น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และการจัดการควบคุมโรคในรอบ 7 วันที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 18 ถึง 24 สิงหาคม 2564 ว่า
มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้หายป่วยแต่ละวันมีมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ทำให้ในรอบ 7 วันมีผู้หายปวยกลับบ้านได้ถึง 151,392 คนมากกว่าผู้ติดเชื้อที่มีจำนวน 135,509 คนถึง 15,883 คน (เฉลี่ยผู้หายป่วยกลับบ้านได้มากกว่าผู้ติดเชื้อวันละ 2,269 คน) อีกทั้งจำนวนยอดผู้เสียชีวิตในแต่ละวันมีแนวโน้มลดลงจาก 312 คนในวันที่ 18 ส.ค. มาที่ 226 คนในวันนี้ ซึ่งหากแนวโน้มยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะเป็นผลดีที่ช่วยแบ่งเบาภาระของระบบสาธารณสุขที่เกินกำลังลงมาได้
“ไม่เพียงแต่ความเสียสละและความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่ทำให้ผู้หายป่วยกลับบ้านมากกว่าผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง ความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคนที่เคร่งครัดมาตรการทางสังคมและมาตรการป้องกันส่วนบุคคลจนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงจากประมาณ 20,000 คนในวันที่ 18 ส.ค. ลงมาเหลือประมาณ 17,000 คนในวันนี้ จึงขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ทำให้เห็นแนวโน้มที่ดีและผลสำเร็จของความร่วมมือร่วมใจของคนไทย” น.ส. ทิพานัน กล่าว
น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากมาตรการรักษาพยาบาล มาตรการป้องกันการติดเชื้อที่เริ่มมีทิศทางแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว มาตรการเร่งฉีดวัคซีนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดการเกิดโรครุนแรง ลดอัตราการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และลดอัตราการเสียชีวิต ทั้งนี้ในส่วนการเร่งจัดหาวัคซีน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ประชุมทางไกลกับซีอีโอบริษัทแอสตร้าเซเนก้าาจนได้รับคำมั่นยืนยันว่าประเทศไทยจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าครบจำนวนตามที่สั่ง 61 ล้านโดสภายใน ธ.ค. 64 แน่นอน ซึ่งทำให้ยอดรวมของวัคซีนปี 2564 มีจำนวนมากกว่าแผนเดิมที่ 100 ล้านโดสมาอยู่ที่จำนวนกว่า 120 ล้านโดสสำหรับประชาชนไทยกว่า 60 ล้านคน
ประเทศไทยของเรากำลังเดินไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้นตัวตามสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดที่จะดีขึ้น ดังนั้นขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่เคร่งครัดมาตรการป้องกันส่วนบุคคลและมาตรการทางสังคม เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ อีกทั้งความสามัคคีและความร่วมมือร่วมใจของคนไทยจะทำให้ไทยฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่นอน
“จากการเสียสละทุ่มเทอย่างหนักตามมาตรการควบคุมโควิด-19 ของทุกฝ่าย จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวลคือนักการเมือง-กลุ่มการเมือง บางกลุ่มกลับไม่ทำตามมาตรการดังกล่าว และมีพฤติกรรมคล้ายทนเห็นความสามัคคีเกิดขึ้นในชาติไม่ได้ พยายามปั่นป่วนชาติเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก ปั่นกระแสให้เกิดความวุ่นวาย มุ่งทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมกับเอาชีวิตของประชาชนมาเป็นบันไดสู่ความสำเร็จของตนเอง พฤติกรรมเช่นนี้เป็นบ่อนทำลายชาติ ซึ่งอยากวิงวอนให้หยุดพฤติกรรมนั้นเสีย เพื่อประชาชนและชาติของเรา และหากใครที่กำลังเห็นพฤติกรรมบ่อนทำลายชาติให้พิจารณาถึงความน่าเชื่อถือและศรัทธาต่อคนนั้นด้วย” น.ส. ทิพานัน กล่าว