วันนี้ (10 กรกฎาคม 2564) เวลา 12.30 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณี แนวทางปฏิบัติการ โดยในการเดินทางข้ามเขต จาก 10 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ได้แก่ กทม. นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานีปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสงขลา หากจำเป็นต้องเดินทาง อาทิ การเดินทางเพื่อรับวัคซีนยังจังหวัดอื่นนั้น ถือว่าเดินทางได้ โดยที่การเดินทางเพื่อรับวัคซีนเป็นการเดินทางตามวัตถุประสงค์ด้านการสาธารณสุข และได้แจ้งไว้กับหน่วยงานด้านความมั่นคงด้วยแล้ว โดยเฉพาะกรณีเป็นผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ อาจพิจารณาเดินทางในช่วงกลางวันเพื่อไม่ให้ขัดต่อมาตรการห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 ถึง 04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็นยิ่ง หรือได้รับการอนุญาต มีใบอนุญาตที่เป็นรายกรณี
กรณีข้อกำหนด ข้อ 7 (5) สถานประกอบการนวดแผนไทยให้ปิดดำเนินการนั้น รวมถึงคลีนิกเสริมความงามหรือไม่ นายแพทย์ ทวีศิลป์ฯ กล่าวว่า เพื่อลดความสัมผัสใกล้ชิด โดยเฉพาะการสัมผัสจุดแพร่เชื้อซึ่งรวมถึงใบหน้าด้วยนั้น นับรวมคลีนิกเสริมความงามด้วย เพื่อลดการแพร่เชื้อตามวัตถุประสงค์ของข้อกำหนดฯ
ในโอกาสนี้ โฆษก ศบค. ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงการทำความเข้าใจต่อประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้ประชาสัมพันธ์จังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด นำชุดข้อมูลเหล่านี้ไปสื่อสารดูแลความเข้าใจ สื่อสารถึงประชาชน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ต้องการให้เกิดการดำเนินการเคร่งครัด และเป็นการล็อกดาวน์บางจุดเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด เพื่อยังให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้
และขอความร่วมมือ เพื่อร่วมกันป้องกันโรคให้สำเร็จได้ นอกจากรัฐแล้ว ผู้ประกอบการ และประชาชน มีส่วนสำคัญ หากร่วมมือกันอย่างเต็มที่ จะควบคุมเชื้อโรคที่มองไม่เห็นได้ “การควบคุมโรค คือการควบคุมคน” ทุกครั้งทราบดีว่าการประกาศจะเป็นการจำกัดสิทธิของประชาชน ซึ่งจะกระทบถึงปากท้อง การดำเนินชีวิตประชาชน อย่างไรก็ดีไม่ต้องการเห็นความเสียหาย จึงขอความร่วมมือทุกคนร่วมกันอีกครั้ง และ ใน 14 วันข้างหน้านี้ หลัง 14 วัน หวังว่า จะได้พบกับข่าวดีร่วมกัน