ปั้นอนุบาลสามนิ้ว-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรทีเดียว
หลังจากลุ้นมาหลายวัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ ต่ำกว่าหลักหมื่นเป็นวันแรกนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
๙,๔๘๙ ราย ของวานนี้ (๒๘ กันยายน) ก็อาจจะแกว่ง ขึ้น-ลงอยู่ที่หลักหมื่นต้นๆ เก้าพันปลายๆ อีกสักพัก ก่อนจะค่อยๆ ลดลงอีก
นี่คือตัวเลขในวันที่ประเทศไทยคลายล็อกดาวน์
วานซืนคนไทยฉีดวัคซีนสะสมไปแล้วกว่า ๕๐ ล้านโดส มาวานนี้ ขยับขึ้นไปร่วม ๕๒ ล้านโดส นับเป็นอัตราเร่งที่เร็วมาก
ครับ…โควิดขาลงยังต้องติดตามกันต่อไป

    วันนี้ตั้งใจจะคุยเรื่อง หนังสือปั้นอนุบาลสามนิ้ว เพราะดูเป็นข่าวใหญ่โต ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการสั่งให้ตรวจสอบ

    ประเด็นคือ มีการผลิตหนังสือนิทานสำหรับเด็ก คล้ายตำราเรียน นำออกมาจัดจำหน่ายให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ ๕ ขวบขึ้นไป
ก็น่าจะเป็นชั้นอนุบาล

    หนังสือที่ว่านี้ กระทรวงศึกษาธิการยืนยันว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายบิดเบือน ปลุกปั่น สร้างความเกลียดชัง และครอบงำความคิดเด็ก
โดยเฉพาะกับเด็กที่ยังไม่สามารถแยกแยะข้อเท็จจริงต่างๆ ได้ อันจะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาในหลายๆ ด้าน
จริงหรือไม่ ลองไปดูเนื้อหากัน

    ต้นเรื่องอยู่ในเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “วาดหวังหนังสือ”
เป็นที่ชุมนุมของขบวนการสามนิ้ว กลุ่มหัวเอียงซ้าย กลุ่มรักทักษิณ คละเคล้ากันไป

    การเตรียมทำหนังสือน่าจะเริ่มมาพักใหญ่แล้ว และเริ่มขายกันจริงๆ จังๆ น่าจะต้นเดือนสิงหาคม
๑๗ กันยายน มีการแนะนำหนังสืออย่างเป็นทางการในเพจ “วาดหวังหนังสือ” ระบุว่าครั้งแรกในไทย นิทานแนวใหม่ เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี หนังสือที่ชวนให้คิดคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ รู้รับทราบความเป็นไป และใฝ่ฝันถึงสิ่งที่ดีกว่า

    เหมาะกับวัย ๕ ขวบ-๑๑๒ ปี
ภาพสวยงาม เปี่ยมความหมาย
พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตการ์ดอย่างดี
๒๔ หน้า, ขนาด ๑๙x๒๓ ซม.

    ศิลปกรรม รูปเล่ม : เกี่ยวก้อยสตูดิโอ
๘ เล่ม ๗๐๐ บาท

    ชุดต้นกล้า ๔ เล่ม
๑.เป็ดน้อย
ภาพ : สะอาด, เรื่อง : สองขา

    ๒.สิบราษฎร
โดย : The Art District’86

    ๓.แค็ก! แค็ก! มังกรไฟ
ภาพ : Viwenny, เรื่อง : หนูหริ่ง

    ๔.ตัวไหนไม่มีหัว
ภาพ : พรพิมล วงศ์ศิริทรัพย์, เรื่อง : สองขา

    ชุดฟ้าใหม่ ๔ เล่ม
๑.เสียงร้องของผองนก
ภาพ : ทวีวัฒน์ โพธิรัชต์, เรื่อง : สองขา

    ๒.เด็กๆ มีความฝัน
ภาพ : Mimininii, เรื่อง : สองขา

    ๓.จ จิตร ชีวิตอัจฉริยะไทยผู้ใฝ่เรียนรู้ จิตร ภูมิศักดิ์
ภาพ : faan.peeti, เรื่อง : สองขา

    ๔.แม่หมิมไปไหน?
ภาพ : เพชรลัดดา แก้วจีน
เรื่อง : อินทิรา เจริญปุระ

    เล่มที่วิจารณ์กันมากคือ แม่หมิมไปไหน?
เนื้อหา ใช้แม้วเล่าเรื่อง พูดถึงการชุมนุมของสามนิ้ว มีรูปวาด เพนกวิน รุ้ง อานนท์ ฯลฯ
และ ทราย เจริญปุระ มีสถานะเป็นแม่ยกม็อบสามนิ้่ว

    คำถามคือ นี่คือสิ่งที่ควรนำไปใส่ในสมองเด็กหรือไม่?
ฟังดูเหมือนจะยุยงส่งเสริมกันเยอะ

    ขนาด “อังคณา นีละไพจิตร” ดีกรีอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยังร้อนรนแสดงท่าทีผ่านเฟซบุ๊ก
“…อันที่จริง นิทานเด็ก ชุดวาดหวัง เป็นเพียงการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมให้เด็กเล็กสามารถเข้าใจได้ง่าย ผ่านภาพการ์ตูน

    ไม่ใช่การปลุกระดมให้เด็กฟันน้ำนมลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐ-รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีช่วยศึกษาจึงควรเปิดใจกว้างยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช่พยายามจำกัดการรับรู้ หรือปิดบังความจริงที่เกิดขึ้นในสังคม

    การพยายามนิยามคนดีในสายตารัฐ โดยผลักคนเห็นต่างให้เป็นคนไม่ดีที่ต้องกำจัดให้หมดไป ถือเป็นเผด็จการทางความคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคที่การศึกษาเรียนรู้ไร้พรมแดนและไม่มีขีดจำกัดดังเช่นทุกวันนี้ … เหมือนที่หลายคนในโซเชียลวิจารณ์เรื่องนี้ว่า  #จะเสือกอะไร…”

    ทาง “วาดหวังหนังสือ” ก็ออกตัวเรื่องนี้ครับ
“…ครั้งหนึ่ง เคยมีคนบอกเราว่า
หนังสือเด็กไม่ควรยุ่งเรื่องการเมือง

    หนังสือเด็กควรเล่าแต่เรื่องสวยงาม จรรโลงใจ
เพราะเด็กยังไร้เดียงสา
อย่าเอาความคิดการเมืองไปครอบเด็ก

    เราฟังๆ ดูตอนนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เอ… ทำไมถึงห้ามพูดเรื่องการเมืองกับเด็ก?
ห้ามเด็กอ่านหรือเขียน หรือแสดงความเห็นเรื่องการเมือง

    และยิ่งไปกว่านั้น เราจะกีดกันเด็กไม่ให้รู้ข่าวสารเรื่องการเมืองได้จริงๆ หรือ? ในเมื่อการเมืองส่งผลต่อชีวิตปัจจุบันของทุกๆ คน ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ทั้งเรื่องการศึกษา สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ความมั่นคงทางชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัวของเด็กๆ ก็ล้วนเกี่ยวข้อง และได้รับผลกระทบจากการเมืองทั้งนั้น…”

    ครับ…ผู้ใหญ่ก็คงต้องมาคุยกันว่าเอาการเมืองไปใส่ในสมองเด็กอนุบาล เป็นการละเมิดเด็กหรือไม่
อย่าลืมนะครับผู้ใหญ่เองยังมีความเห็นทางการเมืองไม่เหมือนกัน
และขณะนี้ผู้ใหญ่ แตกเป็นขั้วเป็นสี เข้าใจการเมืองคนละแบบ

    ครั้งหนึ่งในการชุมนุมของ กปปส. ปรากฏภาพเด็กอยู่ในพื้นที่ชุมนุม โดยผู้ปกครองพาไป สื่อหลักของประเทศไทยที่สนับสนุนระบอบทักษิณ พากันโต้แย้งว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควร

    มีการสัมภาษณ์ แพทย์จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ เนื้อหาตามนี้

    “…การนำเด็กไปเข้าร่วมชุมนุมเป็นการนำเด็กเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีบรรยากาศของการใช้เสียง วาจา สีหน้าที่สื่อถึงความเกลียดชัง เด็กต่ำกว่า ๗ ขวบ ยังไม่สามารถเข้าใจเหตุผลได้ดี แม้แต่เด็กอายุ ๑๒-๑๓ ปี ก็ยังขาดประสบการณ์ในการวิเคราะห์คัดกรอง

    ดังนั้นเด็กมีสิทธิ์รับ “สาร” ของการจงเกลียดจงชัง การจ้องทำลายล้าง ฯลฯ และ “สาร” นั้นย่อมมีผลต่อวิธีคิด บุคลิกภาพของเด็กต่อไป จึงขอวิงวอนไม่พาเด็กเข้าร่วมหรือไปอยู่ในสถานที่ใกล้การชุมนุมทางการเมืองเด็ดขาด….”

    เท่านั้นไม่พอ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก สำทับว่า “…การนำเด็กเข้าร่วมชุมนุมทำให้พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างปกติตามช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า ๘ ขวบ ไม่ควรเข้าไปชุมนุมเด็ดขาด เพราะเมื่อพ่อแม่เข้าร่วมชุมนุม สติสัมปชัญญะจะอยู่ที่เวที โอกาสที่เด็กจะรอดหูรอดตานั้นสูงมาก เสี่ยงต่อการพลัดหลง

    นอกจากนี้ยังจะทำให้เด็กซึมซับความรุนแรงจากเนื้อหาการปราศรัย และไม่ควรนำเด็กมาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ควรพูดคุยกันมากกว่า…”

    วันนี้แทนที่จะพาเด็กไปร่วมชุมนุม มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นเยอะครับ ทำเป็นหนังสือภาพให้เด็กอนุบาลได้ดูได้อ่านกันถึงบ้านเลย

    ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้ง ๒ ฝ่าย ถกเถียงเรื่องการเมืองที่เห็นไม่ตรงกัน ผู้ใหญ่อีกฝ่ายทุบโต๊ะว่าเด็กๆ ตัวเล็กๆ เช็ดขี้เองยังไม่ได้ กินข้าวยังต้องป้อน จะต้องมีสิทธิ์รับรู้เรื่องการเมืองด้วยเพื่ออนาคตของเขาด้วย

    ครับ…จบสั้นๆ…ระยำ.

Written By
More from pp
“นฤมล” เผย บริษัท China Chengtong International Investment บริษัทในสังกัดสำนักงบประมาณแผ่นดิน ของจีน สนใจลงทุนผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแบบครบวงจร และสนใจลงทุนสร้างโรงงานน้ำตาลในไทย
ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย หารือนาย Karl Liu กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริษัท China Chengtong International Investment ณ...
Read More
0 replies on “ปั้นอนุบาลสามนิ้ว-ผักกาดหอม”