เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.00 น. นายอนุชานาคาศัยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนรัฐบาลเดินทางไปยังห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักงานกพ. (เดิม) เพื่อพบปะผู้แทนเครือข่ายภาคประชาชน 5 ภาคและสภาองค์กรชุมชนจำนวน 15 คน
นำโดยนายไมตรีกงไกจักรได้นำข้อเสนอเพื่อการพัฒนาสังคมการเมืองเศรษฐกิจและความมั่นคงของมนุษย์แนวใหม่มามอบให้รัฐบาลพร้อมหารือแนวทางการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ
โดยมีนายเสกสกลอัตถาวงศ์ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีนายชนะศักดิ์อัตถาวงศ์ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนายธีรภัทรประยูรสิทธิปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนางสุขสมรวยวันทนียกุลเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายกันตพงศ์รังษีสว่างผู้ตรวจราชการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าร่วม
ผู้แทนเครือข่ายภาคประชาชน 5 ภาค ได้เสนอเสนอแนวทางเพื่อการพัฒนาสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงของมนุษย์แนวใหม่ 5 มิติ ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า และเหมาะสมกับยุคสมัย
โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต่อการดำเนินงานแก้ปัญหาและขับเคลื่อนนโยบายด้านต่างๆ พร้อมขอให้รัฐบาลสร้างระบบเศรษฐกิจเกื้อกูล ที่ต้องกระจายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำ และเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรม และสร้างระบบประชาธิปไตยที่มั่นคง เป็นต้น
นอกจากนี้ เครือข่ายภาคประชาชนได้เสนอแนวทางในการจัดสรรงบประมาณการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งภาคประชาชนมองว่าการจัดสรรงบดังกล่าวไม่ถึงประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ควรให้หน่วยงานหลักที่ใกล้ชิดประชาชน
เช่น พอช. เข้ามาทำหน้าที่ในการกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชน และขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาและกำหนดแนวทางการพัฒนาสังคม 5 ภูมิภาค โดยมีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เพื่อให้ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและโดยเร็ว
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเครือข่ายภาคประชาชน 5 ภาค ที่ได้นำเสนอแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชนในระดับพื้นที่ ยืนยันรัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกระดับ และคำนึงถึงการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่เป็นสำคัญ
โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่เป็นพลังซื้อหลักของประเทศ พร้อมกล่าวให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะนำแนวทางนี้ไปพิจารณาประกอบในการแก้ไขปัญหาของประเทศในอนาคตต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น