29 ตุลาคม 2563 นายไชยา พรหมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า การบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดของรัฐบาลนำมาซึ่งวิกฤตการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ ประชาชนทำมาหากินด้วยความยากลำบากฝืดเคือง
ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ต้องปิดกิจการและเลิกจ้างคนงาน นโยบายและมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ออกมากลับไม่ประสบความสำเร็จ กลไกของระบบเศรษฐกิจไม่สนองตอบนโยบายของรัฐบาล หรือแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด
ภาคธุรกิจที่เป็นแหล่งการจ้างงานยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ หากยังเป็นแบบนี้อยู่จะกระทบถึงระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ
นอกจากนี้ภาคการเกษตรซึ่งขณะนี้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรกำลังจะออกสู่ตลาด รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมารองรับเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมอย่างเป็นรูปธรรมเลย หากปล่อยไว้แบบนี้ เกษตรกรต้องประสบกับการสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างแน่นอน
นายไชยา กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้เกิดจากการขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศ คือตัวนายกรัฐมนตรี เพราะมาจากกลไกที่มาจากการรัฐประหารและไม่มีความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจกลับมองปัญหาในมิติเดียวคือ มิติความมั่นคง
การจัดสรรงบประมาณก็มุ่งเน้นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์โดยไม่คำนึงถึงภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร ควรมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าการแข่งขันทางด้านสะสมอาวุธ
ที่ผ่านมาฝ่ายค้านเคยชี้แนะการแก้ไขปัญหาในแนวทางที่ถูกต้องมาหลายครั้ง แต่รัฐบาลไม่ฟัง จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายทั้งมิติการเมือง มิติทางด้านเศรษฐกิจ จนเกินจะเยียวยา
ดังนั้น หนทางเดียวในขณะนี้คือ ต้องยอมรับถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ การแก้ไขปัญหาต้องแก้ให้ถูกจุด ตัวนายกรัฐมนตรีนั่นแหละคือปัญหาของประเทศ
จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะการลาออกคือการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตย และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนด้วยเช่นกัน เพราะยิ่งอยู่นานปัญหาของประเทศจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากจะแก้ไข