WHO รับรองคุณภาพ วัคซีน “ซิโนแวค” ผลการศึกษาในไทยพบฉีดครบ 2 เข็ม ป้องกันปอดอักเสบได้ 85%

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยองค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองคุณภาพวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพและปลอดภัย อนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน เพื่อต่อสู้โรคโควิด 19 ขอให้ประชาชนมั่นใจ ผลการศึกษาทางระบาดวิทยา พบว่า หากฉีดครบ 2 เข็ม สามารถป้องกันติดเชื้อโดยเฉพาะสายพันธุ์อัลฟาได้ประมาณ 90% และป้องกันปอดอักเสบได้ถึง 85% พร้อมย้ำความสำเร็จองการจัดการให้เชื้อโรคสงบโดยเร็ว คือ ต้องป้องกันร่วมทั้งวัคซีนและการตัดวงจรเชื้อด้วยการล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกัน
24 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ว่า องค์การอนามัยโลก (World Health Organization:WHO) ได้พิจารณาและให้การรับรองวัคซีนซิโนแวค-โคโรนาแวค (Sinovac-CoronaVac) ที่ผลิตโดยบริษัทซิโนแวคประเทศจีน ว่ามีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล มีความปลอดภัย มีประสิทธิผล และอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน (WHO Emergency Use Listing : EUL) เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมา

โดยแนะนำให้ใช้ในกลุ่มประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่ได้กำหนดอายุสูงสุด วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิผลในการป้องกันอาการป่วยจากเชื้อโควิดได้ 51% และป้องกันการป่วยที่รุนแรงที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ 100% เป็นวัคซีนลำดับที่ 6 ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก รองลงมาจากวัคซีนของไฟเซอร์, แอสตร้าเซนเนก้า, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดอร์นา, ซิโนฟาร์ม และซิโนแวค ตามลำดับ ซึ่งวัคซีนซิโนแวคมีข้อดี คือสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสได้

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีน จัดเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการควบคุมป้องกันโรค ประเทศไทยได้นำเข้าวัคซีนชิโนแวคโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อนำมาให้บริการประชาชนฟรีในภาวะฉุกเฉินที่เชื้อกำลังแพร่ระบาดในวงกว้าง เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 อย่างเพียงพอ หากมีการติดเชื้อ วัคซีนจะช่วยลดอาการความรุนแรงลงได้ จึงขอให้ประชาชนทั้งที่ได้ฉีดแล้ว และกำลังจะฉีด มั่นใจและคลายความวิตกกังวลในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้

“ทั้งนี้ หลังจากที่นำวัคซีนชิโนแวค มาใช้ในประเทศไทย ซึ่งในระยะแรกฉีดป้องกันโรคในกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสัมผัสเชื้อและติดเชื้อ เช่นบุคลากรทางการแพทย์หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงป่วยรุนแรงหากติดเชื้อโควิด เช่น ผู้มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่กำลังมีการระบาด เป็นต้น จากรายงานการศึกษาทางระบาดวิทยา เรื่องการประเมินประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคและความปลอดภัยของวัคซีนตามมาตรฐานของวัคซีนที่ยอมรับในระดับสากล ของคณะติดตามประสิทธิผลของวัคซีนโควิด 19 ในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต สมุทรสาคร และเชียงราย ในช่วงเดือนเมษายน 2564 – มิถุนายน 2564 ผลปรากฎว่า วัคซีนมีประสิทธิผล สามารถป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มที่เข้าร่วมการศึกษาใกล้เคียงกัน โดยที่จังหวัดภูเก็ต ได้ผลสูงถึง 90.7% สมุทรสาครได้ผล 90.5% และเชียงรายได้ผล 82.8% สามารถป้องกันปอดอักเสบซึ่งมีความรุนแรงได้ 84.9% หากฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม จะสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ คือสายพันธุ์อัลฟาได้ประมาณ 90% ป้องกันปอดอักเสบได้ 85% ซึ่งในขณะนี้พบสายพันธุ์อัลฟามีการระบาดในภาพรวมทั่วประเทศ 34% ” นายแพทย์โอกาสกล่าว


อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันโรคให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด จะต้องใช้หลายมาตรการร่วมกัน การฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เนื่องจากเชื้อโรคเป็นสิ่งมีชีวิตและมีการพัฒนาตัวเองเช่นกัน ประชาชนจะต้องยึดหลักปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายด้วยการล้างมือฟอกสบู่หรือล้างด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70% สวมหน้ากากอนามัย 100% ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกัน มั่นใจว่าหากประชาชนทุกคนร่วมมือร่วมใจยึดแนวปฏิบัติที่กล่าวมา เราจะสามารถชะลอการติดเชื้อ และควบคุมโรคได้สำเร็จโดยเร็ว ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422

Written By
More from pp
พล.อ.ประวิตร เตรียมลงพื้นที่อยุธยา ตรวจการขุดลอกคลอง เปิดทางน้ำเจ้าพระยา สู่ เปรมประชากร ให้กำลังใจ จนท. ขอบคุณ ปชช.ร่วมแรงร่วมใจ
วันที่ 19 เม.ย. 63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย.63...
Read More
0 replies on “WHO รับรองคุณภาพ วัคซีน “ซิโนแวค” ผลการศึกษาในไทยพบฉีดครบ 2 เข็ม ป้องกันปอดอักเสบได้ 85%”