วัคซีนมาแล้วแค่รอเวลา

ผักกาดหอม

“ป๋าเปลว” ยังไม่ไปไหนครับ

อย่าเพิ่งตกใจ…!!!

สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งคอลัมน์กันนิดหน่อย พลิกไป หน้า ๘ พบกับ “เปลว สีเงิน” ได้เหมือนเดิม

“ป๋าเปลว” ปรารภมาพักใหญ่แล้วว่า ต้องการปรับเพื่อความยืดหยุ่นในการทำงาน

ก็ได้ฤกษ์เริ่มต้นในปีฉลู กับไทยโพสต์ฉบับที่ ๘,๘๑๙  เป็นต้นไปครับ

ก่อนเข้าเรื่องขออนุญาตแนะนำตัวสั้นๆ ผมทำงานในทีมป๋าเปลว ตั้งแต่ยุคก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามโพสต์ ในห้องเล็กๆ ตึกอื้อจือเหลียงเก่า ถนนพระราม ๔ เมื่อปี ๒๕๓๕ โน้นนนนน…..

เรื่อยมาจนถึง ไทยโพสต์ นับได้ก็ใกล้ ๓๐ ปีเต็มที

จากยุคบุกเบิก ติดสอยห้อยตาม “ป๋าเปลว” มาตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่คน

ก็…ธรรมดาเก่าไป ใหม่มาเป็นวัฏฏะ

แต่จิตวิญญาณ “เที่ยงธรรม เชื่อถือได้”

ถ่ายทอดดีเอ็นเอรุ่นต่อรุ่น ต่อเนื่องมาถึง “อิสรภาพแห่งความคิด” ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

ไม่ขาด…มีแต่จะเกิน

ครับ…๒๕๖๔ ปีฉลู เริ่มต้นด้วยบรรยากาศ โคขวิด-โควิด มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

ตัวเลขล่าสุดวานนี้ (๓ มกราคม) ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๓๑๕  ราย

ติดเชื้อในประเทศ ๒๙๔ คน อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ๒๑ ราย

รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม ๗,๖๙๔ คน

ยังไม่นับรวม ๕๔๑ ราย จากสมุทรสาครที่ออกมาเย็นวาน

อีกไม่กี่วันจะขึ้นหลักหมื่น

วันนี้ (๔ มกราคม) มาตรการคุมเข้ม ปิด-เปิด อนุญาต  งด ทำความเข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติกันได้

แต่ที่น่ากังวลคือ “มาตรการขอความร่วมมือ” มันไม่ถูกจริตกับคนไทยเลย เพราะการขอความร่วมมือคือ ไม่จำเป็นต้องทำตาม

ฉะนั้นการสื่อสารกับประชาชนต้องเอาให้ชัด

ได้ ไม่ได้ ไม่ต้องตีความ

ไม่งั้นจะได้เห็นเช่น พ่อแม่เข้าบ่อน เอาเชื้อมาติดลูก

ลูกเอาไปติดเพื่อนที่โรงเรียน

เพื่อนของลูกเอาไปติดพ่อแม่อีกทอด

ไล่ตามกันไม่ไหว

วัคซีนดูจะเป็นความหวัง ไม่ใช่เฉพาะคนไทย แต่เป็นความหวังของมวลมนุษยชาติ

เริ่มมีการเปรียบเทียบว่า ลาวได้วัคซีนแล้ว ไทยทำไมยังไม่ได้

ฝ่ายแค้นเอาไปขยายผลด่ารัฐบาลกันสนุกปาก

อวยเก่งหลังหวยออกทั้งนั้น

มันไม่รู้หรอกครับว่า…ที่จองเอาไว้ตั้งแต่เริ่มวิจัยวัคซีนใหม่ๆ บริษัทไหน จะทำเสร็จก่อนกัน

ทั้งไฟเซอร์, โมเดอร์นา ของสหรัฐอเมริกา แอสตราเซนเนกา ของอังกฤษ สปุตนิก 5 ของรัสเซีย ซิโนแวกซ์ ซิโนฟาร์ม ของจีน ประเทศทั่วโลกสั่งจองล่วงหน้า โดยไม่มีใครรู้ว่าที่จองไปนั้น จะออกมาเมื่อไหร่ สำเร็จหรือไม่

หากโชคร้ายไม่สำเร็จเสียเงินจองไปฟรีๆ

ไทยทำข้อตกลงซื้อวัคซีนจากบริษัท แอสตราเซนเนกา  ที่ร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ จำนวน  ๒๖ ล้านโดส

ไม่ได้หลับหูหลับตาซื้อ ทางแอสตราเซนเนกาตกลงที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้กระบวนการผลิตวัคซีนโควิดให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์

ย้ำกันอีกทีเผื่อบางคนยังไม่ผ่านตา จำชื่อ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ไว้ให้ดีนะครับ

เพราะที่นี่คือ ผู้ผลิตยาชีววัตถุผ่านเทคโนโลยีชั้นสูง ที่เกิดจากพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

สยามไบโอไซเอนซ์ คือ บริษัทผู้ผลิตยาชีววัตถุผ่านเทคโนโลยีชั้นสูงแห่งเดียวของคนไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ.๒๕๕๒ เพื่อสานต่อพระราชปณิธานใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงริเริ่มเรื่องการดูแลสุขภาพและพัฒนาคุณภาพของคนไว้

ตามพระราชดำรัสที่เคยพระราชทานไว้ว่า “ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรม ก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติ ก็คือ พลเมือง นั่นเอง


ทรงใช้เงินทุนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ๔,๕๐๐ ล้านบาท สร้างโรงงานนี้ขึ้นมา

รัฐบาลให้อีก ๖๐๐ ล้านสร้างโรงงานเพิ่ม เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตวัคซีน

ใครที่เอาแต่ด่า ก็สำนึกเอาไว้บ้าง!

มาย่อยข่าวกันอีกที… X-CITE ฉบับพิเศษ เมื่อวันที่ ๓๑  ธันวาคม ๒๕๖๓ มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัคซีนล้วนๆ

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ  แจกแจงเอาไว้ละเอียดยิบ

“…ตอนนี้ทุกคน (ทั้งโลก) มองข้ามช็อตไปหมดแล้ว การเตรียมการผลิตจำนวนมหาศาลถูกเตรียมการกันตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถูกเตรียมการตั้งแต่การทดลองวัคซีนยังไม่เสร็จ  แค่เริ่มวิจัยก็เตรียมกันแล้ว เขาเรียกว่าเป็นการลงทุนเพื่อความเสี่ยงโดยแข่งกับเวลา ทั้งที่ไม่รู้ว่าการวิจัยจะสำเร็จหรือไม่ ถ้าไม่ทำ ไม่จองไว้ก่อน ก็จะไม่มีของ

อย่างวิจัยของสหรัฐอเมริกา อังกฤษ มีการจองออเดอร์วัตถุดิบกันล่วงหน้ากับผู้ที่ผลิตที่เป็นต้นน้ำตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สิงหาคมกันแล้ว แม้การจองล่วงหน้าจะเป็นความเสี่ยง เงินจองได้นำไปซื้อวัตถุดิบแล้ว ถ้าทดลองไม่ได้ผลก็ไม่มีการคืนเงิน เพราะเอาไปซื้อของแล้ว ถ้าไม่ทำแบบนี้ในเวลาปกติ ไม่มีการแย่งชิงข้าวของก็ทำได้ เวลาปกติ อีก ๖ เดือนค่อยจองได้ แต่เวลานี้ถ้าใครมาออเดอร์วัตถุดิบแม้กระทั่งขวดบรรจุวัคซีนต้องรอ ๑๒  เดือน…”

ไม่ใช่นึกอยากจะจองแล้วได้เลย…ฝันไปเถอะ

เอาแค่ ประเทศร่ำรวย ยังจองกันไม่ครบ

ฉะนั้นถ้าถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ไปซื้อ วัคซีนของ ไฟเซอร์ ที่ฉีดกันแล้วในหลายประเทศรวมทั้งสิงคโปร์ มันไม่เหมือนเข้าไปซื้อน้ำปลาในร้านของชำ

เราไม่ได้จองกับ ไฟเซอร์ ตั้งแต่แรก ถ้าจะจองก็ต้องรอคิว

จะได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น ตอนจอง ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าไหนจะทำวัคซีนออกมาได้ก่อน


จึงไร้ประโยชน์ที่จะนำเรื่องนี้ไปขยายผลโจมตีรัฐบาล

แต่ก็อีกไม่นานครับ เพราะ วัคซีนของ แอสตราเซนเนกา  ที่เราจองเอาไว้เริ่มฉีดกันที่อังกฤษแล้ว

แล้วไทยจะได้วัคซีนมาเมื่อไหร่?

เสี่ยหนู อนุทิน บอกก่อนนี้ว่า เดือนกุมภาพันธ์ มาแน่ๆ ล็อตแรก

ข่าวล่าสุดได้จาก ซิโนแว็กซ์ ของจีน ๒ ล้านโด๊ส เริ่มทยอยมาก่อน ๒  แสนโด๊ส ปลายเดือนกุมภาฯ

เป็นน้ำจิ้มครับ ของจริงต้องหลังจากนั้น

๒๖ ล้านโด๊ส มาแน่ๆ กลางปี ฝีมือคนไทย

จากคำพูดของ “คุณหมอนคร” ฟังแล้วชื่นใจครับ

“ตอนนี้แอสตราเซนเนกาเริ่มมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเกือบทั้งกระบวนการ ไม่ใช่เอาวัคซีนมาแบ่งบรรจุ  เขาให้เราผลิตวัคซีนเองตั้งแต่ต้น และเขาให้วัคซีนต้นแบบเรามาแล้ว เป็นขวดเล็กๆ เราต้องมาขยายจาก ๕๐๐ ซีซี ๕  ลิตร ๕๐ ลิตร ๑๐๐ ลิตร ๒๐๐ ลิตร ๕๐๐ ลิตร ๑,๐๐๐ ลิตร”

ครับ…ก็เอาเป็นว่า ตอนนี้วัคซีนตัวต้นแบบอยู่ในมือ สยามไบโอไซเอนซ์ แล้ว

ถกแขนเสื้อรอได้เลย


Written By
More from pp
รองโฆษกฯ เผยรัฐบาลเร่งดำเนินคดีฉ้อโกง/หลอกขายของออนไลน์ ร้องเรียนผ่านศูนย์ 1212 เฟซบุ๊กมากสุด 82%
10 ต.ค.60 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
Read More
0 replies on “วัคซีนมาแล้วแค่รอเวลา”