เซนิดเดียว “รุมเผา” กันแล้ว

เปลว สีเงิน

เนี่ย…….
ดู “สื่อฝรั่ง” มันทำกับบ้านเมืองเราซี เว็บ “โพสต์ทูเดย์” เขาลงข่าวเมื่อวาน (๒๔ ธค.๖๓) อ่านดู
“สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมาก

ส่งผลให้เกิดคำพูดสร้างความเกลียดชัง (hate speech) ของคนไทยบางส่วนต่อชาวเมียนมา เช่น “ถ้าเห็นคนเมียนมาที่ไหนให้ยิงทิ้งซะ”

คือรอยเตอร์เลือกหยิบเฉพาะคำที่มีคนโพสต์ถึงแรงงานพม่าในมุมลบ “ซึ่งเป็นส่วนน้อย” ตามทวิตเตอร์ ยูทูป และโซเชียลมีเดีย มาขยายเป็นข่าวใหญ่โต

ซึ่งการเลือกมุมเสนออย่างนั้น แน่นอน เหมือนสาดสีดำลงไปในภาพสีขาว ซึ่งเป็นจินตภาพของสังคมโลกที่มีต่อไทยเสมอมา ว่าด้านจิตใจโอบเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ทุกชาติ คือไทย

แต่ “รอยเตอร์” ทำลายซะแล้ว
ทำลายท่ามกลางความคิดเห็นด้านบวกที่คนไทยโพสต์ถึงแรงงานพม่าและปฏิบัติต่อแรงงานพม่า ช่วยเหลือเกื้อกูลท่วมท้น จนข่าวท่วมโซเชียลมีเดีย

“รอยเตอร์”กลับไม่เห็น……
ไม่หยิบมารายงานเป็นข่าวแม้แต่คำเดียว!?

อย่างเช่น คลิปพี่น้องพม่า ฟังหมอทวีศิลป์พูดวันก่อน ฟังไป-น้ำตาไหลไป ด้วยเต็มตื้นหัวใจ บางคนฟังไปยกมือไหว้ไป
พรึ่ดไปทั้งโซเชียลมีเดีย

มีถึงขั้นถอดคำหมอทวีศิลป์ บรรยายเป็นภาษาพม่า ลงแอป TiKToK และนาทีนี้-ชั่วโมงนี้ ไม่มีคลิปไหน ดังระเบิด-ระเบ้อ จากไทย ไปพม่า ไปทั่วโลก เท่าคลิปนี้
สื่อฝรั่งและสำนักข่าวรอยเตอร์ ไม่พูดถึงซักคำ!?

ถ้าหยิบมาเสนอเป็นข่าวอีกด้าน จากคำพูดสะท้อนไทยนี้ควบคู่ไป ผมจะไม่ว่าเลยซักคำ

เพราะนั่นคือการให้ข้อมูล-ข่าวสารทั้งสองด้าน ผิด-ถูกคนอ่านตัดสินเอง

แต่กับที่จะเกิดเป็นภาพลบกับไทย รอยเตอร์ “ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้าย” เลือกหยิบไปรายงานน่าแขยง

“รอยเตอร์พบความคิดเห็นที่ก่อความไม่สงบบนโซเชียลมีเดีย คือการเรียกร้องไม่ให้แรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อเข้ารับการรักษา และลงโทษที่พวกเขาทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดในประเทศ

รวมทั้งยังมีการตั้งคำถามในการปฏิบัติต่อแรงงานเมียนมาหลายล้านคนในประเทศไทย โดยพวกเขาถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงรถประจำทาง, รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมถึงสำนักงาน”

ไทย โหด เถื่อน ไร้น้ำใจ ไร้มนุษยธรรม ปฏิบัติกับพี่น้องแรงงานพม่าขนาดนั้นเชียวหรือ?

นี่มันเจตนาชี้เป้าเรียกพวกสิทธิมนุษยชนมาอัดไทยต่อชัดๆ!

เอาหละ เผื่อรอยเตอร์เจตนาซื่อต่อไทย…….
และอยากรู้วรรคทองที่ “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน” โฆษก ศบค.พูดสะท้อนไทยถึงพี่น้องพม่า ว่ามีใจความอย่างไร จะได้แปลเป็นข่าวรายงานโลกบ้าง ผมก็จะยกมาให้อ่าน

“คนเมียนมาที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ ขอให้พี่น้องชาวไทยมองเขาว่า เขาเป็นคนมาร่วมชะตากันกับเราในฐานะที่เขาเข้ามาใช้แรงงาน

เขามาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเรา เนื่องจากเราต้องใช้พึ่งแรงงานจากพวกเขา เพราะคนไทยเองไม่ทำงานด้านที่พวกเขาทำ มากันเป็นหมื่น เป็นแสนคน

แต่ ณ วันนี้ เราเป็นญาติกัน เป็นพี่น้องกัน ในเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วย เขาเกิดเหตุนี้ขึ้นมา ขอความเข้าใจพี่น้องประชาชนของเรา ได้ดูแลซึ่งกันและกัน

ยามเจ็บป่วยไข้เราดูแลเขา เราจะได้ใจและได้คนมาทำงานในส่วนที่เราหายไป เขากับเราจะอยู่เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ฝากความรู้สึกดีๆ นี้ เผื่อแผ่ไปถึงทุกคน”

ครับ….
ผมฟังแล้วหลายรอบ ดูคลิปหลายเวอร์ชั่นและหลายแอคชั่นคนงานพม่า ที่โพสต์กันพรึ่บในโซเชียล แต่ไม่ได้แกะเทปเอง อาศัยลอกเว็บ MGR online มาอีกที ขอขอบคุณ

เรื่องอย่างนี้ คนเป็นสำนักข่าวระดับโลกต้องเข้าใจ เรื่องความคิดเห็นต่อปัญหาสาธารณะ กับคนทั้งประเทศ ไม่ว่าที่ไหนในโลก ความคิดเห็น คือการขับถ่ายอารมณ์ชั่วแล่น

แล้วจะหยิบ “อารมณ์ขับถ่าย” ชั่วแล่นของเฉพาะคน มาทึกทักเป็น มิติ “สังคมประเทศ” ในความจริงที่เป็นจริงได้อย่างไร?

ในสังคมตะวันตก อาจเป็นอย่างนั้น เพราะตะวันตกเป็นสังคม “เน้นวัตถุ”

แต่ในสังคมตะวันออก ยิ่งโดยกับไทย ไม่เป็นอย่างนั้นเลย เพราะตะวันออก เป็นสังคม “เน้นจิตใจ”

เมื่อวาน นายกฯ ประยุทธ์แถลงแล้ว โฆษกศบค. “หมอทวีศิลป์” ก็แถลงเป็นทางการแล้ว ว่า

โควิดรอบนี้ ไม่มี “ล็อกดาวน์” ประเทศ!
หมายถึงว่า ปีใหม่นี้ ใครใคร่ไปเที่ยวไหน กินไหน ดื่มไหน ฉลองไหน เคาท์ดาวน์ไหน ก็ตามอัธยาศัย
ไม่ห้าม…..


ขอเพียงให้แต่ละคนมี “ความเอื้อเฟื้อทางสังคม” จะไปพื้นที่ไหน ก็ดูว่าพื้นที่ที่ไปนั้น ทางผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด เขามีกำหนดมาตรการไว้แบบไหน เราก็ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการนั้น

จะเห็นว่า มาตรการที่ศบค.ออกมาเมื่อวาน เหมือนการ “สอบไล่” ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ว่าใครจะมีวิสัยทัศน์ผู้นำระดับไหน?

ยังชินแบบเก่า คอยมองปลายนิ้วชี้รัฐมนตรีมหาดไทย ปลัดฯ มหาดไทยว่าจะให้หันซ้าย-หันขวา “คิดตาม-พูดตาม-ทำตาม”

หรือโตแล้ว “คิดเอง-พูดเอง-ทำเอง” ได้ มีวิสัยทัศน์ผู้นำ สั่งการ แก้ไข ปัญหาและสถานการณ์เฉพาะหน้าในจังหวัดตัวเองได้
เพราะผู้ว่าฯ “มีอำนาจเต็ม” ในจังหวัดตัวเองอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นดาวฤกษ์ มีแสงในตัว แต่ที่ผ่านๆ มา ด้วยระบบ “สยบ-สอพลอ” ด้อยค่าตัวเองลงเป็นดาวเคราะห์
ต้องคอยอิงแสงรัฐมนตรี, แสงปลัดฯ ส่อง จึงเป็นนิสัย เล็กๆ รวบเอง ใหญ่ๆ ต้องให้เจ้านายซิกแนล

ฉะนั้น ตอนนี้ รัฐบาล โดยศบค.ไม่ลงไปจัดตารางกิน-ตารางนอนให้แบบครอบจักรวาลเป็นโซนสีเหมือนก่อนแล้ว
ให้แต่ละผู้ว่าฯในฐานะ “ผบ.พื้นที่” กำหนดเอง พื้นที่ไหนเสี่ยงสูงสุด, เสี่ยงมาก-เสี่ยงน้อย หรือไม่เสี่ยง แค่ระมัด-ระวังไว้ แล้วออกมาตรการควบคุมให้เป็นไปตามนั้น

มีอำนาจแล้ว หัดให้รู้จักรับผิดชอบตามอำนาจบ้าง จะได้เทสต์ไปในตัว ผู้ว่าฯ คนไหนเพชร คนไหนตะกั่ว ให้งานคัดคน ต่อไป มหาดไทยจะได้มีเพชรบริหาร

อีกเรื่อง ที่รัฐควรต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน คือเรื่อง “อาหารทะเล”
ตอนนี้ คนไม่กล้าซื้อ ไม่กล้ากินอาหารทะเล กลัวติดโควิด จนกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก กองทิ้ง เป็นปัญหาทุกข์ทั้งชาวประมงและชาวตลาดร้านค้า

ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านด่วนครับ เห็นว่าตอนนี้ ไม่เพียงคนไทย ลาวก็ผวา จะยกเลิกนำเข้าอาหารทะเลชั่วคราว

ผมเป็นคนแม่กลอง “สมุทรสงคราม” ชานบ้านติดกับมหาชัย “สมุทรสาคร” พลอยทุกข์ไปด้วย

อยากบอกว่า โควิดกับกุ้ง หอย ปู ปลา คืออะไรที่เป็นอาหารทะเล ยังไงๆ มันก็ไม่ข้ามสายพันธุ์ไปติดกันได้


อีกอย่างแพกุ้งมหาชัย เป็นตลาดกลางสำหรับ “กุ้งเลี้ยง” คือกุ้งมาจากบ่อ ไม่ใช่กุ้งทะเล

ส่วน กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ที่ต้องมาจากทะล เขาขายคนละที่-คนละส่วนกับตลาดกุ้ง

ดังนั้น ไม่ว่ามองมุมไหน ต่อให้กุ้งจากตลาดมหาชัยก็เถอะ ซื้อได้-กินได้ครับ โควิดติดอาหารทะเลไม่ได้พันเปอร์เซนต์

ถ้าเกรงปัญหามาจาก “แรงงานพม่า” นั่นเฉพาะที่มหาชัย และมันก็ผ่านไปแล้ว แต่กับที่อื่น จังหวัดอื่นทั่วไป ไม่มีอะไรที่ต้องผวาจนไม่กล้าซื้อกิน

ถ้ายังกลัว ผมจะบอกแหล่งชัวร์ให้ กุ้ง หอย ปู ปลา ที่ตลาดสดสมุทรสงคราม มั่นใจได้ที่สุด แต่ไม่รู้เขาเปิดหรือยัง
เพราะอะไร เพราะผมเห็นทางจังหวัด โดยเฉพาะนายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม “นายมงคล สุขเจริญคณา” ออกมา “ล็อกดาวน์” ตลาดอาหารทะเลของแม่กลองก่อนเพื่อน

คือตั้งแต่วันแรก พลันมีข่าวมหาชัย …..
ทางการยังไม่ทันแอคชั่นอะไร แต่ทางนายกฯ ประมงสมุทรสงครามแอคชั่น “เซฟสังคม” ไว้ก่อนทันที-ทันใด

อยากให้สังเกต
“มหาชัย-แม่กลอง” ยังไงๆ แยกกันไม่ขาดในการไปมาหาประจำวัน แต่คนแม่กลอง โควิดไม่ได้แอ้ม
ตื่นตัวไว รับผิดชอบสูง โควิดมาปุ๊บ พนมมือบอก “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม” ปั๊บ แล้วเห็นมีใครเป็นไรมากมั้ยล่ะ?


อาหารทะเล มาจากน้ำเค็ม โควิดมันแสบตา ซื้อกิน-ซื้อขายกันได้ ขออย่างเดียว ต้องทำให้สุก ที่ให้สุกไม่ใช่เพราะโควิด แต่เพราะน้ำสมัยนี้ สารเคมีมันมาก

พวกส้มตำปูม้า ส้มตำกุ้ง ส้มตำหอยแครง เลือดซกๆ น่ะ ขอทีเถอะพ่อคุณ-แม่คุณ ไม่โควิดหรอก แต่พยาธิมันยุ่บ!

พวกนิยมพล่า ยำ ดิบๆ สุกๆ ปูม้า และกุ้ง วันหลังผมจะแนะสูตรเด็ดสะระตี่ให้ ทำตามผมบอก สบายมาก อย่างเก่งแค่จู๊ดๆพองาม

วันนี้ จบก่อนดีกว่า.

 

Written By
More from plew
“แบงก์ชาติ” ภาคเอกชน – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “แบงก์ชาติ” ประหนึ่ง “เจ้าหญิงนิทรา” เธอ “ตื่นแล้ว” วันนี้ ตื่นในความสนใจผู้คน ผู้มีต้นทุนรักต่อเธอ ต่างปรารถนา ทะนุถนอม...
Read More
0 replies on “เซนิดเดียว “รุมเผา” กันแล้ว”