มาสด้า CX-5 ต้นกำเนิดเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่คนไทยและคนทั่วโลกยอมรับ จากพละกำลังดุจเสือชีตาห์สู่ความเรียบหรูสง่างามดุจผลงานศิลปะชิ้นเอกสไตล์ญี่ปุ่น

14 กันยายน 2564 – รถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 เจเนอเรชั่นแรก เผยโฉมสู่สาธารณชนครั้งแรกของโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ณ ประเทศญี่ปุ่น ทั่วโลกต่างตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดมาสด้าจึงเริ่มต้นการพัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ใหม่ทั้งหมดลงไปยังรถอเนกประสงค์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเซ็กเมนต์เล็กๆ แต่ในทางตรงกันข้ามมาสด้ากลับมองถึงโอกาสในอนาคตที่ต้องการสร้างความแตกต่าง กล้าที่ฉีกจะออกจากกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ ที่สำคัญคือต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์มากขึ้น วันนี้สิ่งที่มาสด้าเล็งเห็นและลงมือบุกเบิกนั้นได้ส่งผลลัพธ์ต่อผู้บริโภคให้หันมานิยมรถอเนกประสงค์เอสยูวีมากขึ้นจนถึงปัจจุบันอย่างชัดเจน

จากวันนั้นถึงวันนี้ การมุ่งพัฒนาครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบจาก “โคโดะ ดีไซน์” Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว เกิดจากการแสดงออกถึงความแข็งแกร่งมีพลังและความคล่องแคล่วปราดเปรียวของเสือซีต้าห์ที่กำลังตระคุบเหยื่อซึ่งเป็นทวงท่าที่สง่างาม นั่นคือแรงบันดาลใจของการออกแบบ รวมถึงความยอดเยี่ยมในทุกมิติ

จึงได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากลูกค้าทั่วโลกภายในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น และรางวัลอันทรงเกียรติจากทั่วทุกมุมโลกมาครองได้มากมาย เดือนพฤศจิกายน 2556 คือการเดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ CX-5 เจเนอเรชั่นแรก พร้อมสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วเพียง 4 ปี มียอดขายสูงถึง 17,000 คัน

ถัดมาเดือนพฤศจิกายน 2560 คือการเดินทางมาของเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งแน่นอนว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกัน กลายเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดของมาสด้า จนถึงปัจจุบันขายไปแล้วกว่า 15,000 คัน ที่สำคัญนอกจากในประเทศไทยแล้ว ลูกค้าทั่วโลกต่างให้การยอมรับสูงสุดเช่นเดียวกัน และมียอดขายสะสมมากกว่า 8 ล้านคัน

อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้มาสด้า CX-5 ประสบความสำเร็จมากมายเช่นนี้ แน่นอนว่า เกิดจากการนำเอาความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ที่มาสด้าคิดค้นขึ้น เพื่อพัฒนาสมรรถนะของรถและเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังแรงแต่ประหยัดน้ำมัน มาผนวกเข้ากับการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง และแชสซี ไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกส่วนทำงานประสานสอดคล้องกันและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

พร้อมกับการศึกษาเชิงสรีระ และธรรมชาติการเดินของมนุษย์มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถที่สมบูรณ์แบบ และมอบความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่สร้างชื่อให้มาสด้า CX-5 ประกอบด้วยหัวใจหลักสำคัญดังต่อไปนี้

  1. จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม่เหล็กสำคัญที่ดึงผู้บริโภคให้เข้าหามาสด้า คือ การนำเอาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาใส่ไว้ในรถยนต์ทุกรุ่นในเจเนอเรชั่นที่ 6 ควบคู่ไปกับการนำแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า “โคโดะ ดีไซน์” (KODO Design) มาใช้ตั้งแต่ปี 2556 จนทำให้รถยนต์ของมาสด้าได้รับเสียงตอบรับอย่างดียิ่ง ทำให้มาสด้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมืองไทยและอาเซียนได้อย่างน่าสนใจ

ต่อมามาสด้าได้นำเสนอธีมการออกแบบใหม่ล่าสุด คือ การสร้างเอกลักษณ์แบบเรียบหรูสง่างาม ELEGANCE เพื่อแสดงถึงคุณค่าแห่งสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น หรือความงดงามที่ละเอียดอ่อน หรูหรา สมบูรณ์แบบ ลดทอนองค์ประกอบที่มากเกินไปคงเหลือไว้แต่สิ่งที่สำคัญ ตามคอนเซ็ปต์ Less is more ซึ่งเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่น เพื่อแสดงออกถึงความสง่าผ่าเผย มีเสน่ห์ดึงดูดใจ จนกลายเป็นภาพลักษณ์ยุคใหม่ของมาสด้า

  1. เครื่องยนต์ SKYACTIV ENGINE มาสด้าเป็นค่ายแรกที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกมากที่สุดถึง 3 เครื่องยนต์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นนอกจากเหนือจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถสไตล์เอสยูวี ขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงและการตอบสนองได้ดั่งใจ ประกอบด้วย
  • SKYACTIV-G 2.5T เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน เทอร์โบ5 ให้กำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน นับเป็นอีกก้าวของความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ
  • SKYACTIV-G 2.0 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน0 เป็นนวัตกรรมของมาสด้าที่ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 14.0:1 ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นจากการทำงานของระบบ Direct Injection Spark Ignitions ที่เพิ่มประสิทธิภาพของส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศจนได้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ให้พละกำลังแรงถึง 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 13.9 กม./ลิตร
  • SKYACTIV-D 2.2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลขนาด 2.2 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบ 2 ขั้น ให้พละกำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 2 กม./ลิตร ได้รับการยกระดับเทคโนโลยี เช่น หัวฉีดแบบหลายรู ช่วยให้ฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ ลูกสูบเป็นร่องรูปไข่ที่ช่วยรักษาสภาวะการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ให้อัตราส่วนกำลังอัดต่ำสุดเพียง 14.4:1 มีน้ำหนักเบาและทนทานสูง ได้รับการพัฒนาให้ตัวรถมีน้ำหนักลดลงถึง 10% ปล่อยค่าไอเสีย CO2 ลดลงถึง 20% และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  1. เกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE แบบ 6 สปีด ถูกออกแบบเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้วยการรวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน ให้การตอบสนองได้อย่างแม่นยํา การเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลแรงบิดสูง ขณะออกตัวแรงเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว และเร่งแซงได้อย่างนุ่มนวล
  2. โครงสร้างตัวถัง SKYACTIV BODY ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง (High Tensile Steel) น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง และทนต่อแรงบิดมากขึ้น มีความปลอดภัยขั้นสูงสุดหากเกิดการชนปะทะ ให้การควบคุมรถที่มั่นคงช่วยลดแรงสะเทือนจากถนนและกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงช่วยประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
  3. ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว SKYACTIV-CHASSIS เทคโนโลยีช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวเจเนอเรชั่นใหม่ที่พัฒนาให้มีน้ำหนักลดลง แต่ให้ความแข็งแกร่งและคล่องตัว ให้การควบคุมที่ดีในทุกช่วงความเร็ว ด้วยระบบบังคับเลี้ยวเจเนอเรชั่นใหม่ด้วยพลังงานไฟฟ้าช่วยให้ควบคุมได้ดั่งใจ รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และรักษาสเถียรภาพในการทรงตัวได้อย่างเหนือชั้น รวมถึงช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แบบ Jinba-ittai ที่ผสานความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถได้ดียิ่งขึ้น
  4. ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) มาสด้า CX-5 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด G-Vectoring Control Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่พัฒนาต่อจากระบบ GVC ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะการเข้าโค้งและสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
  5. ระบบ i-ACTIVSENSE ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยระดับโลก ความปลอดภัยเชิงป้องกัน Mazda Proactive Safety เป็นวิธีการอันเข้มข้นในการเพิ่มสภาวะที่ผู้ขับขี่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยให้ได้มากที่สุดและมั่นใจยิ่งขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสุขในการขับขี่ที่แท้จริงสำหรับลูกค้าทุกคน ฟังก์ชั่นและคุณลักษณะความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุที่เพิ่มขึ้นใหม่ ทำให้เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของมาสด้าช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อน และลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บ รวมถึงการเริ่มนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อสนับสนุนการรับรู้และการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
  6. KODO design ความสวยงามอันละเอียดอ่อนที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอันประณีต การพัฒนา CX-5 มุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นอารมณ์และความมีชีวิตชีวาอันทรงพลังภายใต้แนวคิด “Kodo design” Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว มาต่อยอดไปสู่ระดับที่สูงขึ้นด้วยการสร้างความรู้สึกถึงความงามอย่างสดชื่นที่ดึงดูดความรู้สึกอ่อนไหว ด้วยความมุ่งมั่นในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่บรรจงสรรสร้างขึ้น ทีมออกแบบมุ่งเน้นไปที่สุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายปราศจากชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นเฉกเช่นเดียวกับที่ใช้ในงานหัตถกรรมสไตล์ญี่ปุ่น โดยนำแนวคิด “ความแข็งแกร่งอันประณีต” มาใช้เป็นแกนหลัก ได้แก่ “รูปทรงที่ใหญ่โต” “รูปแบบที่สง่างาม” และ “ความลงตัวและงานตกแต่งที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด” เป็นแกนหลักในการออกแบบภายนอกและภายใน
  7. เอกสิทธิ์เฉพาะมาสด้ากับสีแดง Soul Red Crystal มาสด้าได้สร้างสีสันของตัวถังให้สดใสและความลึกที่บริสุทธิ์ เพื่อสร้างความประทับใจเสมือนหนึ่งว่าได้ชาร์จพลังงานมาอย่างเต็มที่ด้วยสี Soul Red Crystal ด้วยความเชื่อที่ว่าสีคือองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบ มาสด้าได้พัฒนาคุณลักษณะนี้อีกครั้งเพื่อให้เห็นถึงความสวยงามและคุณภาพของรูปทรงของตัวถังตาม Kodo design ด้วยการเพิ่มระดับความสว่างและเพิ่มความลึกของสีให้ดูมีมิติมากขึ้น ใช้การเคลือบสีสามชั้น ได้แก่ ชั้นสะท้อนแสง ชั้นโปร่งแสง และเคลือบใสด้านบน เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยีการพ่นสี TAKUMINURI เพื่อให้ได้สีแดงที่สดใสขึ้น ชั้นโปร่งแสงใช้เม็ดสีที่มีความเข้มสูง พัฒนาขึ้นโดยพิจารณาถึงลักษณะทางกายภาพของแสง ชั้นสะท้อนแสงเป็นทินเนอร์และใช้เกล็ดอลูมิเนียมขนาดเล็กที่มีความสว่างสูง ตลอดจนเกล็ดที่ดูดซับแสงบนพื้นผิวของตัวถัง ผลลัพธ์ที่ได้คือการสะท้อนที่ก่อให้เกิดไฮไลท์ของแสงและเงาที่สดใสดูมีมิติ

นอกจากคุณภาพที่อัดแน่นจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นที่สนับสนุนให้ CX-5 ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่งดงาม เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก สมรรถนะการขับขี่ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร Mazda Connect ที่ช่วยให้ไม่พลาดทุกการสื่อสาร จึงทำให้ CX-5 สามารถครองใจลูกค้าจากทั่วทุกมุมทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ ตลอดจนการคว้ารางวัลการันตีความสำเร็จมาแล้วมากมายจากเวทีระดับนานาชาติรวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

มาสด้า CX-5 สร้างเกียรติประวัติไว้มากมายกว่า 90 รางวัลจากทั่วโลก อาทิเช่น

  • รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Car of The Year ประจำปี 2555 – 2556
  • รางวัล Car of the Year 2012: Crossover of the Year ประจำปี 2555 จากประเทศนิวซีแลนด์
  • รางวัล AUTOCAR ASEAN Car of the Year Awards 2012 Small/Midsize SUV (อาเซียน) ในปี 2555
  • รางวัล JNCAP Five-star award ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2556
  • IIHS Top Safety Pick+ Safety award ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2556
  • Top honors in J.D. Power APEAL Survey Compact SUV Segment ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2558
  • Top ASV + Rating in JNCAP Safety Performance Assessment ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2558
  • ได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงสุดของโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ-บอดี้ “Top Safety Pick” จากสถาบันเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของประเทศสหรัฐอมริกา Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในปี 2558
  • รางวัล National Car Clubs ประเภท Most economical medium SUV ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2559
  • รางวัลด้านความปลอดภัย มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากยุโรป หรือ Euro NCAP ในปี 2560
  • รางวัล BEST SUV UNDER 2,500 CC DIESEL จาก Thailand Car of the Year ในปี 2563
Written By
More from pp
ทดลองขับ MG Extender กระบะพันธุ์ยักษ์ กว้างเงียบนุ่มสบาย ออฟชั่นเพียบ
หลังจากที่เอ็มจี เปิดตัว MG EXTENDER อย่างยิ่งใหญ่ ตามมาด้วยยอดจองที่มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง มาวันนี้เอ็มจีได้จัดกิจกรรมเพื่อตอกย้ำความแรงต่อเนื่อง ด้วยการจัดกิจกรรมทดลองขับบนเส้นทางทั่วไทย ซึ่งผู้เขียนได้ร่วมกิจกรรมโดยเป็นเส้นทางพิษณุโลก-ลำปาง-เชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร...
Read More
0 replies on “มาสด้า CX-5 ต้นกำเนิดเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่คนไทยและคนทั่วโลกยอมรับ จากพละกำลังดุจเสือชีตาห์สู่ความเรียบหรูสง่างามดุจผลงานศิลปะชิ้นเอกสไตล์ญี่ปุ่น”