ ไม่เค็ม อย่างที่เคยพบหลายๆ ร้าน สังเกตุดูโต๊ะที่นั่งก็สั่งปลาบู่กันแทบทุกโต๊ะ เมนูนี้คุณปริญญาขายเป็นกิโลๆ ละ 800 บาท พร้อมทำครับ อย่าได้พลาดเชียว
มาถึงดินแดนของกุ้งอย่างอยุธยาแล้วไม่สั่งกุ้งเผามากินก็ผิดไป กุ้งที่นี่เป็นกุ้งแม่น้ำแท้ๆ จากแม่น้ำน้อยที่เป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา คุณปริญญาจะมีกุ้งหลายขนาดหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่ราคากิโลกรัมละ 1,200 -1,800 บาท แม่ครัวจะนำมาเผาจนสุกพอดี กินกับน้ำจิ้มสูตรอยุธยาแท้ๆ ที่ทำจากรากผักชี กระเทียม มะนาว น้ำปลาพื้นบ้าน เนื้อของกุ้งแม่น้ำไทยแท้ๆ จะเหนียวสู้ฟัน เนื้อนุ่มหวาน ผมเลือกตักเอามันกุ้งสีเหลืองแดงมาคลุกข้าว เหยาะด้วยพริกน้ำปลาสูตรอยุธยาลงไป สั่งปลาม้า รสชาตินุ่ม หวาน หากินยากอีกเช่นกัน ทำต้มยำรสแซ่บ ซดคล่องคอก็จะเข้ากันอย่างดีครับ (ปลาม้าก็คือปลาตัวที่คุณปริญญาอุ้มถ่ายรูปครับ) กินเสร็จอิ่มอย่างอร่อยแล้วก็แทบจะไม่อยากลุกจากที่นั่งเชียว อาหารอร่อยลมเย็นสบายมากครับ
คุณปริญญาจะเคร่งครัดในเรื่องความสะอาด พิถีพิถันในด้านรสชาติอาหารและราคา จนได้รับเลือกเป็นประธานชมรมร้านอาหารจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ร้านสีกุกได้รับการรับรองคุณภาพจากทางราชการมากมาย โดยเฉพาะยังได้เครื่องหมาย SHA ของการท่องเที่ยวอีกด้วย พนักงานภายในร้านซึ่งเป็นคนไทยแท้ๆ ทุกคน รวมทั้งนักเรียนตามโรงเรียนละแวกใกล้ๆ ร้าน ที่มาช่วยเสิร์ฟเพื่อหารายได้พิเศษ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กันทุกคนครับ
ชื่อร้าน สีกุก
เจ้าของ คุณปริญญา ธรรมรักษ์
สถานที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร้านตั้งอยู่ที่ถนนสายอยุธยา-เสนา เริ่มจากถนนบางบัวทอง-บางปะหัน ไปจนถึงสี่แยกวราชษฐ เลี้ยวไปทางอำเภอเสนาประมาณ 9 ก.ม.จะพบร้านอยู่เชิงสะพานข้ามคลองชลประทานด้านซ้ายมือ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. โทรศัพท์ 08-1851-9953, 08-9830-0175
