ทำไม “จาตุรนต์” กับแก๊งโหน “ก่อการ ๒๔๗๕” จึงเร่งให้โรงรียน “เปิดเทอม” เร็วๆ?
บางคนอาจสงสัย……..
ก็ในเมื่อรัฐบาลประกาศแล้ว เพื่อป้องกันโควิดแพร่เชื้อ ให้เลื่อนจากกลางพฤษภา.ไปเปิดเทอมวันที่ ๑ กรกฏา.แล้วทำไมจึงคลั่ง เร่งให้เปิดยิกๆ?
ห่วงเด็กเรียนไม่ทัน หรือพ่อ-แม่ห่วงตัวเอง?
หรือ ห่วงแผน “ก่อการ ๒๕๖๓”…….
ที่อาศัยเด็กเป็นตัว “จุดปะทุ” หวังเป็นเงื่อนไขปลุกระดมโคส้ม-โคแดง ออกมาจลาจลเผาบ้าน-เผาเมืองอย่างฮ่องกง เป็น ๒๕๕๓/๒ จะไม่เป็นไปตามแผน?
อันนี้ก็ไม่รู้นะ ……..
ก็ตั้งตุ๊กตาในมุมคิดไปเรื่อยๆ เพราะมองไม่ออกจริงๆ ว่าทำไม แก๊งโหนก่อการ ๒๔๗๕ จึงหยิบประเด็นเปิดเทอมช้า-เร็ว ขึ้นมาอัดรัฐบาลผิดสังเกต
ถึงขั้น “นายจาตุรนต์”………
ซึ่งปกติจะให้ราคาตัวเองเป็นหลี่กงกงชักม่าน-ชักใยอยู่ข้างหลัง ต้องแบกป้ายอดีตรัฐมนตรีศึกษาอันไร้ราคา ยุคยิ่งลักษณ์ ออกมาเล่นเองหน้าฉาก
แสดงว่า การเลื่อนเปิดเทอม จากเดิมที่คาดว่า น่าจะเปิดมิถุนา.เลื่อนไป ๑ กรกฏา.ต้องมีนัยสำคัญแฝงอยู่แน่
ไม่งั้น แก๊งโหน ๒๔๗๕ ไม่ถึงต้อง “ออกอาการ” จนพิรุธชัดปานนี้!
ฉะนั้น…….
ลองมาไล่เลียงกันดู ว่าเพราะอะไร “ไพร่ส้ม-ไพร่แดง” จึงพล่านนัก ช่วงนี้?
จะเห็นว่า ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ หลังอนาคตใหม่ถูกยุบ มีสภาพไม่ต่าง “สัมภเวสี” ร่อนเร่อยู่นอกสายสิญจน์
เสื่อมไปจากความคลั่ง-ความศรัทธาแฟนๆ ด้วยอัตราความเร็วเร่ง ระดับสุนัขยกขาเยี่ยว!
การปลุกประเด็น จุดกระแสใดๆ ทางโซเชียล ที่เคยฮ็อต ติดแฮชแท็กเป็นล้าน
ตอนนี้ ๓ มะกอก ยังสู้ ๑ สิตางค์ ติ๊กต๊อก ไม่ได้เลย!
ทอนยิงออกมาแต่ละมุก หวังโชว์วิสัยทัศน์คนรุ่นใหม่ ก็ถูกชาวโซชียลจับได้ ไปลอกเขามา ก็อปปี้เขามา เป็นคน-เสียหมา ถึงขนาดนั้น
เรียกว่า ที่จะโชว์ความเป็น “รุ่นใหม่-คิดนำ” ให้แฟนๆ ซูฮกยกนิ้วว่า คิดเหนือ-ทำเหนือ “นายกฯประยุทธ์” ทุกช็อต
กลายเป็น”ไฟช็อต” ตัวเอง ตาเหลือก-ตาพอง!……
เอาแค่ล่าสุด เห็นรัฐบาลแจกคนด้อยโอกาส คนตกงานคนละ ๕,๐๐๐ บาท
เอามั่ง…ช้างขี้ กูจะโก่งตูดขี้แข่งช้าง หวังเกทับ-บลัฟแหลกนายกฯ!
ไลฟ์สด ประกาศแจก ๓,๐๐๐ บาททุกคน ตัวเองรวยเป็นพัน-เป็นหมื่นล้าน จะเกไพ่นายกฯ ทั้งที แทนที่จะควักเอง กลับประกาศระดมทุน
โธ่…โธ่….(ไอ้) เวร หลอกให้สาวกที่งมงายควักเงินไปให้แจกเอาหน้า-เอาชื่อเอง
ได้ไป ๗ ล้านกว่า เงินมาตาโต ช่อกับทอนก็ทำพาโลกันเอง ตกลงแจก-ไม่แจกกันยังไง เงิน ๗ ล้านกว่าอยู่ที่ไหน ถึงวันนี้ ยังไม่มีคำตอบ!?
จากเฟกนิวส์ เป็นเฟกสามมะกอก
เมื่อฮือฮา ถามไถ่กันมาก ก็ยิงแสงเลเซอร์ “ตามหาความจริง” เบี่ยงกระแสกลบไส้ตัวเองที่กำลังถูกลาก
แต่เบี่ยงไม่พ้น ถูกลากจนได้ ด้วยชนชาวโซเลียล ทั้งขุด-ทั้งลากที่ทอนตามหา กี่ขดๆ ลากออกมากองให้เห็นเต็มหมด
ว่าเมื่อ ปี ๒๕๕๓ เผาบ้าน-เผาเมือง-ฆ่าทหาร ที่ตามหา
ก็ทอนด้วยไง……..
ร่วมจลาจล ใส่เสื้อแดง สั่นกระดิ่ง จนถูกยิงแอ้งแม้ง ร้อง โอย..โอย..กูถูกกระสุนยาง!
ทอน-ช่อ-ปิยบุตร มันหมดรูป หมดพรรค หมดราคา สู้หมาอย่าง “เตี้ย มช.” ตัวเดียวก็ยังไม่ได้
สถาปนาเป็นแก๊งก้าวหน้า แต่วันๆ ทั้งพูด-คิด-ทำ มีแต่ “ก้าวหลัง” อิงก่อการ ๒๔๗๕ มาหากินตะพึด-ตะพือ
“ซากเก่า” ในคราบใหม่ “ก้าวไกล” ก็ไม่ได้ไกลไปไหน ไกลวนอยู่ใกล้ๆ “วิปริต” กับ “วิปลาส”!
พูดกันตรงๆ……
ท่านอาจารย์ปรีดี “คณะราษฏร” นำเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขในรัฐธรรมนูญ เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ นั้น
ในส่วนดี ที่ก่อเกิดคุณูปการก็มาก
ในส่วนไม่ดี ก็มีปะปนเป็นธรรมดา
แต่นั่น….
ทั้งดี-ไม่ดี เป็นอดีตที่ไม่ย้อนกลับ อดีตควรใช้เพื่อการเรียนรู้-แก้ไข ดีรักษาไว้ ไม่ดีอย่านำมาเป็นครรลอง
ประเด็นสำคัญ
ไม่ควรยกเรื่องอดีตมาในเชิงเป็นไฟ พลิกแพลงใช้ เพื่อเผาบ้าน-เผาเมือง ด้วยจิตจัณฑาลแห่งตน!
สรุปคร่าวๆ……
มันไปต่อไม่ได้แล้ว สำหรับ เหิมเกริม-อหังการ แบบชั่วช้า-จัณฑาล เช่นที่ พยายามโหน “อภิวัฒน์ ๒๔๗๕”
ปลุกปั่นให้ผู้คน “เกลียดบ้าน-ชังสถาบัน” ชักนำสู่รูปแบบอย่างในฮ่องกง ภายใต้คอนโทรลสหรัฐฯ ดังเห็นนั้น
อย่าทำต่อนะ นี่เตือนแบบซีเรียส!
ถ้ายังขืนทำ ด้วยชั่วช้า-โมหะ ไม่มีใครทำอะไรพวกจัณฑาลทอนหรอก แต่สิ่งที่พวกตัวทำนั่นแหละ
มันจะย้อนมาทำเอง เพราะที่นี่ คือ “ประเทศไทย” ผมบอกได้เท่านี้ ความจริง อยากบอกทั้งหมด แต่ได้รับสิทธิ์เพื่อบอกแค่นี้
นายกฯ ประยุทธ์น่ะ….
ใครก็ไม่ต้องไม่อิจฉา ไม่ต้องไปโค่นล้มท่านหรอก!
ท่านเป็นบุรุษผู้มาตามกาลเวลา
และก็จะไปตามกาลเวลา
ตัณหา เพื่อรวย เพื่อโลภ เพื่ออำนาจ-วาสนา เพื่อความยิ่งใหญ่ ไม่ต้องไประแวงบุรุษผู้นี้
ในจักรวาล ทุกอย่างล้วนกำหนดไว้แล้ว ไม่มีอะไรเกิดโดยบังเอิญ มาโดยบังเอิญ ไปโดยบังเอิญ และแตกดับโดยบังเอิญ
เพราะจักรวาลนั้น………
คำเต็มคือ “จักรวาลกรรม”!
มันยังเหลือ “ค้างคา” สิ่งเดียวที่พวกโหนก่อการ ๒๔๗๕ ผูกใจหวังใช้จุดไฟเอาเมืองรอบใหม่ให้สำเร็จจงได้
แต่มันจะเป็นด้ายสานฝัน หรือเป็นด้ายสายสิญจน์จูงศพสู่เชิงตะกอน ไม่ช้าก็รู้!
ภาคประชาชนทั่วไป แก๊งโหนก่อการ ๒๔๗๕ หวังยากแล้ว
ก็เหลือภาค “นักวิชากวน” ในรั้วมหา’ลัยและตัวแกนคราบนิสิต-นักศึกษาภายใต้กำกับบทเคลื่อนไหวจากอาจารย์-นักการเมืองก๊วนหนึ่ง
แก๊งรั้วมหา’ลัยนี้ เป็น “ขุมกำลัง” แก๊งเดียวที่ยังเหลืออยู่ และแก๊งโหนก่อการ ๒๔๗๕ หวังเอามากๆ ที่จะใช้ในปฏิบัติการลงถนน “โค่นล้ม” รัฐบาลพลเอกประยุทธ์
“แฟลชม็อบ”…….
หรือยุทธการเห่ากระชากโซ่ในรั้ว เขาประเมินว่า กำลังจุดติด แต่บังเอิญโควิดมาซะก่อน
การชุมนุมสุมฟืน เพาะขุมกำลังนิสิต-นักศึกษา-นักเรียน กำลังเดินหน้า ฮือฮาทั่วโซเซียล ต้องชะงัก
แม้กระทั่งในสภา สส.ยังปิดไฟ เปิดมือถือทำแฟลชม็อบ!
เขาก็หวังว่า ๒๒ พฤษภา.เปิดสมัยประชุม เป็นจังหวะเครือข่ายขบวนการฝ่ายการเมือง เคลื่อนไหวในระบบได้แล้ว
การสัมพันธ์สั่นคลอนบ้านเมือง “ตีพร้อมกัน” ทั้งจากในและนอกสภา จึงน่าจะถูกกำหนดเป็น “แผนปฏิบัติการ” เพื่อลงมือช่วง มิถุนา-กรกฏา-สิงหา-กันยา.
หวังลากรัฐบาล-กองทัพ-มวลชน และภาคนักศึกษา ออกมาเผชิญหน้ากันในท้องถนนให้จงได้!
แล้วภาคการเมืองแดง-ส้ม คอยผสมโรง และฉวยโอกาสตามสถานการพลิกผัน!
ก็ ๒๒ พค.เปิดสภา เท่ากับแก๊งโหนก่อการ ๒๔๗๕ และแก๊งก่อการเผาเมือง ๒๕๕๓ พร้อมในแนวรบ
ก็รอ กองกำลังแฟลชม็อบในคราบนิสิต-นักศึกษา-นักวิชากวนและนักเรียน นี่แหละ
ตามแผน คิดว่า มิถุนา.น่าจะเปิดเทอม ขุมข่ายที่ครู-อาจารย์ชักใยนักเรียนไว้ ก็พร้อมประสานแผนเคลื่อนไหว
แต่เมื่อประกาศเลื่อนไปเปิดเทอมกรกฏา.
ทำให้ “ผิดแผน” อย่างแรง!
ในเมื่อ นิสิต-นักศึกษา-นักเรียน ระดมพลเพื่อชุมนุมแฟลชม็อบในที่ตั้งไม่พร้อม กระบวนทัพตีเมืองก็เสีย
รบ “ปีกเดียว” ในสภา ไม่มีปีกนิสิต-นักศึกษา-นักเรียน ที่มีครู-อาจารย์ประสานแผนชักใย
การปลุกมวลชนลงถนน มันก็แป้ก!
จำกันได้มั้ย “หม่อมเหลือก” เขย่าขวดเร่งเปิดเทอมทุกวัน
พร้อมๆ กันนั้น พวกแก๊งแฟลชม็อบ ก็ออกแถลงการณ์ตั้งเครือข่าย นักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชน เพื่อประชาธิปไตย (คนป.)
จากทุกภาคส่วน ร่วมกันเป็นเครือข่าย เป้าหมายทุกมหา’ลัย ทุกโรงเรียน เคลื่อนไหวพร้อมกันในแนวทางเดียวกัน
ทุกวันนี้ เขาลงไปเล่นระดับนักเรียนประถม-มัธยมแล้ว ไม่แค่เพียงระดับมหา’ลัยเท่านั้น
เพราะอะไร เพราะมีรัฐมนตรีศึกษาสมัยหนึ่ง บ่มเพาะครู-อาจารย์พวกเขาฝังตัวไว้ เรียกว่าซื้อหวยอนาคตร่วมกันไว้ตลอดมา
จึงไม่ต้องแปลกใจ ทำไมหมู่นี้จึงเกิดปฏิกริยาเร่งเร้าเปิดเทอม ขนาดโรงเรียนเตรียมฯ ยังมีบางอาจารย์เอากะเขา ถึงขั้นเคยจัดฉากให้ถ่ายรูปนักเรียนที่ไม่รู้เเรื่องด้วยไปตีขลุม
เรื่องเฟกนี่……
นักการเมืองบางคน ตั้งแต่พ่อยันลูก “เฟกทั้งโคตร” บอกไม่เชื่อ!
LineID:plewseengern.com