ผักกาดหอม
ปิดดีลไปเรียบร้อย
ไฟเซอร์ ๒๐ ล้านโดส
ส่งมอบไตรมาส ๔ ปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม)
ต้องทำความเข้าใจกันเสียแต่เนิ่นๆ ครับ
๒๐ ล้านไม่ได้มารวดเดียว
อาจเริ่มมาเดือนตุลาคม
หรืออาจเข้ามาเดือนพฤศจิกายน
หรือธันวาคมก็เป็นได้
แต่ตามสัญญาระบุว่า ๒๐ ล้านโดสในเดือนตุลาคม-ธันวาคม
และมีแผนสั่งอีก ๕๐ ล้านโดสปีหน้า
ทั้งหมดนี้คนละล็อตกับที่จะเข้ามาช่วงสิ้นเดือน ๑.๕ ล้านโดส เป็นล็อตรับบริจาคจากอเมริกา
๑.๕ ล้านโดสที่ว่านี้ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ผู้สูงอายุ และกลุ่มอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเห็นชอบ
จะเริ่มฉีดเดือนสิงหาคม
ส่วน ๒๐ ล้านโดสคงจะฉีดให้เด็กเป็นหลัก
ย้อนกลับไปดูข่าว “หมอบุญ” พูดเรื่อง ไฟเซอร์ ๒๐ ล้านโดส ก็ถึงบางอ้อ ไม่ต่างขโมยงานคนอื่นไปแอบอ้าง เพราะดีลไฟเซอร์ มีเพียงดีลเดียวคือกับรัฐบาลไทย
สัญญาที่ ๒๐ ล้านโดสที่หมอบุญอ้างถึง ก็เป็นตัวสัญญาระหว่างไฟเซอร์กับรัฐบาลไทย เอกชนไม่เกี่ยว
ไม่ต้องมาลักไก่
แต่เชื่ออะไรมั้ยครับ แกนนำ ๓ นิ้วยกให้ “หมอบุญ” เป็นฮีโร่
แถมยังเกิดปรากฏการณ์ประหลาด
ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาล บางคนออกปากไล่ คุณหมอโอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค อย่างพร้อมเพรียง ราวกันนัดหมายกันไว้
บังเอิญอย่างเหลือเชื่อ “สิระ เจนจาคะ” ซ้อมนอนตายในโลง ให้เหตุผลฟังแล้ว นึกถึงหมอเหรียญทอง ขึ้นมาทันที
“…ภาพที่ปรากฏ คือ คนไทยจำนวนมากนอนรอความตายอยู่ที่บ้าน แม้กระทั่งยาฟาวิพิราเวียร์ก็ไม่ได้กิน เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้
จะวางเฉยไม่ได้ ในเมื่อเป็นคนที่ได้รับมอบหมายมาให้แก้ไขเรื่องนี้ ถ้าแก้ให้คนไทยไม่ได้ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขต้องสั่งเปลี่ยนตัว ให้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มาทำหน้าที่แทน
ชีวิตของคนไทยไม่สามารถอยู่ในมือคนไร้ความสามารถได้อีกต่อไป ใครที่ทำไม่ได้ ก็พิจารณาตัวเอง ลาออกไป…”
แทนที่ให้ อนุทิน รับผิดชอบ
เพราะนักการเมืองในฐานะฝ่ายนโยบาย ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนมากกว่าข้าราชการ ซึ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติตามนโยบาย
กลับให้ อนุทิน ปลดหมอ
เอาเข้าจริงถ้า “สิระ” จะไล่ต้องเล่นเบอร์ใหญ่เลย
คือไล่นายกฯ
ที่อุบาทว์กว่านี้คือ “สิระ เจนจาคะ” คือคนค้านโรงพยาบาลสนามแถวแจ้งวัฒนะของ หมอเหรียญทอง
การเมืองมันพัฒนามาถึงขั้นนี้แล้วหรือ
อีกคนคือ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ขุนพลตูดปอด พรรคเพื่อไทย
วานนี้ (๒๐ กรกฎาคม ) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์และไอซีที ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี เขาเรียกคุณหมอโอภาสไปชี้แจงเรื่องการจัดซื้อวัคซีน
ขุนพลตูดปอดเรียกร้องให้ อนุทิน ปลด คุณหมอโอภาส เหมือนกัน
“…ผมยังเรียกร้องไปยังคุณอนุทิน ให้เปลี่ยนตัวอธิบดีกรมควบคุมโรค
หากจะให้บริหารต่อไปเช่นนี้ไม่ได้ งบประมาณ ๖.๑ พันล้านบาท ไม่ใช่จำนวนน้อย และเป็นเงินกู้ด้วย
คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้กำหนดให้จัดซื้อวัคซีนที่ป้องก้นไวรัสกลายพันธุ์ แต่ก็ยังคงซื้อวัคซีนซิโนแวค ซื้อมาก็เป็นปัญหาว่าจะนำไปทิ้งที่ใด เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่น ไม่ยอมฉีดซิโนแวค
นี่คือใบเสร็จที่ยืนยันว่าทำไมถึงมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน
อย่างนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคต้องรับผิดชอบ…”
ครับ…นี่คือการเมือง ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์กับประเทศชาติเลย
คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ มี ๑๘ คน แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี มีดังนี้
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข, ที่ปรึกษา ศบค. เป็นประธานคณะทำงาน
นพ.โสภณ เมฆธน ผช.รมว. สาธารณสุข เป็น รองประธานคณะทำงาน
คณะทำงาน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด ก.สาธารณสุข
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย.
นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ศ.พิชัย สนแจ้ง ผอ.สำนักพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
ศ.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคม รพ.เอกชน
ผช.ศ.นพ.ก่อพงศ์ รุกขพันธ์ รอง ปธ.อาวุโสฯ ด้านการแพทย์ รพ.บำรุงราษฎร์
พญ.เมธินี ไหมแพง ผอ.รพ.กรุงเทพ
นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผอ.รพ.วิภาราม
นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช ผอ.รพ.มหาชัย
นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันระบบสาธารณสุข
นพ.บุญ วนาสิน ปธ.กก.บริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
พญ.เจรียง จันทรโกมล ปธ.บริหาร รพ.ในเครือบางปะกอก-ปิยะเวท
เลขานุการคณะทำงาน
นายประทีป กีรติเรขา กรรมการ ศบค.
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม
หน้าที่คือ บริหารจัดการวัคซีนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ครอบคลุมการให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทีนี้อย่าแปลกใจว่า “หมอบุญ” รู้เรื่อง ไฟเซอร์ ๒๐ ล้านโดสได้ไง เรื่องหุ้นทาง ก.ล.ต.ก็อย่าลืมประเด็นอินไซด์ข้อมูลซะล่ะ
ฉะนั้นคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนไม่ได้มีหน้าที่จัดซื้อวัคซีน เพราะเป็นหน้าที่รัฐบาล
ดีลไฟเซอร์ ๒๐ ล้านโดสคือคำตอบของเรื่องนี้
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และไบออนเทค ได้ประกาศลงนามสัญญาร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ไม่ได้หมายความว่า ไฟเซอร์เซ็นกับคุณหมอโอภาส แต่เป็นการเซ็นกับรัฐบาล
รัฐมนตรีอนุทินก็ไปยืนถ่ายรูปด้วย
ฉะนั้นการจุดกระแสปลดหมอคือพฤติกรรมที่ต่ำทราม
เพราะเล่นการเมืองกันแบบนี้ไง
นักการเมืองไม่เคยเป็นความหวังของประชาชนเลย.