เมืองไทย “มีบ่อน” เอามั้ย?

เปลว สีเงิน

เรื่อง “การพนัน” นี่
ตราบใดที่เรา “คิดอย่าง” แต่ “พูดไปอีกอย่าง” ชาตินี้ ต่อถึงชาติหน้า ก็แก้ปัญหาไม่ได้
เพราะ “ไม่ตรงจุด”!
และตราบใด ไม่เปลี่ยนแนวคิด จากคำว่า “แก้ปัญหา” ไปเป็น “บริหารปัญหา” ก็อย่าหวังว่า การพนันจะหมดไปด้วยการแก้

เมื่อวาน (๑๔ มค.๖๔) นายกฯ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ๒ ชุด
ชุดแรก ให้ตรวจสอบการลักลอบเข้าเมือง เป็นเหตุให้โควิดระบาด รอบ ๒ “นายภักดี โพธิศิริ” อดีตป.ป.ช.​เป็นประธาน
ชุดที่สอง ให้ตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนัน เป็นเหตุให้โควิดแพร่เชื้อ

ชุดนี้ “นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ” อดีตปลัดกระทรวงยุติธรมเป็นประธาน
ทั้ง ๒ ชุด มีอำนาจตั้งอนุกรรมการ, คณะทำงาน และประสานหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูล รับเรื่องร้องเรียน เบาะแสจากประชาชน ได้

และสั่งให้เจ้าหน้าที่นำตัวคนผิดมาลงโทษได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นคนทั่วไป หรือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตาม
การตรวจสอบต่างๆ “รายงานลับ” ต่อนายกฯ โดยตรง!

ก็ไม่อยากใช้คำว่า “ตามฟอร์ม”
และทั้ง ๒ เรื่องจะลงเอยแบบไหน ก็ไม่ต้องเดา เพราะเป็นที่เข้าใจกันได้

ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ เรื่องการการพนัน ถ้าตั้งโจทย์ว่ามันคือปัญหา ถือว่าโจทย์ผิดแต่ต้น
เมื่อโจทย์ผิด แก้ยังไงๆ ที่แก้ มันก็ผิดตามโจทย์วันยังค่ำ

เพราะการพนัน ไม่ใช่ปัญหา
หากแต่มันเป็น “ตัณหา” ติดมาตัวคนตั้งแต่เกิด ใครมาก-ใครน้อย เป็นอีกเรื่อง

เมื่อเป็นอย่างนั้น เรายอมรับความจริงกันซะที รัฐบาลลองระดมทุกฝ่าย รวมทั้งนายบ่อน หยิบเรื่องระบบพนันขึ้นมาวิจัย-วิจารณ์กันให้ครบด้าน
เพื่อนำไปสู่การบริหารการพนัน “ระบบบ่อน” ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะยังประโยชน์กว่า

แทนการใช้ทัศนคติมุมแคบมองว่า “การพนันคือปัญหา” แล้วใช้กำลังปราบปรามตะพึด

ด้วยเข้าใจว่า โจทย์ที่ผิด….
ใช้กฎหมายเป็น “ลิควิดเปเปอร์” ลบ ทำให้ถูกได้!

มันเป็นความคิดฝืนโลก-ฝืนความจริง ผมว่าสังคมโลกถึงยุค-ถึงเวลา ที่ต้องสังคายนาเรื่องนี้กันแล้ว

เพราะอะไร?
เพราะ “เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” ไปถึงขั้นเปลี่ยนระบบ-วิธีการเล่นพนันไปอีกขั้นแล้ว
การเข้าไปนั่งเล่นตามบ่อนอย่างที่เข้าใจกัน ทุกวันนี้ มันงั้นๆ ไปแล้ว

“พนันออนไลน์” ยุคนี้ มีให้เล่นถึงในมุ้ง แค่นอนเล่นในมุ้ง พันล้าน-หมื่นล้าน ไหลเข้า-ไหลออก ตำรวจจะตลบมุ้งจับรึ?

กฎหมายพนันไทย ยังใช้ปี พศ.๒๔๗๘ ก่อนผมเกิดอีก ก็คิดแล้วกัน กฎหมายเมื่อเกือบร้อยปี เอามาใช้กับยุคนี้ ยังจะเหมือนซีมากับขี้กลากอยู่มั้ย?

การพนันคือเงามนุษย์!
บางคนบอกไม่จริง ผมขอบอก ยอมรับความจริงเถอะ ที่ว่าไม่จริงนั้น คุณอาจเพ่งเล็งไปเฉพาะการพนันบ่อน

บ่อนแค่รูปแบบหนึ่งเท่านั้น ถ้าค่อยๆ คิดจะรู้ เราทุกคนอยู่ในวิถีพนันในชีวิตประจำวัน โดยไม่รู้ว่านั่นคือการพนันมาตั้งแต่เด็ก
ใครไม่เคยเล่นทาย “อะไรเอ่ย” ใครไม่เคย “จับสลาก” ใครไม่เคยเล่น “ยิงหนังยาง” ใครไม่เคยเล่น “หมากเก็บ” เขกเข่า
นั่นปฐมแห่งพนันทั้งนั้น!

ฉะนั้น เราลองเปลี่ยนความคิดใหม่ จากคิดแก้ซึ่งแก้ไม่ได้ ไปเป็นคิดบริหารแทน
แบบนี้ เราสามารถ “ควบคุม” การพนันจากโทษ ให้พอมีคุณได้บ้าง

บางคนบอก ไทยเราเมืองพุทธ จะให้มีบ่อนพนันไม่ได้ ผมว่าคนละเรื่องกัน!

คำสอนพระพุทธเจ้า สอนคน ในวิถีมรรค ๘ สัมมาอาชีวะ-การเลี้ยงชีวิตชอบ, สัมมากัมมันตะ-การงานชอบ

ส่วนบ่อนพนัน เป็นวัตถุ สืบเนื่องจากคน
นั่นคือ จะแก้เรื่องบ่อนให้ได้ผลตามเหตุปัจจัย ก็ต้องแก้ที่คน อันเป็นต้นเหตุ บ่อนแค่ปลายเหตุ

การจะแก้ด้วยมุมคิด ให้ทุกคนไม่เล่นพนัน คิดได้ แต่ทำไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องฝืน

เชื้อเกิดมนุษย์ คือตัณหา
ฉะนั้น ก็ต้องใช้ “หลักบริหาร” คือควบคุม-จัดการแทน!

เหมือนเราทุกคน แก้การโกรธได้มั้ย?
ก็ไม่ได้

แล้วทำไง ก็ต้องบริหารสติ หมั่นใช้สติควบคุมอารมณ์ เวลาโกรธจัดๆ คนมีสติอย่างดีแค่หลุดคำ “ไอ้สัส” ไม่เตลิดถึงขั้นโดดตื๊บไอ้สัส

ปัญหาพนัน ก็ประมาณนี้ เปลี่ยนจากคิดแก้ ไปคิดหาวิธีบริหารดีกว่า

อย่าว่าแต่ยุคนี้เลย ก่อนพุทธกาล สมัยพุทธกาล การพนันก็มี ก็บอกแล้ว คำสอนพระพุทธองค์ ไม่ได้มีเพื่อแก้วัตถุ
แต่มีเพื่อสอนคนให้รู้จักวิธีบริหารคิด
และคิดที่บริหารแล้ว จะควบคุมการกระทำของมนุษย์ผ่านวัตถุ ตามเหตุปัจจัยของมัน

มนุษย์ก็เหมือนนิ้วมือ ใครมี ๕ นิ้ว “สั้นหรือยาว” เท่ากัน ทั้ง ๕ นิ้วบ้างล่ะ?


บอกว่าไทยเมืองพุทธ……
แต่ร้อยละ ๘๐-๙๐ คำติดปากคนไทยคือ…พนันกันมั้ย? เมืองไทยวันนี้ …….
มีทั้งบ่อนหวย ทั้งใต้ดิน-บนดิน ทั้งบ่อนมวย, บ่อนบอล, บ่อนไก่, บ่อนชนวัว,บ่อนกัดปลา และฯลฯ

สรุปว่า ทุกลมหายใจเข้า-ออกในเมืองไทย มีบ่อนชนิดต่างๆ ทั้งได้รับอนุญาต ทั้งเถื่อน อยู่ในชีวิตประจำวันแทบทุกตัวคน

แล้วประเทศได้อะไร?
ไม่ได้เลย นอกจากเสีย ที่เห็นๆ นายกฯเสียคน คือถูกด่า ถูกตำหนิ
ตำรวจเสียทั้งคน เสียทั้งตำแหน่ง เสียทั้งนิสัย คือไม่รับส่วยแล้วเสียศักดิ์ศรี!

อันที่จริง ใครว่าประเทศไทยมีบ่อนไม่ได้ ไปดูกฎหมายการพนันซี บอกว่า…..

“การอนุญาตให้มีการเล่นการพนันตามพระราชบัญญัตินี้สามารถทำได้ในกรณีดังนี้

ในกรณีที่มีพระราชกฤษฎีกาให้ไว้ คือพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงื่อนไขการพนันตามมาตรา ๔ พรบ.การพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ (ฉบับที่ ๒)

กำหนดให้การพนันอันระบุไว้ในบัญชี ก.ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ หรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน นั้น


จะจัดให้มี เข้าเล่น หรือเข้าพนันได้ ณ สถานกาสิโนของรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจัดตั้งขึ้น”

ที่ยกขึ้นมาปรารภนี้ ……
มิใช่เจตนาให้อนุญาตมีบ่อนได้เดี๋ยวนี้
แต่ยกมาในเจตนาว่า คนร่างกฎหมายเมื่อร้อยปี เขาก็เปิดช่องระบายอากาศไว้ ด้วยมองทะลุตัณหามนุษย์

กฎหมายใช้ควบคุมคนได้ แต่จะใช้บังคับคน “บังคับได้” แต่คนไม่ทำตาม (ทั้งหมด) หรอก

ไหนๆ นายกฯ ชอบตั้งคณะกรรมการ ก็อยากให้ตั้งคณะศึกษา-วิจัยเรื่องบ่อนพนันในเมืองไทยซักคณะ ในทิศทางว่า
ถ้าไทยจะอนุญาตให้มีบ่อนพนันถูกต้องกฎหมาย ควรจะเป็นไปไปในรูปแบบไหน ควรจะให้มีในที่ไหน และผลได้-ผลเสียจะคุ้มกันไหม?

ศึกษาทั้ง ๒ ด้านให้ครบ เผยแพร่ข้อศึกษาสู่สาธารณะ ทำประชาพิจารณ์ ขั้นสุดท้าย ให้ประชาชน “ลงประชามติ” ซัก ๒-๓ ข้อ

เช่นว่า
ควรมี-ไม่ควรมี ถ้ามี ควรให้มีที่ไหน รูปแบบไหน เป็นต้น!

ข้อสำคัญ ถ้ามี….
ต้องให้ผู้มีรายชื่อ “เสียภาษี” ประจำปี ได้สิทธิ์จองซื้อหุ้นตามสัดส่วนทุกคน!
(กู) ขอรวยบ้างละวะ!



Written By
More from plew
“ความเมือง” ในไทยยุคที่ ๓
ผักกาดหอม ก็ต้องฟังนะ! ใครที่คิดว่า “ธีรยุทธ บุญมี” เอาแต่ด่า ผลิตวาทกรรมเพื่อโจมตี อยากให้คิดใหม่ จำได้มั้ยล่ะ… เมื่อครั้งอาจารย์ธีรยุทธ ชำแหละ “ทักษิณ...
Read More
0 replies on “เมืองไทย “มีบ่อน” เอามั้ย?”