แก้ ‘ส่วย’ ช่วย ‘วัคซีน’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ใกล้แล้วล่ะครับ…..

            วัคซีน AstraZeneca โดยสยามไบโอไซเอนซ์ คืบหน้าไปมาก

และได้ผลดี

            เบื้องต้นทำได้ ๕ รุ่นแล้ว

            ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการอ้างอิงในอังกฤษและอเมริกา

            และจะรู้ผลเร็วๆ นี้

            ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน ประเทศไทยจะมีวัคซีนที่สามารถผลิตใช้ได้เองตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

            ฉีดคนไทยครบ ยังส่งออกให้ประเทศเพื่อนบ้าน

            ถึงเวลานั้น การคุยเรื่องวัคซีน จะเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่เอาแต่ด่า

            ครับ…วัคซีนโควิดทุกตัวที่ออกมา เป็นวัคซีนในภาวะฉุกเฉินทั้งสิ้น อย่าคาดหวังว่าจะได้ผล ๑๐๐% และข้อจำกัดนี้เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก

            ฉะนั้นจะเห็นว่าหลายประเทศฉีดวัคซีนแล้วหยุด หลังพบผลข้างเคียง เมื่อตรวจสอบแล้วได้ข้อสรุปว่าเป็นผลข้างเคียงที่ยอมรับได้ก็ฉีดต่อ

            AstraZeneca เป็นหนึ่งในวัคซีนที่พบผลข้างเคียง

            ขณะนี้หลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก ลังเลที่จะฉีด เพราะความวิตกกังวลว่าอาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้

            ทำให้ภาพรวมการฉีดวัคซีนในภูมิภาคเอเชียเป็นไปอย่างล่าช้า

            ซึ่งแน่นอนมีผลต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

            ไม่ใช่ไทยประเทศเดียวที่เจอปัญหาความล่าช้าในการฉีดวัคซีน

            รัฐบาลออสเตรเลีย ทำได้แค่รอวัคซีน AstraZeneca  จากผู้ผลิตในยุโรป ความล่าช้านี้ทำให้รัฐบาลออสเตรเลีย ไม่สามารถปฏิบัติตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่า ประชาชนทุกคนในประเทศจะได้รับวัคซีนโดสแรกของ AstraZeneca ในเดือน ต.ค.นี้

            สิ่งที่คนไทยไม่รู้คือ เกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ถึงกับเอ่ยปาก บอกว่าปัญหาจำนวนวัคซีนจะหมดไปหาก บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของออสเตรเลีย เร่งผลิตวัคซีนของ AstraZeneca

            นี่คือการตอกย้ำว่าประเทศที่เป็นฐานผลิตวัคซีน จะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนได้

            เกาหลีใต้ จะกลับมาฉีดวัคซีนของ AstraZeneca อีกครั้งหลังจากสั่งระงับไป แต่จะจำกัดการใช้งานเฉพาะผู้ที่มีอายุ ๓๐-๖๐ ปีเท่านั้น

            ก็อย่างที่บอกวัคซีนโควิดทุกตัวในโลกเป็นวัคซีนในภาวะฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงแตกต่างกันไป

            วัคซีนแบบ mRNA อย่าง Pfizer-BioNTech และ  Moderna รวมถึงวัคซีนแบบ Viral Vector อย่าง  AstraZeneca มีลักษณะอาการข้างเคียงคล้ายคลึงกันอย่างการมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีน ปวดศีรษะ และเมื่อยล้า

            แต่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดว่าวัคซีน สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้หรือไม่

            ก็เป็นธรรมดาที่กล้าๆ กลัวๆ กันอยู่

            แต่ข้อมูลบางส่วนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การปูพรมฉีดวัคซีน AstraZeneca ในอังกฤษทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมาก

            อาจารย์หมอ ยง ภู่วรวรรณ โพสต์เฟซบุ๊กไว้ตามนี้ครับ….

                “….การควบคุมการระบาดในประเทศอังกฤษเปรียบเทียบกับฝรั่งเศส

                ในเดือนธันวาคมได้มีการระบาดของโรคโควิด ๑๙  อย่างมากในอังกฤษและยุโรป

                โดยเฉพาะอังกฤษเป็นสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่กระจายได้ง่าย B.1.1.7 หรือสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในบ้านเรา

                อังกฤษระดมฉีดวัคซีนอย่างหนัก และวัคซีนที่ใช้เป็นส่วนใหญ่จะเป็นวัคซีน AstraZeneca โดยฉีดได้เป็นจำนวนมาก

                ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมันมัวรีรอ โดยเฉพาะอาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับลิ่มเลือด

                ทำให้มีปัญหาในการให้วัคซีนในยุโรปอย่างมาก โดยเฉพาะฝรั่งเศสและเยอรมัน

                มาถึงวันนี้ผู้ป่วยของประเทศอังกฤษ ลดลงอย่างมาก รวมทั้งอัตราตายต่อวันด้วย

                ซึ่งตรงกันข้ามกับฝรั่งเศสอย่างเห็นได้ชัดเจนดังแสดงในรูป

                จากภาพนี้แสดงให้เห็นการให้วัคซีนหมู่มาก ในอังกฤษใช้ AstraZeneca มีผลให้สามารถควบคุมโรคระบาดได้อย่างดี…”

            ก็น่าจะจบดรามา AstraZeneca ป้องกันการติดโควิดได้แค่ ๒%

            และจะเป็นการยืนยันว่า หากเป็นไปตามแผน ไทยสามารถปูพรมฉีดวัคซีน AstraZeneca ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ปลายปีก็น่าจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้

            สงกรานต์ปีหน้าจะต่างกับปีนี้ราวฟ้ากับเหว

            แต่ยังมีสิ่งที่รัฐบาลต้องจัดการให้สิ้นซาก จบเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี

            ประเด็นผับ บาร์ คาราโอเกะ บ่อน ยังค้างคาใจกันอยู่มาก

            รัฐบาลต้องรับรู้อารมณ์โกรธของประชาชน

            ขณะเดียวกันประชาชนก็ต้องพิจารณาตัวเอง ว่าโตพอที่จะรับผิดชอบสังคมโดยรวมหรือยัง

            จำวันที่รัฐบาลสั่งปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในการระบาดปีที่แล้วได้มั้ยครับ มีเสียงโอดครวญ เศรษฐกิจพัง  คนตกงาน

            แล้วไงพอเปิด การ์ดตกกันหมดจนเป็นแหล่งแพร่เชื้อซ้ำอีก

            ประชาชนก็โทษรัฐบาลไม่เข้มงวด ไม่มีประสิทธิภาพ  บางพวกถึงกับเอามาเป็นเหตุไล่รัฐบาล

            ส่วนรัฐบาลต้องยอมรับว่าหละหลวมจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว สถานที่แบบนี้คือตัวแพร่เชื้อ แต่จะบังคับห้ามไม่ให้คนเที่ยวก็ทำไม่ได้

            สุดท้ายก็โทษกันไปมา

            ฉะนั้นเมื่อจะแก้ปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด รัฐบาลควรใช้ช่วงเวลานี้เร่งแก้ไข และเชื่อว่าจะมีประชาชนเป็นแนวร่วมจำนวนมาก

            ถึงเวลาต้องสังคายนาครั้งใหญ่

            จัดโซนนิง พูดกันมานานแต่ทำไม่เคยได้

            ธุรกิจเหล่านี้พ่วงธุรกิจสีเทามามากมาย

            เจ้าของที่แท้จริงคือใครก็ไม่รู้

            มีปัญหาทีก็เชือดปลาซิวที

            การควบคุมก็เป็นปัญหา เพราะมีการส่งส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง แทนที่จะสอดส่องกลายเป็นสนับสนุน

            ตำรวจท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รู้หมดว่าอะไรเป็นอะไร

            ถามว่ารัฐบาลรู้หรือไม่?

            สะดุดกับข่าวย้ายผู้กำกับ สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส                 เห็นว่ามีศักดิ์เป็นหลานเขย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

            พ.ต.อ.ดวงโชติ แต่งงานกับลูกสาวของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.

            ครับ…ข้อมูลมันเป็นแบบนั้น

            ย้ายแล้วไงต่อ เพราะที่ผ่านมาก็ใช้วิธีย้ายแล้วเงียบ  ไม่เห็นการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาลต้องมีคำตอบ เพราะปัญหามันทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะทองหล่อ

            ก็ขอเตือนกันไว้ ผับ บาร์ คาราโอเกะ บ่อน ถ้าไม่แก้ไขอะไรกันเลย เดี๋ยวรอบ ๔ ก็มา

            สายพันธุ์แอฟริกาหลุดมาเมื่อไหร่บันเทิงแน่!

            คนที่ซวยคือชาวบ้านตาดำๆ ครับ.

Written By
More from pp
ใช้กฎเดิม ! “อนุทิน” สยบปมป่วนวัคซีนพาสสปอร์ต
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้จัดทำประกาศนักบิน (NOTAM) เรื่องข้อกำหนดในการเข้าประเทศไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยจะเริ่มใช้วันที่ 9 ม.ค. 2566 อาทิ ผู้โดยสารอายุมากกว่า 18...
Read More
0 replies on “แก้ ‘ส่วย’ ช่วย ‘วัคซีน’ – ผักกาดหอม”